อองตวน เซเมนโย : นักเรียนอาชีวะผู้ถูกปฏิเสธซ้ำแล้วซ้ำเล่า สู่แข้งใหม่ แมนฯ ซิตี้

Maruak Tanniyom

อองตวน เซเมนโย : นักเรียนอาชีวะผู้ถูกปฏิเสธซ้ำแล้วซ้ำเล่า สู่แข้งใหม่ แมนฯ ซิตี้  image

เรียบร้อยโรงเรียนเรือใบไปอีกราย สำหรับ อองตัว เซเมนโย หลังเตรียมย้ายไปร่วมทัพ แมนฯ ซิตี้ ในช่วงตลาดหน้าหนาวนี้ ด้วยค่าฉีกสัญญา 65 ล้านปอนด์ 

อย่างไรก็ดี เส้นทางที่ผ่านมาของเขาก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะนอกจากแข้งชาวกานา จะถูกหลายทีมปฏิเสธซ้ำๆ จนต้องไปเรียนสายอาขีพ เขายังต้องเริ่มต้นจากนอกลีกกับทีมที่แทบไม่มีใครรู้จัก 

ติดตามเรื่องราวของเขาไปพร้อมกัน 

เด็กช่าง 

อันที่จริง โลกเกือบจะไม่ได้เห็นฝีเท้าของ อองตวน เซเมนโย แล้วด้วยซ้ำ 

เด็กหนุ่มชาวกานา ที่เกิดที่ลอนดอน อาจจะเป็นหนึ่งในนักเตะพรีเมียร์ลีกไม่กี่คน ที่ไม่เคยผ่านระบบอคาเดมี ด้วยเหตุผลว่าเขายังไม่ดีพอ 

ตอนอายุ 15 ปี เซเมนโย และ แลร์รี พ่อของเขา เดินทางไปตระเวนคัดตัวกับหลายสโมสรในลอนดอน ไล่ตั้งแต่ ท็อตแนมป์ ฮ็อตสเปอร์, เชลซี, อาร์เซนอล, ฟูแลม, คริสตัล พาเลซ, ชาร์ลตัน แอธเลติก หรือ มิลวอลล์ แค่ไม่มีทีมไหนตอบรับเขาเลย 

อย่างไรก็ดี ที่ เซเมนโย จำฝังใจที่สุดคงจะเป็น พาเลซ ที่เขาฝึกซ้อมอยู่กับทีมถึง 2 เดือน แต่สุดท้ายคำตอบคือความว่างเปล่า 

อันที่จริงในตอนนั้น เขาเล่นฟุตบอลกับ คิง ฟิชเชอร์ สโมสรในซันเดย์ลีก แค่คำปฏิเสธจาก พาเลซ มันทำให้เขารู้สึกหมดกำลังใจจนไม่อยากเล่นฟุตบอลอีกแล้ว  

“ผมไปคัดตัวกับหลายสโมสร และพวกเขาก็พูดเหมือนกันว่าผมยังไม่ดีพอ มันหนักหนานะสำหรับเด็กที่ได้ยินอะไรแบบนั้น” เซเมนโย ย้อนความหลังกับ Sky Sports 

“พาเลซ ทำผมเจ็บสุด เพราะผมอยู่กับพวกเขานานมาก การทดสอบของผมถูกเลื่อนออกไป และผมคิดว่าคงจะได้เซ็นสัญญา แต่มันก็ไม่เคยเกิดขึ้น” 

“ผมจำได้ว่าผมไปนั่งร้องไห้อยู่บนรถ ผมพูดกับพ่อว่า ‘ทำไมสิ่งนี้เกิดขึ้นซ้ำๆ?’ ผมหยุดเล่นฟุตบอลไปเป็นปี ไม่ได้เล่นกีฬาอะไรเลย เนื้อตัวอ้วนฉุ ผมคงไม่ได้มาถึงจุดนี้ แต่พระเจ้าก็นำทางมาให้ผม” 

แต่ความศรัทธาต่อพระเจ้า และการสนับสนุนจากครอบครัว ก็ทำให้เขาลุกขึ้นยืนอีกครั้ง จนได้มาพบกับ เดฟ ฮ็อคอะเดย์ อดีตกุนซือ ลีดส์ ยูไนเต็ด และ ฟอเรสต์ กรีน ที่ชวนเขามาเรียนต่อที่วิทยาลัยด้านกีฬาที่เมืองสวินดอน ทางตะวันตกของลอนดอน 

“เขายังคงมีทักษะที่สมบูรณ์ แต่ก็น้ำหนักเกินอยู่เล็กน้อย” ฮ็อคอะเดย์ กล่าวในวันพบ เซเมนโย 

ที่นี่เขากลายเป็นนักเรียนสายอาชีพในสาขาวิทยาศาสตร์การกีฬา พร้อมกับเล่นให้ทีมของ ฮ็อคอะเดย์ ก่อนที่การอุ่นเครื่องกับอะคาเดมีสโมสรอาชีพจะเปลี่ยนชีวิตเขาไปตลอดกาล 

“ตอนช่วงหน้าร้อน เราได้ลงเล่นเจอกับทีมอคาเดมี ผมจำได้ว่าผมยิงประตูใส่พวกเขาทุกทีม จากนั้นหลายทีมก็เข้าหาผม บริสตอล เบอร์มิงแฮม รวมถึง พาเลซ” เซเมนโยกล่าว

“ผมเลือก บริสตอล เพราะผมไม่อยากย้ายที่อยู่ใหม่ และหลังจากทดสอบฝีเท้า 2 สัปดาห์ ผมก็ได้เซ็นสัญญา” 

และกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่เขาไม่มีวันลืม 

ตัวโหดพรีเมียร์ลีก

การได้รับสัญญา 4 ปี ทั้งที่ไม่เคยเล่นให้อคาเดมีทีมไหนมาก่อน ถือเป็นก้าวกระโดดของ เซเมนโย เพราทันทีที่ย้ายมาอยู่กับทีม เขาก็ถูกดันขึ้นไปเล่นในทีมชุด U23 ตั้งแต่อายุเพียง 18 ปี 

หลังจากนั้นไม่นาน บริสตอล ก็ส่งเขาไปเสริมกระดูกกับทีมในลีกล่าง ทั้ง บาธ ซิตี้ และ นิวพอร์ท ซิตี้ โดยทีมหลังยังเป็นสโมสรที่ทำให้เขาเปลี่ยนตำแหน่งจากศูนย์หน้ามาเป็นปีกอีกด้วย 

“ผมเห็นเขาแค่ 5 นาทีตอนอายุ 18 และนั่นก็เพียงพอแล้ว” ไมเคิล ฟลินน์ กุนซือของ นิวพอร์ท ในตอนนั้นกล่าวกับ Telegraph Sport  

“เขาแข็งแกร่ง ว่องไว ใช้ได้ทั้งเท้าซ้ายและขวา เขาสามารถเล่นเป็นปีกแล้วครอสเข้าไป หรือตัดเข้ามา สิ่งนี้โดดเด่นมาก”

และหลังจากไปเล่นให้ ซันเดอร์แลนด์ อยู่อีกครึ่งฤดูกาล ในปี 2020/21 เซเมนโย ก็กลับมายึดตำแหน่งตัวจริงของ บริสตอล ได้สำเร็จ ก่อนจะยิงไป 5 ประตูจาก 50 เกม และยิงอีก 8 ประตูจาก 32 เกมในฤดูกาลต่อมา 

แต่ช่วงเวลาที่ เซเมนโย เฉิดฉายที่สุดในลีกล่างคือฤดูกาล 2022/23 ที่ทำไป 8 ประตูกับ 12 แอสซิสต์ในครึ่งฤดูกาลแรก จนถูก กานา เรียกติดธงลุยศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก 

นอกจากนี้ ความร้อนแรงของเขาในฤดูกาลดังกล่าว ยังทำให้ บอร์นสมัธ ควักเงิน 10 ล้านปอนด์ คว้าตัวเขามาร่วมทีมตั้งแต่ช่วงตลาดนักเตะหน้าหนาวปี 2023 ที่เจ้าตัวฝากผลงาน 1 ประตูจาก 11 เกมในพรีเมียร์ลีก 

บอร์นมัธ พบ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก 2024-25

แม้ว่าฤดูกาล 2023/24 เซเมนโย จะเริ่มต้นด้วยอาการบาดเจ็บในช่วงปรีซีซั่น จนต้องเข้ารับการผ่าตัดที่คาง แต่หลังจากหายดี เขาก็กลายเป็นกำลังสำคัญของ อันโดนี อิราโอลา ก่อนจะยิงไป 8 ประตูกับอีก 3 แอสซิสต์ในซีซั่นนั้น 

จากนั้น เส้นทางชีวิตของแข้งชาวกานา ก็กลายเป็นกราฟขาขึ้น เริ่มจากทำ 11 ประตูกับอีก 6 แอสซิสต์ ในปี 2024/25 และ 8 ประตูจาก 16 นัดในฤดูกาลนี้ จนได้รับความสนใจจากหลายทีมใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น ลิเวอร์พูล, แมนฯ ยูไนเต็ด ไปจนถึง แมนฯ ซิตี้ 

และสุดท้ายดูเหมือนว่า เรือใบสีฟ้า จะได้ลายเซ็นเขาไปครอบครอง หลังเตรียมย้ายไปโชว์ฝีเท้าในถิ่นเอติฮัด ในเดือนมกราคมที่จะถึงนี้ ด้วยค่าฉีกสัญญาสูงถึง 65 ล้านปอนด์ 

แน่นอนว่านอกจากเรื่องฝีเท้าแล้ว สิ่งสำคัญที่ทำให้ เซเมนโย มาถึงจุดนี้ คือหัวใจที่ไม่ยอมแพ้ เขาอาจจะเคยท้อ แต่ไม่อยากล้มเลิก และพยายามสู้ต่อ 

“ผมแค่อยากพิสูจน์ตัวเองว่าดีพอในที่ที่ผมอยู่ นั่นเป็นแนวคิดของผมมาตั้งแต่เด็กๆ” เซเมนโย กล่าวกับ Sky Sports

“ผมเคยเรียนรู้จากวิธีที่ยาก ไม่ได้ซ้อมในสนามซ้อมดีๆ พื้นสนามชั้นยอด หรือกับโค้ชมืออาชีพ”

“คุณเรียนรู้ในวิธีที่ต่างออกไป ลงเล่นในสนามขรุขระ เจอกับผู้เล่นที่ดิบเถื่อน โค้ชเป็นแค่พาร์ทไทม์ ทั้งหมดนี้จะหล่อหลอมตัวตนในหลายด้าน แต่การเล่นในซันเดย์ลีกนั้นก็ยากกว่าจริงๆ” 

และการค่อยๆเดินไปทีละก้าว ไต่ไปทีละขั้น ก็ทำให้เขามาถึงจุดนี้ 

บทความที่เกี่ยวข้อง

News Correspondent