เดิร์ก โนวิตสกี้ ไม่ได้เป็นเพียงตำนานที่ถูกวางไว้บนยอดหอเกียรติยศของดัลลัส แต่คือเสียงของความจริงที่เมืองนี้เคยเชื่อฟังมาตลอดสองทศวรรษ และค่ำคืนหนึ่งบนรายการพรีเกมของ Prime Video เขาคือคนเดียวที่กล้าพูดในสิ่งที่ทุกคนรู้… แต่ไม่มีใครอยากยอมรับ
ดีลที่ส่ง ลูก้า ดอนซิคไป แอลเอ เลเกอร์สผู้สืบทอดยุคทองของแฟรนไชส์ ออกจากเมืองและการปลด นิโค แฮร์ริสัน ที่เกิดขึ้นช้าเกินไปจนแฟนบอลทั้งเมืองต้องแบกรับบาดแผลแทน
คือรอยร้าวที่ลากยาวในหัวใจของดัลลัสมาจนถึงวันนี้
มันควรเกิดตั้งแต่ซัมเมอร์ ไม่ใช่วันนี้
เสียงที่ถูกบีบให้ต้องเปล่งออกมา
บนเวทีถ่ายทอดสดของ Prime Video ผู้คนคงคาดหวังคำตอบกลาง ๆ แบบที่เดิร์กมักให้แต่สิ่งที่ออกจากปากของเขา คือความจริงเปลือยที่แมฟเวอริกส์หนีมาตลอด 9 เดือน
“การปลดนิโค แฮร์ริสัน… มันควรเกิดตั้งแต่ซัมเมอร์แล้ว”
น้ำเสียงของเขาไม่ได้โกรธ แต่เจ็บ เจ็บแบบคนที่เพิ่งเห็นบ้านที่ตัวเองสร้างมาล้มลงต่อหน้า
เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่แค่ การตัดสินใจผิดพลาด แต่มันคือ การทำลายเส้นทางแห่งความหวังของแฟรนไชส์ทั้งยุค
ยุคที่ควรจะเป็นของ ลูก้า ดอนชิช
ยุคที่ควรจะต่อยอดจากการเข้าชิง NBA Finals
ยุคที่ควรจะถูกสานต่อด้วยความเชื่อ ไม่ใช่ความสับสน
ทั้งหมดพังในดีลเดียว
“คำอธิบายเป็นศูนย์… และแฟน ๆ ไม่เคยได้รับความจริง”
เดิร์กย้ำว่าแฟนแมฟเวอริกส์ไม่ใช่แค่ผู้ชมพวกเขาคือชุมชนที่เชื่อในทีมเหมือนเชื่อในครอบครัวและตอนทีมเทรดลูก้าออกไป ไม่มีคำอธิบาย ไม่มีเหตุผล ไม่มีทิศทาง
“มันไม่สมเหตุสมผลเลย… แฟน ๆ ไม่เคยได้คำตอบอะไรกลับมาเลย”
สำหรับเดิร์ก โนวิตสกี้ ผู้ที่เข้าใจหัวใจของ ดัลลัส มากกว่าทุกคนการไร้คำอธิบายนั่นแหละ… คือการทรยศแฟนบอลทางอารมณ์อย่างแท้จริง
ยุคทองที่ถูกพราก และเกมสุดท้ายที่แฟนบอลไม่มีวันลืม
เดิร์กเล่ากลับไปยังวันที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเป็น “บทสุดท้ายของลูก้าในชุดแมฟส์” วันคริสต์มาสที่เขาบาดเจ็บน่อง
ก่อนหน้านั้น ดัลลัสคือทีมไฟแรงสุดลีก
ชนะ 14 จาก 17 เกม, ติดท็อป 4 เกมรุก, ติดท็อป 11 เกมรับ,และกำลังยกระดับสู่การล่าแชมป์อย่างจริงจัง
ดัลลัสกำลังจุดติด ลูก้ากำลังโตเต็มวัย ทีมกำลังวิ่งเข้าหาอนาคตที่สดใส
แล้วทุกอย่างก็หยุดลงอย่างกะทันหัน ไม่มีบทสรุปไม่มีการอำลาไม่มีช่วงเวลาสุดท้ายที่ควรเป็น
“มันเศร้ามาก… แฟน ๆ เหมือนถูกปล้นตอนจบของเรื่องราวนี้ไป”
ในน้ำเสียงของเดิร์ก มีความเสียใจแบบของคนที่รู้ว่าเรื่องราวมันควรมีตอนจบที่ดีกว่านี้
แต่โชคชะตาไม่ให้โอกาส
3-9, ทีมที่สั่นคลอน และเงาที่ชื่อ ‘ยุคหลังลูก้า’
ฤดูกาลปัจจุบันคือบทเริ่มที่ไม่มีใครอยากเริ่ม แมฟส์อยู่ที่สถิติ 3-9 แอนโทนี เดวิส ตัวหลักที่ได้จากดีล เจ็บยาว ไครี อาร์วิง ยังรักษา ACL ทีมที่ควรเป็นยุคใหม่ กลายเป็นทีมที่ต้องสร้างใหม่ตั้งแต่รากอีกครั้ง
นี่คือราคาที่ต้องจ่ายจากการตัดสินใจที่คลุมเครือที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ NBA
“ถึงเวลามูฟออน… ถึงเวลายืนขึ้นอีกครั้ง”
คำประกาศจากคนที่รักเมืองนี้ที่สุด
ท้ายที่สุด เดิร์ก ไม่ใช่คนที่ชอบมองย้อนเขาคือคนที่เชื่อว่าความหวังคือคุณค่าที่แท้จริงของแฟรนไชส์กีฬา
“มันทำให้ทีมถอยหลัง… แต่ตอนนี้ถึงเวลาสร้างใหม่แล้ว ถึงเวลายืนข้างทีมนี้อีกครั้ง”
เดิร์ก โนวิตสกี้ รู้ว่าแมฟเวอริกส์เจ็บ รู้ว่าแฟน ๆ โกรธ รู้ว่าความหวังมันแตกสลายแค่ไหน
แต่เขายังคงยืนอยู่ข้างเมืองนี้ ในฐานะผู้เฝ้าประตู ในฐานะตำนานและในฐานะเสียงที่ดังที่สุดเมื่อแมฟส์เดินหลงทาง
นี่คือเสียงสะท้อนจากคนที่สร้าง DNA ของ ดัลลัส แมฟเวอริกส์ ตั้งแต่ยังไม่มีใครรู้จักทีมนี้ดีพอ
เสียงที่บอกเราว่าแม้เส้นทางจะพังแต่เรื่องราว… ยังสร้างใหม่ได้เสมอ
บทความที่เกี่ยวข้อง