หลังจากผ่านพ้นช่วงโค้งแรงของ NBA ฤดูกาล 2022-23 ไป ก็มีผู้เล่นมากมายที่โชว์ฟอร์มดุกันตั้งแต่ช่วงต้นฤดูกาล สตาร์ดังมากมายต่างโชว์ทักษะการแบกทำคะแนนในเกมเดียวให้กับทีมของพวกเขาอย่างต่อเนื่อง แล้วจนถึงตอนนี้ ใครคือผู้เล่นที่ครองสถิติทำคะแนนสูงสุดใน 1 เกมประจำฤดูกาลนี้

NBA LEAGUE PASS สมัครเพื่อชมการแข่งขันเอ็นบีเอสดทุกนัด คลิกเลย

(Getty Images)

เดเมียน ลิลลาร์ด, พอร์ตแลนด์ เทรลเบลเซอร์ส

71 คะแนน : 27 กุมภาพันธ์ พบกับ ฮุสตัน ร็อคเก็ตส์

เดเมียน ลิลลาร์ด กด 71 แต้ม, 6 แอสซิสต์, 6 รีบาวด์ พร้อมกดฟิลด์โกลลงไป 57.9 เปอร์เซนต์ (22-38), 3 คะแนน อีก 59.1 เปอร์เซนต์ (13-22) และลูกโทษ 100 เปอร์เซนต์ (14-14) พา เทรลเบลเซอร์ส ชนะ ร็อคเก็ตส์ ไปได้ 131-114 คะแนน พร้อมสร้างสถิติส่วนตัวมากมายในเกมนี้ทั้งเป็นผู้เล่นคนที่ 8 ในประวัติศาสตร์ NBA ที่ทำได้ถึง 70 คะแนน, ผู้เล่นคนที่ 3 ที่สามารถยิง 3 คะแนนอย่างน้อย 10 ลูกได้อย่างน้อย 5 ครั้ง, ผู้เล่นคนที่ 4 ที่สามารถยิง 3 คะแนนลงในเกมเดียวถึง 13 ลูก และสามารถแซง ไมเคิล จอร์แดน (4) ในการทำเกม 60 คะแนน (ลิลลาร์ด 5 ครั้ง) จากการทำ 71 แต้มในเกมนี้ทำให้เขากลายเป็นผู้ทำแต้มสูงสุดภายในหนึ่งเกมของฤดูกาลนี้เท่ากับ โดโนแวน มิชเชลไปได้เรียบร้อย

Getty Images

โดโนแวน มิชเชล, คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส

71 คะแนน : 3 มกราคม พบกับ ชิคาโก้ บูลส์

โดโนแวน มิชเชล กดไป 71 แต้ม, 11 แอสซิสต์ กับอีก 8 รีบาวด์ พา แคฟส์ รอดตายแบบปาฏิหาริย์ในช่วงเวลาปกติ พร้อมโชว์เทพในช่วงต่อเวลา ทุบ ชิคาโก้ บูลส์ ไป 145-134 คะแนน ตัวเขายิงฟิลด์โกลลงไปทั้งหมด 22 จาก 34 ลูก (64.7 เปอร์เซนต์) พร้อมยิง 3 คะแนนลงไป 7 จาก 15 ครั้ง (46.7 เปอร์เซนต์) บวกกับลูกโทษอีก 20 จาก 25 ลูก ทำให้เขากลายเป็นผู้ทำแต้มสูงสุดภายในหนึ่งเกมของฤดูกาลนี้ไปเรียบร้อย

(NBA Getty Images)

ลูก้า ดอนซิช, ดัลลัส แมฟเวอร์ริกส์

60 คะแนน : 28 ธันวาคม พบกับ นิวยอร์ก นิกส์

ลูก้า ดอนซิช กลายเป็นผู้เล่นคนแรกของ NBA ที่ทำได้อย่างน้อย 60 แต้ม, 10 แอสซิสต์, 20 รีบาวด์ ด้วยการกดไป 60 แต้ม, 10 แอสซิสต์ กับอีก 21 รีบาวด์ ในเกมนี้จากการยิงฟิลด์โกลลงไป 21 จาก 31 ลูก (67.7 เปอร์เซนต์) และลูกโทษอีก 16 จาก 22 ลูก นอกจากนั้นนี่คือการทำแต้มและรีบาวด์ที่มากที่สุดในอาชีพต่อหนึ่งเกมของ ลูก้า ดอนซิช เขาเป็นผู้เล่นที่ทำแต้มได้มากที่สุดในการเล่นให้กับ แมฟส์, เป็นผู้เล่นคนที่สองใน NBA ต่อจากเจมส์ ฮาร์เด้น ที่สามารถทำ 60 แต้ม ทริปเปิล-ดับเบิล ได้และเป็นการ์ดคนแรกที่ทำได้อย่างน้อย 60 แต้มและ 20 รีบาวด์ในฐานะผู้เล่นตำแหน่งการ์ด

Getty Images

เดเมียน ลิลลาร์ด, พอร์ตแลนด์ เทรลเบลเซอร์ส

60 คะแนน : 26 มกราคม พบกับ ยูทาห์ แจ๊ซ

ลิลลาร์ด สามารถทำได้ถึง 60 แต้มในเกมที่เอาชนะ ยูทาห์ แจ๊ซ ไปได้ 134-124 คะแนน โดยเขายิงฟิลด์โกลลงไปถึง 21 จาก 29 ลูก (72.4 เปอร์เซนต์) พร้อม 3 คะแนน 9 จาก 15 ครั้ง (60.0 เปอร์เซนต์) และลูกโทษ 9 จาก 10 ลูก (90.0 เปอร์เซนต์) นอกจากนั้นนี่ยังเป็นการทำ 60 แต้มที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดของประวัติศาสตร์ NBA อีกด้วยโดยมีค่า ทรูชู้ตติงเปอร์เซนเทจ ที่ 89.8 เปอร์เซนต์

