ในค่ำคืนที่สปอร์ตไลท์ทุกดวงส่องไปหา อุสมาน เดมเบเล เป็นค่ำคืนเดียวกันที่ ไอตานา บอนมาตี กองกลางสาวทีมชาติสเปนจาก บาร์เซโลนา คว้ารางวัลบัลลงดอร์หญิงสมัยที่ 3 ติดต่อกัน เป็นคนแรกในประวัติศาสตร์
ซึ่งเรื่องราวของเธอก็น่าสนใจยิ่งนัก เพราะในวัยเด็ก ไอตานา บอนมาตี ถือเป็นเด็กผู้หญิงคนเดียวที่เล่นฟุตบอลในหมู่บ้าน ก่อนค่อย ๆ ใช้ความมุ่งมั่นพัฒนาฝีเท้าจนประสบความสำเร็จอย่างทุกวันนี้
เรื่องราวของเธอเป็นเช่นไร? ติดตามได้ที่นี่
หนอนหนังสือ และเด็กผู้หญิงคนเดียวที่เล่นฟุตบอลในหมู่บ้าน
ไอตานา บอนมาตี เติบโตมาอย่างสงบสุขในริเบส หมู่บ้านที่ตั้งอยู่ชานเมืองบาร์เซโลนา ที่มีผู้อยู่อาศัยประมาณ 30,000 คน ในครอบครัวที่มีคุณพ่อและคุณแม่เป็นอาจารย์สอนภาษาและวรรณคดีคาตาลัน จึงทำให้เธอถูกปลูกฝังให้รักการอ่านตั้งแต่วัยเยาว์
บ้านของเธอก็เปรียบเสมือนห้องสมุดเล็ก ๆ ที่มีหนังสือประดับอยู่ในทุกห้อง ซึ่งเธอก็หมกหมุ่นอยู่กับการอ่านหนังสือในทุก ๆ วัน โดยเฉพาะ หนังสือปรัชญา กฎหมาย แล ะประวัติศาสตร์ อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงวัยอันสมควร พ่อแม่ของเธอก็ต้องการให้ลูกสาวคนนี้ออกไปท่องโลกกว้าง
บอนมาตี เคยลองเล่นกีฬาหลาย ๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็น ว่ายน้ำ หรือ เล่นบาสเกตบอล แต่เมื่อถึงจุดหนึ่งเธอก็รู้ว่า “ฟุตบอล” คือสิ่งที่เหมาะสมที่สุดสำหรับทั้งตัวเธอและครอบครัว กระทั่งในปี 2005 ขณะที่อายุ 7 ปี บอนมาตี ก็ได้เข้าไปอยู่ในทีมเยาวชนของ ริเบส สโมสรฟุตบอลท้องถิ่น และกลายเป็นผู้หญิงคนเดียวของสโมสรแห่งนี้
“เธอเหมือนคลื่นสึนามิ ในสนามเธอคือพลังแห่งธรรมชาติ การได้เห็นเธอเล่นนั้นช่างน่าตื่นเต้นเหลือเกิน เธอมีสิ่งที่พิเศษกว่าคนอื่น ๆ นั่นคือความมีชีวิตชีวา นิสัยที่อยากลงเล่นอยู่เสมอนั่นคือความแตกต่าง” ออสการ์ กาเมซ เป็นโค้ชคนแรกของ บอนมาตี กล่าวผ่าน BBC
“เรารู้ว่าผู้ชายเป็นยังไง และในตอนนั้นพวกเขาเลือกปฏิบัติต่อเธอเพียงเพราะเธอเป็นผู้หญิงคนเดียว แต่ผมไม่เคยต้องไกล่เกลี่ย ไอตานา มีนิสัยที่แข็งแกร่งมากและไม่ยอมให้ใครมาเหยียบย่ำเธอเด็ดขาด”
“เธอเล่นในสนามที่ขรุขระ เธอจะเข้าสกัด ลุกขึ้นมาปัดฝุ่นตัวเอง และไม่เคยบ่นเลย”
เริ่มต้นที่ บาร์เซโลนา
ที่ ริเบส บอนมาตี เริ่มเล่นในตำแหน่งกองหลัง โดย กาเมซ เห็นความสามารถในการแย่งบอลและการเริ่มเกมรุกจากแดนหลัง ถึงขนาดเปรียบเทียบเธอกับ กับ การ์เลส ปูโยล อดีตกัปตันทีม บาร์เซโลนา ก่อนที่ในเวลาต่อมาเธอจะถูกขยับมาเล่นเป็นกองกลาง
หลังเปลี่ยนมาเล่นเป็นมิดฟิลด์ ชื่อของ บอนมาตี ก็กลายเป็นที่พูดถึงอย่างมากในวงการฟุตบอลเด็ก จนในปี 2012 บาร์เซโลนา เห็นแววและคว้าเธอไปร่วมทีม
แน่นอนว่าการย้ายจากสโมสรท้องถิ่นมาอยู่ บาร์โซลนา ถือเป็นการยกระดับมาตรฐานฟุตบอลขึ้นอย่างมาก แต่กลับกันสภาพแวดล้อมภายนอกสนามกลับไม่ได้แตกต่างจากเดิมมากนัก เนื่องจาก ณ ตอนนั้น สิ่งอำนวยความสะดวกของทีมเยาวชนฟุตบอลหญิงบาร์เซโลนา ยังไม่ได้รับการพัฒนาเท่าที่ควร แตกต่างจาก ลา มาเซีย อย่างสิ้นเชิง
"We were kids, yes, but it's true she had already this intensity, this way of seeing football in a different way to most people" in an exclusive interview, journalist @mariagarridos speaks to me about playing with a young Aitana Bonmatí. For @ForbesSports https://t.co/2BgdS29ULs pic.twitter.com/oHwp3GSr1U
