เอสเตเวา วิลเลียน : จากเด็กที่ถูกล้อเลียน สู่ความหวังใหม่ที่ทำให้โลกเชื่อในฟุตบอลบราซิลอีกครั้ง

Nopphasin Kulabburi

เอสเตเวา วิลเลียน : จากเด็กที่ถูกล้อเลียน สู่ความหวังใหม่ที่ทำให้โลกเชื่อในฟุตบอลบราซิลอีกครั้ง image

“สไตล์การเล่นของเขาชวนให้หลงใหล... มันปลุกให้ทั้งสนามมีชีวิตขึ้นมา”
โจเอา เปาโล ซัมไปโอ หัวหน้าฝ่ายเยาวชนของพัลไมรัส กล่าวถึงเด็กคนหนึ่งที่เขาเชื่อว่าจะกลายเป็นนักฟุตบอลระดับโลกในไม่ช้า เด็กที่ชื่อ เอสเตเวา วิลเลียน

ซัมไปโอทำงานอยู่ในระบบเยาวชนของพัลไมรัสมากว่าทศวรรษ และเขาคือคนที่อยู่ตรงนั้นในวันที่เอสเตเวาย้ายจากครูเซโร่มาเข้าทีม เมื่ออายุเพียง 14 ปี
“มีคนบอกว่าเขาจะเล่นในอังกฤษยาก เพราะบอลที่นั่นใช้ร่างกายเยอะ” ซัมไปโอเล่า “แต่เอสเตเวาเป็นนักเตะที่ฉลาดมาก เขารู้ว่าจะใช้จุดแข็งของตัวเองให้ชนะคู่แข่งยังไง”

สี่ปีผ่านไป เด็กคนนั้นกลายเป็นผู้เล่นของเชลซี  และเพียงแค่ไม่กี่สัปดาห์หลังเปิดตัว เขาก็ยิงประตูชัยในเกมกับลิเวอร์พูล ต่อด้วยการยิงสองลูกให้ทีมชาติบราซิลถล่มเกาหลีใต้ 5-0
นี่คือช่วงเวลาที่ทั้งอังกฤษและบราซิล ต่างเริ่มพูดถึงชื่อ “เอสเตเวา” ในฐานะดาวรุ่งที่อาจเปลี่ยนโฉมหน้าฟุตบอลบราซิลรุ่นต่อไป

จากเด็กที่โดนล้อสู่ ความหวังใหม่ของทีมชาติบราซิล

จาก “เด็กไนกี้อายุ 10 ขวบ” สู่ “นักเตะที่ทั้งบราซิลเฝ้าจับตา”

ย้อนกลับไปก่อนหน้านั้น เอสเตเวาเป็นเด็กบราซิลคนแรกที่เซ็นสัญญาสปอนเซอร์กับ Nike ตั้งแต่อายุเพียง 10 ปี
ซามูเอล วานานซิโอ นักข่าวที่ติดตามครูเซโร่มาตั้งแต่ปี 2016 เล่าว่า “เขาเป็นเด็กที่มีวินัยและตั้งใจสุดๆ แม้จะมีสัญญากับไนกี้ แต่เขายังฟังโค้ชเหมือนเดิม ไม่เปลี่ยนไปเลย”

เชลซีเองเริ่มจับตาเอสเตเวาตั้งแต่สมัยอยู่พัลไมรัส ก่อนจะตกลงคว้าตัวมาล่วงหน้าในเดือนพฤษภาคม 2024 ด้วยค่าตัวรวมกว่า €34 ล้านยูโร และจะย้ายอย่างเป็นทางการในซัมเมอร์ถัดมา
ในหมู่ทีมงานเชลซี เขาถูกจัดให้อยู่ใน “สามดาวรุ่งที่เก่งที่สุดในโลก” เคียงข้างกับ ลามีน ยามาล (บาร์เซโลนา) และ เอนดริก (เรอัล มาดริด)

แต่ในขณะที่ชื่อของเอนดริกเริ่มเงียบลงจากการไม่ได้รับโอกาสมากนักที่มาดริด
เสียงชื่นชมในบราซิลกลับเทไปหา “เอสเตเวา” แทน

คามิล่า อัลเวส ผู้สื่อข่าวจาก TV Globo บอกว่า
“ทุกวันนี้คนพูดถึงเอสเตวามากกว่าเอนดริกเยอะ ก็เพราะเขาได้ลงเล่น!
เวลาคุณเห็นรูปของเอนดริก มักจะเป็นภาพเขานั่งบนม้านั่งสำรอง ส่วนเอสเตเวากำลังสร้างชื่อในสนามจริงๆ”

จาก ‘Cuiaba-Man’ สู่ ‘Liverpool-Man’ เมื่อคำล้อเลียนกลายเป็นคำเย้ยกลับ

ช่วงหนึ่งในบราซิล มีแฟนบอลบางกลุ่มตั้งฉายาให้เอสเตเวาว่า ‘Cuiaba-Man’ เป็นการแซวว่าเขามักจะเล่นดีเฉพาะกับทีมเล็ก (เพราะคูยาบาอยู่ในดิวิชัน 2) 