(NBA Entertainment)

โจเอล เอมบีด, ฟิลาเดลเฟีย เซเวนตีซิกเซอร์ส

59 คะแนน : 14 พฤศจิกายน พบกับ ยูทาห์ แจ๊ซ

เอมบีต แบกทีมหลังหักเพราะ ซิกเซอร์ส ไม่มี เจมส์ ฮาร์เด้น การ์ดตัวเก่งลงเล่นในเกมดังกล่าว และการเจอกับทีมผลงานแกร่งอย่าง ยูท่าห์ แจ๊ซ ทำให้เขาต้องงัดฟอร์มดีสุดของอาชีพออกมา กระทั่ง ซิกเซอร์ส คว้าชัยชนะไปได้ 105-98 คะแนน

เอมบีต เหมาคนเดียว 59 คะแนน โดยชู้ตลง 19 จาก 28 ครั้ง เป็นลูกโทษ 20 จาก 24 หน พร้อมกับยังทำอีก 11 รีบาวด์ 8 แอสซิสต์ กับอีก 7 บล็อค (สูงสุดในอาชีพ) ทำให้เขากลายเป็นผู้เล่นซิกเซอร์ส ซึ่งทำคะแนนในเกมเดียวมากที่สุดอันดับ 5 ตลอดกาล แต่ 4 อันดับที่อยู่หน้าเขาเกิดขึ้นจากผู้เล่นเพียง 2 ราย นั่นคือ วิลท์ แชมเบอร์เลน (ทำ 68,65 และ 62) และ อัลเลน ไอเวอร์สัน ที่เคยทำ 60 แต้มในปี 2005

โจเอล เอมบีต รอวันเทียบชั้น วิลท์ แชมเบอเลน ตำนานแห่งวงการ NBA

(NBA Getty Images)

เดวิน บุคเกอร์, ฟินิกซ์ ซันส์

58 คะแนน : 18 ธันวาคม พบกับ นิวออร์ลีนส์ เพลิแคนส์

หลังจากโดน เพลิแคนส์ ชนะไปสองเกมล่าสุดของฤดูกาล คราวนี้ บุคเกอร์ ไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นอีก เขาพา ซันส์ คัมแบ็ค จากการตามถึง 24 แต้มในช่วงควอเตอร์ที่ 3 ของเกม โดยการทำไปถึง 58 แต้ม ด้วยการยิงลง 21 จาก 35 ครั้ง (60 เปอร์เซนต์) พร้อมกด 3 คะแนนไป 6 จาก 12 ลูก (50 เปอร์เซนต์) กับอีก 6 รีบาวด์ และ 5 แอสซิสต์ ซึ่งสถิตินี้ทำให้เขาเป็นผู้เล่นคนที่สอง ต่อจาก เอมบีด ที่ทำอย่างน้อย 50 แต้มมากกว่าหนึ่งเกมในฤดูกาลนี้ และเป็นผู้เล่นซันส์คนแรกที่ทำ 50 แต้มถึง 5 ครั้งในตลอดอาชีพที่เล่นให้กับทีม

(NBA Entertainment)

จูเลียส แรนเดิล, นิวยอร์ก นิกส์

57 คะแนน : 21 มีนาคม พบกับ มินเนโซต้า ทิมเบอร์วูล์ฟส์

จูเลียส แรนเดิล เปิดร่างทองกด 57 แต้ม, 4 รีบาวด์ จากการยิงฟิลด์โกลลงไป 19 จาก 29 ลูก (65.5 เปอร์เซนต์) บวกกับ 3 คะแนน อีก 8 จาก 14 ลูก (57.1 เปอร์เซนต์) พร้อมยิงลูกโทษลงไปอีก 11 จาก 13 ครั้ง (84.6 เปอร์เซนต์) แต่น่าเสียดายที่มันไม่ดีพอจะเอาชนะ มินเนโซต้า ทิมเบอร์วูล์ฟส์ ไปได้ในเกมนี้และทีมต้องเปิดบ้านแพ้ไป 134-140 คะแนน

Getty Images

แอนโทนี เดวิส, แอลเอ เลเกอร์ส

55 คะแนน : 5 ธันวาคม พบกับ วอชิงตัน วิซาร์ดส์

แอนโทนี เดวิส ร่างทองกด 55 แต้ม, 17 รีบาวด์, 3 บล็อกและ 70% ฟิลด์โกลพาเลเกอร์สชนะวิซาร์ดส์ 130-119 คะแนน เขาได้ทำสิถิติเป็นผู้เล่นเลเกอร์สคนแรกนับตั้งแต่วิลท์ แชมเบอร์เลนในปี 1969 ที่ทำได้อย่างน้อย 50 แต้ม 15 รีบาวด์และมีเปอร์เซนต์ฟิลด์โกล 70% ใน 1 เกม นอกจากนั้นถ้านับตั้งแต่ปี 1985 มีผู้เล่นแค่ 2 คนที่ทำได้ระดับ 40 แต้ม/15 รีบาวด์ใน 1 เกมได้ถึง 19 ครั้งก็คือเดวิสและแชค (นอกจาก 2 คนนี้ไม่มีใครทำได้มากกว่า 12 ครั้ง)

NBA Entertainment

ยานนิส อันเทโทคุมโป, มิลวอกี้ บัคส์

55 คะแนน : 4 มกราคม พบกับ วอชิงตัน วิซาร์ดส์

ยานนิส กด 55 แต้ม เป็นสถิติการทำแต้มสูงสุดของเจ้าตัวในหนึ่งเกม จากการยิงฟิลด์โกลลงไป 20 จาก 33 ลูก (60.6 เปอร์เซนต์) พร้อมยิงลูกโทษลงไปอีก 15 จาก 16 ครั้ง (93.8 เปอร์เซนต์) แถมด้วย 7 แอสซิสต์ และ 8 รีบาวด์ พา บัคส์ เปิดบ้านทุบ วิซาร์ดส์ ไป 123-113 คะแนน

