เกิดอะไรขึ้น? เมื่อดาวรุ่งตัวความหวังอย่าง เอนดริก ไม่มีชื่อลงเล่นนานถึง 154 วัน

Nopphasin Kulabburi

เกิดอะไรขึ้น?  เมื่อดาวรุ่งตัวความหวังอย่าง เอนดริก ไม่มีชื่อลงเล่นนานถึง 154 วัน image

154 วัน  คือระยะเวลาที่ เอนดริค เฟลิเป้ ไม่ได้สัมผัสเกมฟุตบอลอย่างเป็นทางการ
ตั้งแต่วันที่ 18 พฤษภาคม เกมที่เขาลงเล่นให้ เรอัล มาดริด พบกับ เซบีญ่า จนถึงวันนี้ เด็กหนุ่มวัย 19 ปีจากบราซิล ต้องใช้ชีวิตในบทใหม่ของการเป็นนักเตะอาชีพที่ไม่ได้ถูกวางให้อยู่ในแสงไฟ

ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น หลายสิ่งในมาดริดเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง คาร์โล อันเชล็อตติ ย้ายออกจากเก้าอี้กุนซือเพื่อไปคุมทีมชาติบราซิล
ชาบี อลอนโซ่ เข้ามาสานงานต่อ พร้อมแผนการเล่นใหม่ที่เต็มไปด้วยการแข่งขัน

และ เอนดริค เอง ต้องเผชิญทั้งอาการบาดเจ็บสองครั้ง, ข่าวลือการย้ายทีม, รวมถึงการรับมอบเสื้อหมายเลข 9 อันศักดิ์สิทธิ์ของราชันชุดขาว

5 เดือนที่เอนดริคหายไป และการเติบโตในเงาของหมายเลข 9

ย้อนกลับไปเมื่อมาดริดบรรลุข้อตกลงกับ พัลไมรัส ในเดือนธันวาคม 2022 โลกฟุตบอลมองว่า เด็กคนนี้คือ

"ว่าที่ซูเปอร์สตาร์คนต่อไปของบราซิล"
แต่ทุกอย่างในยุโรปไม่ง่ายเหมือนในบ้านเกิดฤดูกาลแรกของเขากับมาดริด (หลังอายุครบ 18 ปีและย้ายมาร่วมทีมในซัมเมอร์ 2024) ถูกวางไว้ให้เป็น “ปีแห่งการเรียนรู้” มากกว่าการแจ้งเกิด
แม้เขาจะได้ลงสนามไปถึง 37 นัด ยิงได้ 7 ประตู ซึ่งถือว่าไม่น้อยเมื่อเทียบกับ วินิซิอุส จูเนียร์ และ โรดรีโก้ ในปีแรกของพวกเขา
แต่เอนดริคก็รู้ดี  ว่าในสายตาของอันเชล็อตติ เขายังไม่พร้อม

“เด็กอายุแบบนี้ในมาดริด ต้องนั่งรอจนกว่าจะถึงเวลาที่เขาเป็นตัวจริงแบบไม่มีข้อโต้แย้ง”
คือคำพูดของอันเชล็อตติที่สะท้อนเส้นทางของเอนดริกได้อย่างตรงไปตรงมา

เมื่อชาบี อลอนโซ่ เข้ามา และความหวังใหม่ที่ยังไม่มาถึง

วันที่มาดริดแต่งตั้ง ชาบี อลอนโซ่ เข้ามาแทน อากาศรอบเบร์นาเบวเต็มไปด้วยความหวัง หลายคนคิดว่ากุนซือวัยหนุ่มที่เชื่อมั่นในพลังของดาวรุ่งอย่างเขา จะเปิดพื้นที่ให้เอนดริคได้โชว์ศักยภาพมากขึ้น

แต่ความจริงกลับตรงข้าม อลอนโซ่พูดกับเอนดริกอย่างตรงไปตรงมาว่า

“ปีนี้จะเป็นปีที่ยากสำหรับนาย เพราะการแข่งขันในตำแหน่งนี้สูงมาก”
และนับจากนั้นมา เขาถูกเรียกติดทีมใน 5 นัดหลังสุด แต่ไม่เคยได้ลงสนามแม้แต่นาทีเดียว

“เวลาของเขาจะมาถึง”  อลอนโซ่กล่าวไว้ก่อนเกมกับบียาร์เรอัลแต่เวลานั้นยังไม่มาถึงจริง ๆ

อาการบาดเจ็บที่พรากทุกอย่าง

ทุกอย่างเริ่มพังลงในเกมกับเซบีญ่าเมื่อเดือนพฤษภาคม  เอนดริคได้รับบาดเจ็บกล้ามเนื้อแฮมสตริง เขาพลาดการไปเล่นใน สโมสรโลก ที่จัดขึ้นในสหรัฐฯ ซึ่งกลายเป็นเวทีแจ้งเกิดของ กอนซาโล การ์เซีย ดาวยิงจากทีมเยาวชนที่คว้ารางวัลรองเท้าทองคำของทัวร์นาเมนต์ในขณะที่เอนดริกต้องนั่งดูทุกอย่างผ่านจอทีวีที่ศูนย์ฝึกบาลเดเบบาส