แต่ซัมไปโอกลับหัวเราะกับเรื่องนั้น

“นั่นมันคำล้อจากแฟนทีมคู่แข่ง ไม่มีใครในพัลไมรัสจริงๆ ที่คิดแบบนั้น เอสเตเวาตอบทุกอย่างในสนามเสมอ เขาเป็นหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดของบราซิลในปี 2024 เลยก็ว่าได้”

แม้แต่เชลซีก็เอาเรื่องนี้มาเล่นด้วยอารมณ์ขัน หลังเกมที่เขายิงลิเวอร์พูล สโมสรโพสต์ภาพเขาพร้อมแคปชันว่า
“Liverpool-Man”และหลังจากยิงให้บราซิลสองลูก ก็เปลี่ยนเป็น “Seleção-Man”

การปรับตัวที่ “เหนือความคาดหมาย”

เอสเตเวาเพิ่งลงสนามให้เชลซีไปเพียง 9 นัด แต่แฟนบอลที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ ก็เริ่มส่งเสียงฮือฮาทุกครั้งที่บอลมาถึงเท้าเขา
ในเกมเปิดตัวเต็มรูปแบบ เขาโชว์ลากเดี่ยวก่อนจ่ายให้เอ็นโซ เฟร์นันเดซ ยิงประตูง่ายๆ ในเกมชนะเวสต์แฮม 5-1  และตั้งแต่นั้น ทุกคนก็จับตาเขาเป็นพิเศษ

อานา คันเฮโด นักข่าวจาก Globo Esporte ที่บินมาดูเขาในลอนดอน กล่าวว่า
“สิ่งที่ทำให้ทุกคนทึ่งคือ เขาปรับตัวกับชีวิตในอังกฤษได้เร็วมาก ทั้งกับเพื่อนร่วมทีม ลีก และวิธีการเล่น เขาดูโตขึ้นในแท็กติกและในการตัดสินใจต่างๆ มากจากสมัยพัลไมรัส”

เธอเสริมว่า การย้ายมาเชลซีคือทางเลือกที่ถูกต้องสำหรับนักเตะที่ต้องการลงสนามต่อเนื่องในยุโรป
“ตอนนี้เวลาเขาทำอะไรได้ดี คลิปวิดีโอจะเต็มโซเชียลเลย โดยเฉพาะจากแฟนพัลไมรัสที่ยังคอยเอาใจช่วยอยู่”

“เขาเกิดมาเพื่อเล่นให้บราซิล”

ซัมไปโอยังคงติดตามทุกนัดของลูกศิษย์เก่า แม้อยู่ไกลจากอังกฤษ
“ผมดูเกมของเขาที่เชลซี เขาดูผ่อนคลายและมีความสุข มันไม่แปลกเลยที่แฟนบอลจะตกหลุมรักเขาเร็วขนาดนี้”
เขากล่าว พร้อมย้ำว่า จุดแข็งที่สุดของเอสเตเวาไม่ใช่แค่เทคนิค แต่คือ “อิสระในการเล่น”

“ตั้งแต่เด็ก เขาได้รับอิสระให้ดริบเบิล ให้สร้างสรรค์ และเล่นฟุตบอลอย่างมีความสุข
สิ่งนั้นหล่อหลอมให้เขาเป็นนักเตะที่กล้าแสดงออกและพร้อมจะเติบโตในระดับสูง”

ในบราซิล หลายคนเริ่มเรียกเอสเตเวาว่า “นีมาร์คนต่อไป”
และแม้ชื่อเสียงจะดูเป็นภาระสำหรับเด็กอายุ 18 ปี ซัมไปโอกลับเชื่อว่าเขารับมือได้แน่นอน

“เด็กแบบเอสเตเวาคุ้นเคยกับแรงกดดันตั้งแต่ยังเล็ก
เขาเล่นให้ทีมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ และตอนนี้ก็ใส่เสื้อทีมชาติบราซิล
ถ้าเขาไม่กลัวที่จะใส่เสื้อที่หนักที่สุดในโลก... เขาก็พร้อมสำหรับทุกอย่างแล้ว”

จากเด็กชายผู้เซ็นสัญญากับไนกี้ตั้งแต่อายุ 10 ขวบ จาก “Cuiaba-Man” ที่เคยถูกเย้ยบนโซเชียล
วันนี้ เอสเตเวา วิลเลียน กลายเป็น “Liverpool-Man” ที่ทั้งอังกฤษและบราซิลพูดถึง

และในขณะที่เอนดริกยังต้องหาจังหวะของตัวเองในมาดริดดาวรุ่งจากพัลไมรัสคนนี้ กำลังทำให้โลกรู้ว่าบราซิลมี “อนาคตใหม่” ที่ชื่อ เอสเตเวา วิลเลียน

บทความที่เกี่ยวข้อง

Nopphasin Kulabburi

นักเขียน Sporting News Thailand ที่ติดตามทั้งกีฬาฟุตบอล, บาสเก็ตบอล รวมถึงแวดวงอีสปอร์ต