Getty Images

เคลย์ ทอมป์สัน, โกลเด้น สเตท วอร์ริเออร์ส

54 คะแนน : 3 มกราคม พบกับ แอตแลนต้า ฮอว์กส์

เคลย์ ทอมป์สัน ทำ 54 แต้ม จากการยิงฟิลด์โกลลงไป 21 จาก 39 ลูก พร้อมกด 3 คะแนน ไปอีก 10 ลูกจาก 21 ครั้ง ทำให้ วอร์ริเออร์ส เฉือนชนะ ฮอว์กส์ ไปแบบสุดมัน 143-141 คะแนนในช่วงต่อเวลาครั้งที่ 2 นอกจากนั้นเขาคือผู้เล่นที่สามารถยิง 3 คะแนนลงอย่างน้อย 10 ลูกในเกมเดียวได้มากกว่าหนึ่งครั้งในฤดูกาลนี้และ วอร์ริเออร์ส ไม่เคยแพ้เมื่อ เคลย์ ยิง 3 คะแนนลงอย่างน้อย 10 ลูก

Getty Images

ยานนิส อันเทโทคุมโป, มิลวอกี้ บัคส์

54 คะแนน : 3 กุมภาพันธ์ พบกับ แอลเอ คลิปเปอร์ส

ยานนิส ระเบิดฟอร์ม 54 แต้ม จากการยิงฟิลด์โกลลงไป 21 จาก 39 ลูก (53.8 เปอร์เซนต์) พร้อมกด 3 คะแนนลงไป 2 จาก 8 ลูก (25 เปอร์เซนต์) และยิงลูกโทษลงไปอีก 10 จาก 15 ครั้ง (66.7 เปอร์เซนต์) แถมด้วย 2 แอสซิสต์ กับอีก 19 รีบาวด์ ถึงแม้ว่าจะเป็นการทำระดับ 50 แต้มที่ไม่ได้มีประสิทธิภาพมากนักแต่ก็ยังมากพอที่จะพา บัคส์ คัมแบ็ค 21 แต้มกลับมาชนะ คลิปเปอร์ส ไปได้ 106-105 คะแนน

Getty Images

โจเอล เอมบีด, ฟิลาเดลเฟีย เซเวนตีซิกเซอร์ส

53 คะแนน : 12 ธันวาคม พบกับ ชาร์ลอตต์ ฮอร์เน็ตส์

โจเอล เอ็มบีด ระเบิดฟอร์มอีกครั้งในเกมที่ทุบฮอร์เน็ตส์ไปได้ 131-113 คะแนน ในเกมนี้เขาทำไป 53 แต้ม, 12 รีบาวด์ และ 3 แอสซิสต์ จากการยิง 32 ครั้งและลงไปถึง 20 ลูกนับเป็น 62.5 เปอร์เซนต์แถมกดลูกโทษลงไปอีก 100 เปอร์เซนต์, 11 จาก 11 ลูก ซึ่งนี่คือเกมที่เอ็มบีดทำแต้มระดับอย่างน้อย 50 คะแนนได้เป็นเกมที่สองของฤดูกาลนี้

Getty Images

ลูก้า ดอนซิช, ดัลลัส แมฟเวอร์ริกส์

53 คะแนน : 31 มกราคม พบกับ ดีทรอยต์ พิสตันส์

ลูก้า ดอนซิช ต้องแบกทีมอีกครั้งในเกมที่พา แมฟส์ เฉือนเอาชนะ พิสตันส์ ไปได้ 111-105 คะแนน โดยที่เขาทำไป 53 แต้ม, 8 รีบาวด์ และ 5 แอสซิสต์ จากการยิงลงไปถึง 17 จาก 24 ครั้ง (70.8 เปอร์เซนต์) พร้อมกด 3 คะแนนไป 5 จาก 11 ลูก (45.5 เปอร์เซนต์) และลูกโทษ 14 จาก 18 ลูก (77.8 เปอร์เซนต์) ซึ่งนี่คือการทำแต้มมากที่สุดในหนึ่งเกมเป็นอันดับสองของอาชีพ ลูก้า ดอนซิช และเป็นเกม 50 แต้มที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดของเจ้าตัวอีกด้วย 

(NBAE via Getty Images)

โจเอล เอมบีด, ฟิลาเดลเฟีย เซเวนตีซิกเซอร์ส

52 คะแนน : 5 เมษายน พบกับ บอสตัน เซลติกส์

โจเอล เอ็มบีด ระเบิดฟอร์มตัวเต็ง MVP อีกครั้งในเกมที่เฉือน เซลติกส์ ไปได้ 103-101 คะแนน ซึ่งในเกมนี้ เอ็มบีด ทำไป 53 แต้ม, 13 รีบาวด์ และ 6 แอสซิสต์ จากการยิง 25 ครั้งและลงไปถึง 20 ลูกนับเป็น 80.0 เปอร์เซนต์แถมกดลูกโทษลงไปอีก 12 จาก 13 ครั้ง (92.3 เปอร์เซนต์) อีกด้วย

Getty Images

พาสคาล เซียแคม, โตรอนโต้ แรปเตอร์ส

52 คะแนน : 22 ธันวาคม พบกับ นิวยอร์ก นิกส์

พาสคาล เซียแคม ทำแต้มสูงสุดในอาชีพถึง 52 แต้ม ในเกมที่เอาชนะ นิวยอร์ก นิกส์ ไปได้ 113-106 คะแนน โดยการยิงฟิลด์โกลลงไป 17 จาก 25 ลูก พร้อมกดจากเส้นโทษไป 16 จาก 18 ลูก นอกจากนั้นเขายังบวกไปอีก 7 แอสซิสต์ และ 9 รีบาวด์ในเกมนี้และขยับขึ้นมาเป็นผู้เล่นที่ทำแต้มได้มากที่สุดในเกมเดียวของ แรปเตอร์ส เป็นอันดับที่ 2 ต่อจาก เฟร็ด วานวลีท ที่ทำไว้ 54 แต้ม