— Asif Burhan (@AsifBurhan) February 3, 2024
ในช่วงเวลานั้นทีมเยาวชนหญิงบาร์เซโลนา ไม่มีแม้กระทั่งห้องอาบน้ำ หรือที่พักในสนามซ้อม ส่วนการฝึกซ้อมในยิม หรือการวิเคราะห์แท็คติกผ่านวิดีโอ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนาจิตใจและร่างกายของผู้เล่นเยาวชนก็อย่าถามถึงเลย
เมื่อการฝึกซ้อม 3 ชั่วโมงเสร็จสิ้นลง บอนมาติ จะเฝ้ามองเพื่อนร่วมทีมคนแล้วคนเล่าขึ้นรถของครอบครัวเพื่อเดินทางกลับบ้าน แต่เธอต้องอดหลับอดนอนและอ่านหนังสือนั่งรถประจำทางกลับบ้านในระยาทาง 23 ไมล์ เนื่องจากแม่ของเธอป่วย และพ่อไม่มีใบขับขี่
“เธอเหนื่อยเพราะมันทรมาน เธอเกือบจะเลิกเล่นฟุตบอลตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่นด้วยซ้ำ” ลิลี่ ป้าของเธอกล่าว
สู่บัลลงดอร์ 3 สมัย
แม้จะเริ่มต้นได้อย่างทรหด แต่ บอนมาตี ไม่เคยปริปากบ่นแม้แต่น้อย เธอยังก้มหน้าก้มตาทำหน้าที่ของตนเองอยู่เสมอ และพัฒนาตัวเองในทุก ๆ วัน ไม่ใช่แค่เรื่องในสนามเท่านั้น เพราะนอกสนามเธอเริ่มไปพบนักจิตวิทยาเพื่อปรึกษาเรื่องการควบคุมอารมณ์ในสนาม
“ฉันจำได้ว่าเธอเรียกร้องตัวเองอย่างสุดโต่ง เธอหมกมุ่นอยู่กับกีฬา และมุ่งมั่นที่จะพัฒนาตัวเอง มีบางครั้งที่เธอค้างคืนที่บ้านฉันหลังการฝึกซ้อม และหลังอาหารเย็น เธอก็ยังคงหมกมุ่นอยู่กับคอนเทนต์เกี่ยวกับฟุตบอลบนอินเทอร์เน็ต” คาร์ลา ริเวรา อดีตเพื่อนร่วมทีมกล่าวถึง บอนมาตี

หลังจากเล่นให้กับทีมเยาวชน และ บาร์เซโลนา เบ ในช่วงปลายฤดูกาล 2015-16 บอนมาตี ก็ประเดิมสนามให้กับทีมชุดใหญ่อย่างเป็นทางการ ในศึกโกปาเดลาเรย์ รอบก่อนรองชนะเลิศ ก่อนที่หลังจากนั้นเธอจะเป็นหัวใจในแดนกลางของ บาร์เซโลนา เรื่อยมา
“ไอตานา เป็นนักเตะที่มีความทะเยอทะยานสูงมาก เธอต้องการลงเล่นและต้องเป็นคนสำคัญอยู่เสมอ ซึ่งบทบาทนั้นก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเป็นความท้าทายสำหรับเธอ” หลุยส์ คอร์เตส อดีตกุนซือ บาร์เซโลนา กล่าว
“เธอเป็นนักเตะที่ทุ่มเทอย่างเต็มที่ในการฝึกซ้อมทุกครั้ง และจากสิ่งนั้น เธอจึงสามารถคว้าตำแหน่งในทีมชุดใหญ่มาได้”
บอนมาตี คว้าแชมป์ลีกในประเทศ 5 สมัยติดต่อกัน ระหว่างปี 2019-2025 และ คว้าแชมเปียนส์ลีก 3 สมัย ส่วนกับทีมชาติสเปนเธอเป็นผู้เล่นคนสำคัญในการพาทัพกระทิงสาวคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2023 ที่ประเทศออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์

หลังจบทัวร์นาเมนต์หนอนหนังสือจากริบาส ก็คว้ารางวัลบัลลงดอร์สมัยแรกของเธอได้สำเร็จ ด้วยคะแนนเอกฉันท์เหนือ ซาแมนธา เคอร์ และ ซัลมา ปารายูเอโล ก่อนที่อีก 2 ปีถัดมา เธอจะทำแบบนี้ได้เช่นกัน
“ฉันมาที่นี่เป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกันแล้ว และในทุกครั้งฉันยังคงไม่อยากเชื่อเลย ขอบคุณ France Football สำหรับสิ่งนี้” ไอตานา บอนมาตี กล่าวหลังคว้าบัลลงดอร์ สมัยที่ 3 ในปี 2025
“ถ้าเป็นไปได้ ฉันก็อยากจะแบ่งปันให้เพื่อนร่วมทีม เพราะฉันคิดว่านี่เป็นปีที่ยอดเยี่ยมสำหรับเพื่อนร่วมทีมของฉัน”
“นอกจากนี้ฉันได้รับรางวัลจาก อันเดรส อิเนียสต้า หนึ่งในไอดอลตั้งแต่เด็ก ฉันได้เรียนรู้ศาสตร์ฟุตบอลจากพวกเขา จนถึงทุกวันนี้ฉันขอบคุณพวกเขาสำหรับทุกสิ่งที่พวกเขาสอน ขอบคุณพวกเขาสำหรับทุกสิ่งที่พวกเขาทำในวงการฟุตบอล”
“ฉันเป็นหนี้ บาร์เซโลนา ทุกอย่าง ฉันหวังว่าจะได้เป็นตัวแทนของตราสโมสรนี้ไปอีกนานเท่านาน”