เมื่อฤดูกาลแข่งขันจบลง สิ่งที่น่าสนใจหลังจากนั้นคงไม่พ้นเรื่องของการซื้อขายนักเตะ ซึ่งตลาดนักเตะของ พรีเมียร์ลีก ในปีนี้จะทำการเปิดขึ้นสองรอบด้วยกันในเดือนมิถุนายน โดยรอบแรกทีมดังอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, แมนเชสเตอร์ ซิตี้, เชลซี และลิเวอร์พูล ต่างก็ทำการซื้อขายนักเตะไปเป็นที่เรียบร้อย โดยเฉพาะ แมนฯ ซิตี้ ที่กว้านซื้อนักเตะไปถึง 4 รายสำหรับตลาดนักเตะรอบแรกในเดือนมิถุนายน
ทำให้เป็นที่น่าสงสัยว่าทำไมในเดือนมิถุนายนจึงมีการเปิดตลาดนักเตะถึงสองรอบ มีเหตุผลอะไรที่ทาง พรีเมียร์ลีก ทำเช่นนั้น และจะเป็นประโยชน์อย่างไรบ้าง? ทุกท่านสามารถติดตามไปกับทาง The Sporting News Thailand ได้ที่นี่
ทำไมตลาดนักเตะ พรีเมียร์ลีก เปิดสองรอบในเดือนมิถุนายน?
เหตุผลที่ปีนี้ทาง พรีเมียร์ลีก ทำการเปิดตลาดนักเตะถึงสองรอบในเดือนมิถุนายนก็เพราะว่าพวกเขาต้องการเอื้อให้ทีมที่ได้ไปเล่นในศึก ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 2025 หรือชิงแชมป์สโมสรโลกได้ทำการซื้อขายนักเตะให้เสร็จเรียบร้อยก่อนนั่นเอง โดยตลาดนักเตะรอบแรกจะเปิดขึ้นในวันที่ 1 มิถุนายน และปิดลงในวันที่ 10 มิถุนายน
ซึ่งทีมที่ได้ประโยชน์จากการซื้อขายรอบนี้มากที่สุดก็คือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ เชลซี ที่ได้โควต้าไปแข่งขันในศึก ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 2025 โดยทาง แมนฯ ซิตี้ ทำการนำเข้านักเตะมาถึง 4 รายคือ รายาน เอต-นูรี, รายาน แชร์กี, มาร์คัส เบตติเนลลี และ ทิยานี ไรน์เดอร์ส ส่วนทาง เชลซี นำเข้านักเตะมา 3 รายคือ เอสเตเวา, เลียม ดีแลป และ มามาดู ซาร์
ทั้งนี้ทีมที่ได้ประโยชน์สำหรับตลาดนักเตะซื้อขายรอบแรกโดยที่ไม่ได้ลงเล่นในศึก ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 2025 ก็มีเช่นกัน โดยทาง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็คว้าตัว มาเธอุส คุนญา เข้าสู่ทีมเป็นที่เรียบร้อย ส่วนทาง ลิเวอร์พูล ก็ปล่อยตัว เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ไปให้กับ เรอัล มาดริด เพื่อลงเล่นในศึก ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 2025 ได้ทันเวลานั่นเอง และสำหรับตลาดนักเตะรอบต่อไปจะเปิดขึ้นในวันที่ 16 มิถุนายน และปิดลงในวันที่ 1 กันยายน