Getty Images

ดาเรียส การ์แลนด์, คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส

51 คะแนน : 14 พฤศจิกายน พบกับ มินเนโซตา ทิมเบอร์วูล์ฟส์

การขาดหายไปของ โดโนแวน มิตเชลล์ ตัวสกอร์หลักประจำทีม ทำให้ ดาเรียส การ์แลนด์ ต้องงัดพลังภายในทั้งหมดออกมา เขาทำ 51 แต้ม ในเกมนี้ และเป็นการชู้ตระยะสามคะแนนลงมากถึง 10 ลูก (จากความพยายามทั้งหมด 14 หน) แต่น่าเสียดาย ทีมของเขาแพ้ ทิมเบอร์วูล์ฟส์ 124-129 คะแนน

สถิติโหดของ การ์แลนด์ : ผู้เล่นคนไหนใน NBA ที่เคยระเบิดฟอร์มได้เท่าการ์ดคาวาเลียร์ส

Getty Images

เดวิน บุคเกอร์, ฟินิกซ์ ซันส์

51 คะแนน : 1 ธันวาคม พบกับ ชิคาโก้ บูลส์

ก่อนหน้าเกมนี้บุคเกอร์กดไป 44 คะแนนใส่ซาคราเมนโต้ คิงส์ พอมาเกมนี้เขากดไปอีก 51 แต้มโดยใช้เวลาเพียง 3 ควอเตอร์เท่านั้นด้วยความแม่นระดับ 80/80/80% (ฟิลด์โกล/3 คะแนน/ลูกโทษ) นอกจากนั้นในเกมนี้เขายังพาซันส์ชนะบูลส์ไป 132-113 คะแนนหลังจากก่อนหน้าที่ทั้ง 3 เกมที่เขาทำได้ระดับ 50 แต้มไม่เคยชนะได้เลยซักนัดเดียว

Getty Images

ลูก้า ดอนซิช, ดัลลัส แมฟเวอร์ริกส์

51 คะแนน : 1 มกราคม พบกับ ซานแอนโทนิโอ สเปอร์ส

ดอนซิช ระเบิดฟอร์ม MVP อีกครั้งโดย กดไป 51 แต้ม จากการยิงฟิล์ดโกลลงไป 18 จาก 29 ลูก (62.1 เปอร์เซนต์) พร้อมกด 3 คะแนนลงไปอีก 6 จากการยิง 10 ครั้ง (60 เปอร์เซนต์) และลูกโทษอีก 9 ลูก บวกกับ 9 แอสซิสต์, 6 รีบาวด์ และ 4 สตีล ในเกมนี้พา แมฟส์ เฉือน สเปอร์สไปได้ 

(NBA Entertainment)

เจย์สัน เททัม, บอสตัน เซลติกส์

51 คะแนน : 17 มกราคม พบกับ ชาร์ลอตต์ ฮอร์เน็ตส์

เจย์สัน เททัม ทำให้เราเห็นอีกครั้งว่าเขาเป็นผู้เล่นระดับ MVP ด้วยการกดไป 51 แต้ม, 5 แอสซิสต์ กับอีก 9 รีบาวด์ โดยการยิงฟิลด์โกลลงไป 15 จาก 23 ลูก (65.2 เปอร์เซนต์) พร้อมกด 3 คะแนนลงไป 7 จาก 12 ลูก (58.3 เปอร์เซนต์) และยิงลูกโทษลง 14 ลูกแบบไม่พลาดเลย ทำให้เขาพา เซลติกส์ ชนะ ฮอร์เน็ตส์ และนำจ่าฝูงสายตะวันออกต่อไปได้

NBA Entertainment

จรู ฮอลิเดย์, มิลวอกี บัคส์

51 คะแนน : 30 มกราคม พบกับ อินเดียนา เพเซอร์ส

จรู ฮอลิเดย์ ได้โชว์ฟอร์มที่สุดยอดอีกครั้งด้วยการกดไป 51 แต้ม, 8 แอสซิสต์ กับอีก 8 รีบาวด์ โดยการยิงฟิลด์โกลลงไป 20 จาก 30 ลูก (66.7 เปอร์เซนต์) พร้อมกด 3 คะแนนลงไป 3 จาก 6 ลูก (50.0 เปอร์เซนต์) และยิงลูกโทษลงอีก 8 จาก 10 ลูก ทำให้เขาพา บัคส์ ชนะ เพเซอร์ส ไปได้ 149-136 คะแนน

Getty Images

สเตฟเฟน เคอร์รี, โกลเด้น สเตท วอร์ริเออร์ส

50 คะแนน : 16 มีนาคม พบกับ แอลเอ คลิปเปอร์ส

สเตฟเฟน เคอร์รี ทำผลงานระดับสุดยอดอย่างการทำ 50 แต้มไปได้ในนัดนี้ โดยยิงฟิลด์โกลลงไปถึง 20 จาก 28 ลูก (71.4 เปอร์เซนต์) พร้อมกด 3 คะแนนไปอีก 8 จาก 14 ลูก (57.1 เปอร์เซนต์) และลูกโทษอีก 2 จาก 4 ลูก แต่ก็ยังไม่พอที่จะพาทีมชนะ ต้องแพ้ให้กับ แอลเอ คลิปเปอร์ส ไป 134-126 คะแนน

NBA Entertainment

สเตฟเฟน เคอร์รี, โกลเด้น สเตท วอร์ริเออร์ส

50 คะแนน : 17 พฤศจิกายน พบกับ ฟินิกซ์ ซันส์

ถึงแม้ว่าจะแพ้ไปในเกมนี้แต่ความร้อนแรงของเคอร์รียังคงสุดยอดในช่วงต้นฤดูกาล เพราะเขาทำไปถึง 50 แต้ม ยิงฟิลด์โกลไป 60.7% กด 3 แต้มลงไป 7 ลูกจาก 11 ลูกนับเป็น 63.6% นอกจากนั้นยังแถมมาด้วย 6 แอสซิสต์และ 9 รีบาวด์ เคอร์รีทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้แล้วในเกมนี้แต่สุดท้ายก็ไม่พอต้องพ่ายแพ้ต่อฟินิกซ์ ซันส์เป็นหนที่สองในฤดูกาล