แม้เจ้าตัวพยายามอย่างหนัก  ฝึกซ้อมวันละสามรอบทั้งกับทีมแพทย์ของมาดริดและเทรนเนอร์ส่วนตัว  แต่เมื่อกลับมาฝึกซ้อมกับทีมอีกครั้งที่ปาล์มบีช เขาก็ได้รับบาดเจ็บซ้ำอีกครั้งนั่นทำให้เขาต้องพักยาวจนถึงเดือนกันยายน

ในช่วงเวลาพักฟื้น เขาใช้ชีวิตในอีกบทบาทหนึ่ง  แต่งงานกับ กาเบรียลลี มิแรนด้า และใช้เวลาฮันนีมูนที่ญี่ปุ่น พร้อมพกเทรนเนอร์ส่วนตัวไปด้วย เพื่อไม่ให้เสียเวลาฟื้นฟูร่างกายแม้แต่วันเดียว

หมายเลข 9 แห่งความกดดัน

เดือนสิงหาคม มาดริดประกาศให้เอนดริคเป็นผู้สวมเสื้อหมายเลข 9 คนใหม่หมายเลขที่เคยอยู่บนหลังของตำนานอย่าง ดิ สเตฟาโน่, โรนัลโด้ นาซาริโอ, คาริม เบนเซม่ามันคือเกียรติยศ  แต่ก็เป็นภาระที่หนักสำหรับเด็กวัย 19

“เขามีสัญชาตญาณของกองหน้า เขารู้ว่าจะต้องยิงเมื่อไหร่ และมีความสามารถในการหาพื้นที่ที่สุดยอด”  ชาบี อลอนโซ่ กล่าวถึงเอนดริค

แต่จนถึงตอนนี้ หมายเลข 9 คนนั้นยังไม่ได้สัมผัสเกมแม้แต่นาทีเดียวในฤดูกาลใหม่

เมื่อความอดทนคือคำตอบเดียว

เวลานี้ เอนดริคไม่ได้อยู่ในทีมชาติบราซิลชุดใหญ่เป็นครั้งที่สามติดต่อกันนับตั้งแต่เกมพ่ายอาร์เจนตินา 1-4 เมื่อเดือนมีนาคม  เกมสุดท้ายของ โดริวาล จูเนียร์ ก่อนที่อันเชล็อตติจะเข้ามาคุมทัพเซเลเซา

เขาใช้ช่วงพักเบรกทีมชาติอยู่ที่มาดริด ฝึกซ้อมตามโปรแกรมพิเศษเพื่อเรียกความฟิตกลับมาคนรอบข้างบอกว่าเขายังคงมีกำลังใจดี และตั้งใจจะกลับมาติดทีมชาติให้ได้ก่อนฟุตบอลโลกปีหน้า

ติอาโก้ เฟรย์ตัส เอเยนต์ของเขาจาก Roc Nation บอกกับ The Athletic ว่า

“เอนดริคยังมั่นใจเสมอ เขารู้ดีว่าทุกครั้งที่ได้ลงสนาม เขามักจะสร้างสิ่งพิเศษได้เสมอ”

ในสถิติ 847 นาทีที่ได้เล่น เขายิงไปแล้ว 7 ประตู  หรือเฉลี่ย 0.74 ประตูต่อ 90 นาทีมันคือหลักฐานว่าศักยภาพยังอยู่ครบ เพียงแต่เวลายังไม่ใช่ของเขา

บททดสอบของ ‘เจ้าหนูหมายเลข 9’

ภายในศูนย์ฝึกบาลเดเบบาส ทุกคนยังคงเชื่อมั่นในเขาเอนดริกคือหนึ่งในดาวรุ่งที่มาดริดตั้งใจจะปลุกปั้นให้เป็น “ยุคต่อไปของทีม”
แต่ในโลกที่เต็มไปด้วยซูเปอร์สตาร์  การรอคอยคือบทเรียนที่สำคัญไม่แพ้การเล่นและบางที บทเรียน 154 วันที่ไร้เกมนี้
อาจเป็นจุดเริ่มต้นของความแข็งแกร่งในใจ ที่จะทำให้ เอนดริก เฟลิเป้ พร้อมจริง ๆ เมื่อ “เวลาของเขา” มาถึงในที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

Nopphasin Kulabburi

นักเขียน Sporting News Thailand ที่ติดตามทั้งกีฬาฟุตบอล, บาสเก็ตบอล รวมถึงแวดวงอีสปอร์ต