เคอร์รีหรือเคลย์ ? : ใครใน NBA ยิง 3 คะแนนอย่างน้อย 10 ลูกต่อเกมได้มากที่สุด

NBA Entertainment

ลูก้า ดอนซิช, ดัลลัส แมฟเวอร์ริกส์

50 คะแนน : 24 ธันวาคม พบกับ ฮุสตัน ร็อคเก็ตส์

ในเกมนี้ ดอนซิช กดไป 50 แต้ม, 10 แอสซิสต์ กับอีก 8 รีบาวด์ พา แมฟส์ เฉือน จรวดไปแบบหืดจับ 112-106 คะแนน ลูก้ายิงลงไปทั้งหมด 17 จาก 30 ลูก (56.7 เปอร์เซนต์) พร้อมกด 3 คะแนนไปทั้งหมด 6 จาก 12 ลูก (50 เปอร์เซนต์) และ ลูกโทษอีก 10 จาก 12 ลูก (83.3 เปอร์เซนต์) ด้วยสถิตินี้ทำให้เขาเป็นผู้เล่นคนที่สองต่อจาก เดิร์ค โนวิทซกี้ ที่สามารถทำระดับ 50 แต้มในหนึ่งเกมได้มากกว่าหนึ่งครั้งให้กับทีมแมฟเวอร์ริกส์

(NBA Entertainment)

เดเมียน ลิลลาร์ด, พอร์ตแลนด์ เทรลเบลเซอร์ส

50 คะแนน : 13 มกราคม พบกับ คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส

ลิลลาร์ด สามารถทำได้ถึง 50 แต้มในเกมที่แพ้ คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส ไป 113-119 คะแนน โดยเขายิงฟิลด์โกลลงไปถึง 16 จาก 28 ลูก (57.1 เปอร์เซนต์) พร้อม 3 คะแนน 5 จาก 13 ครั้ง (38.5 เปอร์เซนต์) และลูกโทษ 13 จาก 15 ลูก (86.7 เปอร์เซนต์) แต่ก็ยังไม่เพียงพอและต้องแพ้ไปอย่างน่าเสียดาย

(Getty Images)

ยานนิส อันเทโทคุมโป, มิลวอกี้ บัคส์

50 คะแนน : 30 มกราคม พบกับ นิวออร์ลีนส์ เพลิแคนส์

ยานนิส ระเบิดฟอร์ม MVP กด 50 แต้ม, 13 รีบาวด์ ในเกมที่พา บัคส์ เอาชนะ เพลิแคนส์ ไปได้ 135-110 คะแนน จากการยิงฟิลด์โกลลงไป 20 จาก 26 ลูก (76.9 เปอร์เซนต์) บวกกับยิงสามคะแนนลงไป 3 จาก 4 ลูก (75 เปอร์เซนต์) พร้อมยิงลูกโทษลงไปอีก 7 จาก 12 ครั้ง (58.3 เปอร์เซนต์) ด้วยการลงเล่นไปทั้งหมดแค่ 30 นาทีเท่านั้น

Getty Images

เดมาร์ เดโรซาน, ชิคาโก้ บูลส์ 

49 คะแนน : 18 มีนาคม พบกับ มินเนโซต้า ทิมเบอร์วูล์ฟส์

เดมาร์ เดโรซาน ระเบิดฟอร์มโหดกด 49 แต้ม, 14 รีบาวด์ ในเกมที่พา บูลส์ เอาชนะ ทิมเบอร์วูล์ฟส์ ไปได้ 139-131 คะแนน ในช่วงการต่อเวลาครั้งที่สอง จากการยิงฟิลด์โกลลงไป 15 จาก 25 ลูก (60 เปอร์เซนต์) บวกกับยิงสามคะแนนลงไป 2 จาก 4 ลูก (50 เปอร์เซนต์) พร้อมยิงลูกโทษลงไปอีก 17 จาก 18 ครั้ง (94.4 เปอร์เซนต์) ด้วยการลงเล่นไปทั้งหมด 52 นาที

(Getty Images)

จา มอแรนท์, เมมฟิส กริซลีส์ 

49 คะแนน : 22 ตุลาคม พบกับ ฮุสตัน ร็อคเก็ตส์

จา มอแรนท์ ซึ่งพัฒนาระยะ 3 คะแนนขึ้นมาทำให้เขามีฤดูกาลที่ตัวป้องกันของทุกทีมต้องรู้สึกหวั่นเกรง และ ในซีซั่นนี้เขาเคยทำระดับ 49 แต้ม ใส่ ฮุสตัน ร็อคเก็ตส์ มาแล้ว และทีมคว้าชัยชนะด้วยสกอร์ 129-122 คะแนน

มอแรนท์ ลงเล่นแค่ 31 นาที (น้อยสุดอันดับ 2 สำหรับผู้เล่นที่ทำเกิน 40 แต้มในเกมเดียวของซีซั่นนี้) โดยเขาชู้ตลง 17 จาก 26 ครั้ง และเป็นการชู้ตระยะสามคะแนนลง 5 จาก 6 หน

จา มอแรนท์, เทร ยัง นำทัพ : 5 ผู้เล่น NBA น้ำหนักเบาแต่ฝีมือสุดโหด

(NBA Entertainment)

เดวิน บุคเกอร์, ฟีนิกซ์ ซันส์

49 คะแนน : 19 พฤศจิกายน พบกับ ยูทาห์ แจ๊ซ

เดวิน บุคเกอร์ อุตส่าห์งัดสุดยอดฟอร์มแห่งซีซั่นด้วยการชู้ตลง 16 จาก 31 ครั้ง แต่ทีมกลับแพ้ ยูท่าห์ แจํซ 133-134 คะแนน สถิติสุดแปลกอย่างหนึ่งของการ์ดรายนี้คือ เมื่อเขาทำระดับ 45 แต้มขึ้นไปในอาชีพ ทีมจะชนะ 4 ครั้ง และแพ้ 5 ครั้ง เรียกว่าเป็นการฟอร์มดีที่มักไม่มีความหมายจริง ๆ

พวกเขาอยู่ไหน ?: ฟีนิกซ์ ซันส์ ยุค “7 วิ” ต้นตำรับแห่งการบุกเร็วจนทีมป้องกันตั้งรับแทบไม่ทัน

Getty Images

เจย์สัน เททัม, บอสตัน เซลติกส์

49 คะแนน : 1 ธันวาคม พบกับ ไมอามี ฮีต

เจย์สัน เททัมโชว์ฟอร์มสุดยอดทำไป 49 แต้ม 11 รีบาวด์ในเกมที่เจอกับไมอามี ฮีต และชนะไป 134-121 คะแนน ตัวเขายิงไปทั้งหมด 25 ลูกและลงไป 15 ครั้งนับเป็น 60 เปอร์เซนต์จากการยิงทั้งหมด นอกจากนั้นใน 15 ลูกยังมี 3 คะแนนอยู่ถึง 8 ลูกจึงบ่งบอกถึงความแม่นของเขาได้อย่างดี

NBA Entertainment

ลาวรี มาร์คคาเนน, ยูทาห์ แจ๊ซ

49 คะแนน : 6 มกราคม พบกับ ฮุสตัน ร็อคเก็ตส์

ลาวรี มาร์คาเนน โชว์ฟอร์มร้อนแรง กดไป 49 แต้ม กับ 8 รีบาวด์ พา แจ๊ซ ชนะ ฮุสตัน ไป 131-114 คะแนน เกมนี้ มาร์คคาเนน ยิงฟิลด์โกลลงไปทั้งหมด 15 จาก 27 ลูก (55.6 เปอร์เซนต์) พร้อมกด 3 คะแนนลงไป 6 จาก 15 ลูก (40 เปอร์เซนต์) บวกกับลูกโทษ 100 เปอร์เซนต์ 13 จาก 13 และสามารถทำสถิติการทำแต้มสูงสุดต่อ 1 เกมของตัวเองไปได้ในที่สุด

(Getty Images)

โจเอล เอมบีด, ฟิลาเดลเฟีย เซเวนตีซิกเซอร์ส

48 คะแนน : 28 ธันวาคม พบกับ วอชิงตัน วิซาร์ดส์

ในเกมนี้ โจเอล เอมบีด ระเบิดฟอร์มเทพอีกครั้งโดยการกดไปถึง 48 คะแนน เอมบีดยิงฟิลด์โกลลงไป 17 จาก 32 ลูก (53.1 เปอร์เซนต์) และยิงลูกโทษลงไป 13 จาก 14 ลูก พร้อมอีก 10 รีบาวด์, 3 สตีล และอีก 3 บล็อก แต่น่าเสียดายที่ไม่สามารถพาทีมชนะ วิซาร์ดส์ ไปได้

Getty Images

เลบรอน เจมส์, แอลเอ เลเกอร์ส

48 คะแนน : 17 มกราคม พบกับ ฮุสตัน ร็อคเก็ตส์

เลบรอนโชว์ฟอร์มโหดอีกครั้งหลังพา เลเกอร์ส ชนะ ร็อคเก็ตส์ ไปแบบหืดจับด้วยคะแนน 140-132 ซึ่งในเกมนี้เขาทำไปถึง 48 แต้ม, 9 แอสซิสต์ กับอีก 8 รีบาวด์ จากการยิงฟิลด์โกลลงไป 1 จาก 26 ลูก (61.5 เปอร์เซนต์) พร้อม 3 คะแนนอีก 5 จาก 10 ลูก (50.0 เปอร์เซนต์) และลูกโทษลงไปอีก 11 จาก 12 ครั้ง ทำให้หยุดสถิติการแพ้ของ เลเกอร์ส ไว้ที่ 3 นัดติด 

(NBAE via Getty Images)

ไครี เออร์วิง, บรู๊คลิน เน็ตส์

48 คะแนน : 21 มกราคม พบกับ ยูทาห์ แจ๊ซ

ไครี เออร์วิง โชว์ฟอร์ม All-Star หลังพา เน็ตส์ ชนะ แจ๊ซ ไปแบบสุดมันด้วยคะแนน 117-106 ซึ่งในเกมนี้เขาทำไปถึง 48 แต้ม, 6 แอสซิสต์ กับอีก 11 รีบาวด์ จากการยิงฟิลด์โกลลงไป 18 จาก 29 ลูก (62.1 เปอร์เซนต์) พร้อม 3 คะแนนอีก 8 จาก 15 ลูก (53.3 เปอร์เซนต์) และลูกโทษลงไปอีก 4 จาก 6 ครั้ง ทำให้ เน็ตส์ สามารถชนะไปได้ในนัดนี้แม้ไม่มี ดูแรนท์ ก็ตาม

(Getty Images)

เจเลน บรันสัน, นิวยอร์ก นิกส์

48 คะแนน : 1 เมษายน พบกับ คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส

เจเลน บรันสันพิสูจน์ให้เห็นว่าเขาโหดแค่ไหนอีกครั้งหลังพา นิกส์ ชนะ แคฟส์ ไปได้ด้วยคะแนน 130-116 โดยในเกมนี้เขาทำไปถึง 48 แต้ม, 9 แอสซิสต์ กับอีก 4 รีบาวด์ จากการยิงฟิล์ดโกลลงไป 18 จาก 32 ลูก (56.3 เปอร์เซนต์) บวกกับยิงสามคะแนนลงไปอีก 7 จาก 12 ลูก (58.3 เปอร์เซนต์) พาทีมชนะไปได้ในที่สุด

NBA Entertainment

สเตฟเฟ่น เคอร์รี่, โกลเด้น สเตท วอร์ริเออร์ส

47 คะแนน : 8 พฤศจิกายน พบกับ ซาคราเมนโต คิงส์

เป็นการเริ่มต้นฤดูกาลที่ไม่ดีนักสำหรับแชมป์เก่า และ สเตฟเฟ่น เคอร์รี่ ในวัย 34 ปี ดูต้องแบกเกมบุกของทีมในหลาย ๆ เกม หนึ่งในนั้นคือการระเบิดฟอร์มทำ 47 แต้ม ช่วยให้ทีมชนะ คิงส์ 116-113 แต้ม

เคอร์รี่ ยิงลง 17 จาก 24 ครั้ง และสามคะแนนลง 7 จาก 12 หน ถ้าปีนี้ วอร์ริเออร์ส ขาดเขาไปสักคน คงดูไม่จืดแน่ ๆ

NBA Entertainment

เลบรอน เจมส์, แอลเอ เลเกอร์ส

47 คะแนน : 31 ธันวาคม พบกับ แอตแลนต้า ฮอว์กส์

เลบรอน โชว์ฟอร์มวินเทจอีกครั้งหลังพา เลเกอร์ส ชนะ ฮอว์กส์ ไปได้ด้วยคะแนน 130-121 ในเกมนี้เขาทำไปถึง 47 แต้ม, 9 แอสซิสต์ กับอีก 10 รีบาวด์ จากการยิงฟิล์ดโกลลงไป 18 จาก 27 ลูก (66.7 เปอร์เซนต์) แล้วลูกโทษลงไปอีก 7 จาก 9 ลูก พาเลเกอร์สชนะไปได้ในที่สุด

(NBA Entertainment)

โจเอล เอมบีด, ฟิลาเดลเฟีย เซเวนตีซิกเซอร์ส

47 คะแนน : 29 มกราคม พบกับ เดนเวอร์ นักเก็ตส์

โจเอล เอมบีด โชว์ฟอร์ม เหนือ นิโคลา โยคิช และเอาชนะ นักเก็ตส์ ไปได้ 126-119 คะแนน ซึ่งในเกมนี้เขาทำไป 47 แต้ม, 18 รีบาวด์ และ 5 แอสซิสต์ จากการยิงฟิลด์โกล 31 ครั้งและลงไปถึง 18 ลูกนับเป็น 58.1 เปอร์เซนต์ บวกกับกดลูกโทษลงไปอีก 7 จาก 10 ลูก (70 เปอร์เซนต์) และสิ่งที่ทำได้้ดีมากๆในเกมนี้คือเรื่อง 3 คะแนนที่เจ้าตัวกดไป 4 จาก 7 ลูก (57.1 เปอร์เซนต์)

Getty Images

แคม โธมัส, บรู๊คลิน เน็ตส์

47 คะแนน : 7 กุมภาพันธ์ พบกับ แอลเอ คลิปเปอร์ส

ถึงแม้ว่าเกมนี้ เน็ตส์ จะแพ้ คลิปเปอร์ส ไป 124-116 คะแนน แต่ แคม โธมัส สารมารถกดไปได้ถึง 47 แต้ม, 3 แอสซิสต์ กับอีก 4 รีบาวด์ จากการยิงฟิล์ดโกลลงไป 15 จาก 29 ลูก (51.7 เปอร์เซนต์) พร้อมสามคะแนนลงไป 7 จาก 11 ลูก (63.6 เปอร์เซนต์) และบวกลูกโทษลงไปอีก 10 จาก 11 ครั้ง ทำให้เกมนี้เป็นเกมที่สองติดต่อกันที่เขาทำระดับอย่างน้อย 40 แต้มต่อหนึ่งเกม

(NBA Entertainment)

แคม โธมัส, บรูคลิน เน็ตส์ 

46 คะแนน : 10 เมษายน พบกับ ฟิลาเดลเฟีย เซเว่นตี้ซิกเซอร์ส

แม้ว่าเกมนี้ เน็ตส์ จะแพ้ ซิกเซอร์ส ไป 134-105 คะแนน แต่ แคม โธมัส ก็สามารถกดไปได้ถึง 46 แต้ม จากการยิงฟิลด์โกลลงไป 16 จาก 29 ลูก (55.2 เปอร์เซนต์) และบวกลูกโทษลงไปอีก 8 จาก 8 ครั้ง (100 เปอร์เซนต์) เลยทีเดียว

(Getty Images)

โจเอล เอ็มบีด, ฟิลาเดลเฟีย เซเว่นตี้ซิกเซอร์ส

46 คะแนน : 26 มีนาคม พบกับ โกลเด้น สเตท วอร์ริเออร์ส

แม้ว่าเกมนี้ ซิกเซอร์ส จะแพ้ วอร์ริเออร์ส ไป 120-112 คะแนน แต่ โจเอล เอ็มบีด ก็สารมารถกดไปได้ถึง 46 แต้ม, 8 แอสซิสต์ กับอีก 9 รีบาวด์ จากการยิงฟิล์ดโกลลงไป 13 จาก 23 ลูก (56.5 เปอร์เซนต์) และบวกลูกโทษลงไปอีก 19 จาก 22 ครั้ง (86.4 เปอร์เซนต์) เลยทีเดียว

(NBA Entertainment)

เดวิน บุคเกอร์, ฟินิกซ์ ซันส์

46 คะแนน : 20 มีนาคม พบกับ โอคลาโฮมา ซิตี้ ธันเดอร์

ความแน่นอนในการทำแต้มของ เดวิน บุคเกอร์ ฤดูกาลนี้ยังคงดีอย่างต่อเนื่องหลังกดไปถึง 46 แต้ม, 1 แอสซิสต์ กับอีก 3 รีบาวด์ จากการยิงฟิล์ดโกลลงไป 18 จาก 28 ลูก (64.3 เปอร์เซนต์) พร้อม 3 คะแนน 3 จาก 7 ลูก (42.9 เปอร์เซนต์) บวกกับลูกโทษลงไปอีก 7 จาก 8 ลูก แต่น่าเสียดายที่ไม่สามารถพาทีมชนะ โอคลาโฮมา ซิตี้ ธันเดอร์ ในนัดนี้ไปได้

Getty Images

ยานนิส อันเทโทคุมโป, มิลวอกี้ บัคส์

46 คะแนน : 14 มีนาคม พบกับ ซาคราเมนโต้ คิงส์

ยานนิส อันเทโทคุมโป โชว์ฟอร์มกดไปถึง 46 แต้ม, 4 แอสซิสต์ กับอีก 12 รีบาวด์ จากการยิงฟิล์ดโกลลงไป 19 จาก 28 ลูก (67.9 เปอร์เซนต์) พร้อม 3 คะแนนสุดแม่น 2 จาก 2 ลูก (100.0 เปอร์เซนต์) บวกกับลูกโทษลงไปอีก 6 จาก 7 ลูก จนสามารถพาทีมพลิกกลับมาชนะ ซาคราเมนโต้ คิงส์ ไปได้ในเกมนี้หลังจากตามหลังอยู่ตอนจบครึ่งแรก

(NBA Entertainment)

จูเลียส แรนเดิล, นิวยอร์ก นิกส์

46 คะแนน : 25 กุมภาพันธ์ พบกับ วอชิงตัน วิซาร์ดส์

จูเลียส แรนเดิล ระเบิดพลังกดไป 46 แต้ม, 2 แอสซิสต์ กับอีก 2 รีบาวด์ จากการยิงฟิล์ดโกลลงไป 16 จาก 29 ลูก (55.2 เปอร์เซนต์) พร้อม 3 คะแนนสุดแม่น 7 จาก 14 ลูก (50.0 เปอร์เซนต์) บวกกับลูกโทษลงไปอีก 7 จาก 7 ลูก จนสามารถพาทีมชนะ วอชิงตัน วิซาร์ดส์ ไปได้ในเกมนี้

Getty Images

เลบรอน เจมส์, แอลเอ เลเกอร์ส

46 คะแนน : 25 มกราคม พบกับ แอลเอ คลิปเปอร์ส

เลบรอน เจมส์ ระเบิดพลังกดไป 46 แต้ม, 7 แอสซิสต์ กับอีก 8 รีบาวด์ จากการยิงฟิล์ดโกลลงไป 16 จาก 29 ลูก (55.2 เปอร์เซนต์) พร้อม 3 คะแนนสุดแม่น 9 จาก 14 ลูก (64.3 เปอร์เซนต์) บวกกับลูกโทษลงไปอีก 5 จาก 5 ลูก แต่ก็ไม่สามารถพา เลเกอร์ส ชนะ คลิปเปอร์ส ไปได้

Getty Images

โดโนแวน มิชเชล, คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส

46 คะแนน : 11 มกราคม พบกับ ยูทาห์ แจ๊ซ

เกมนี้ โดโนแวน มิชเชล ระเบิดฟอร์มทำไป 46 แต้มจากการยิงฟิลด์โกลลงไป 14 จาก 27 ครั้ง (51.9 เปอร์เซนต์) พร้อมกด 3 คะแนนลงไปอีก 7 จาก 18 ลูก (38.9 เปอร์เซนต์) และยิงลูกโทษลง 100 เปอร์เซนต์ 11 จาก 11 แต่น่าเสียดายที่ไม่สามารถพาทีมชนะได้ในนัดนี้แพ้ แจ๊ซ ไปด้วยคะแนน 114-116

(Getty Images)

ดาเรียส การ์แลนด์, คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส

46 คะแนน : 27 ธันวาคม พบกับ บรู๊คลิน เน็ตส์

ถึงแม้ว่าจะต้องพ่ายแพ้ไปในเกมนี้แต่ การ์แลนด์ ก็สามารถกดไปได้ถึง 46 คะแนน ด้วยการยิงฟิลด์โกลลงไปทั้งหมด 14 จาก 20 ลูก พร้อมได้ลูกโทษไป 15 ครั้งและยิงลงไปถึง 13 ลูกด้วยกัน นอกจากนั้น การ์แลนด์ ยังบวกไปอีก 8 แอสซิสต์แม้จะไม่สามารถพาทีมชนะได้ก็ตาม

NBA Entertainment

เดมาร์ เดโรซาน, ชิคาโก บูลส์ 

46 คะแนน : 5 พฤศจิกายน พบกับ บอสตัน เซลติกส์

มาสเตอร์ ออฟ มิดเร้นจ์ หรือ จอมชู้ตระยะกลางอย่าง เดโรซาน สามารถทำระดับ 46 คะแนน ในเกมที่ บูลส์ บุกพ่ายทีมแกร่งอย่าง เซลติกส์ ไปแบบหวุดหวิด 119-123 คะแนน แน่นอนว่าเขาทำมันได้โดยไม่ต้องพึ่งระยะ 3 คะแนนเลย (ยิงลง 0 จาก 3 ครั้ง)

เดโรซาน ชู้ตลง 13 จาก 23 ครั้ง และเก็บลูกโทษลงห่วงไป 20 จาก 22 หน

5 สถิติฤดูกาลปกติที่แย่ที่สุดใน NBA ของไมเคิล จอร์แดน

ตารางผู้เล่นที่ทำแต้มใน 1 เกม มากที่สุดของศึก NBA 2022-23

สำหรับการรวบรวมข้อมูลนี้ เราจะคัดเฉพาะกลุ่มผู้เล่นที่สามารถทำได้อย่างน้อย 40 คะแนนขึ้นไปในเกมเดียว และจัดลำดับเรียงไล่ลงมา