หลังจากตลาดซื้อขายนักเตะรอบแรกในเดือนมิถุนายนของ พรีเมียร์ลีก ปิดลงไปเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กลายเป็นทีมที่ซื้อตัวผู้เล่นมากถึง 4 รายด้วยกันคือ รายาน เอต-นูรี, รายาน แชร์กี, มาร์คัส เบตติเนลลี และ ทิยานี ไรน์เดอร์ส ซึ่งก็ถือว่าเป็นสิ่งที่น่าจับตามองอย่างมากว่าทำไมพวกเขาจึงทำเช่นนั้น อาจเป็นเพราะฤดูกาลก่อนไม่มีแชมป์ติดมือแม้แต่รายการเดียวหรือไม่? หรือมีเหตุผลอื่นอีก? ติดตามไปกับทาง The Sporting News Thailand ได้ที่นี่
ทำไม แมนซิตี้ ซื้อนักเตะรัว ๆ ทั้งที่พึ่งต้นตลาด?
แน่นอนว่าการที่ฤดูกาลก่อน แมนฯ ซิตี้ พลาดแชมป์ทุกรายการอาจเป็นหนึ่งในเหตุผลให้พวกเขาต้องการคว้าตัวนักเตะมาเสริมทีม ซึ่งไวเท่าไหร่ก็ยิ่งดี เพราะจะทำให้นักเตะใหม่ปรับตัวเข้ากับทีมได้เร็ว แต่เหตุผลจริง ๆ ที่ดูจะเข้าท่ามากกว่านั้นคือทัพเรือใบสีฟ้ามีโปรแกรมลงเล่นในศึก ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 2025 หรือชิงแชมป์สโมสรโลก โดยจะเริ่มแข่งขันกันในวันที่ 15 มิถุนายนนี้
ดังนั้นทาง แมนฯ ซิตี้ จึงใช้โอกาสที่ พรีเมียร์ลีก เปิดตลาดนักเตะรอบแรกในเดือนมิถุนายนเร่งซื้อนักเตะเข้ามาถึง 4 ราย เพื่อที่จะเสริมแกร่งให้กับทีมในศึกชิงแชมป์สโมสรโลก โดยสิ่งที่เห็นได้ชัดมาก ๆ คือ รายาน แชร์กี จะเข้ามาแทน เควิน เดอ บรอยน์ ที่จะถูกปล่อยตัวออกไปหลังหมดสัญญาในวันที่ 30 มิถุนายนนี้ ซึ่งคาบเกี่ยวกับการแข่งขันรายการนี้พอดี
ส่วนนักเตะอีก 3 รายอย่าง รายาน เอต-นูรี, ทิยานี ไรน์เดอร์ส และ มาร์คัส เบตติเนลลี ก็ถือว่าเป็นการเสริมทีมที่เข้าท่า รายาน เอต-นูรี จะเข้ามาอุดรอยรั่วตรงแบ็คซ้ายที่ฤดูกาลก่อน ยอสโก้ กวาร์ดิโอล อาจไม่ได้ถนัดมากนัก เพราะจริง ๆ แล้วเจ้าตัวดูจะเหมาะกับเซ็นเตอร์แบ็คมากกว่า ส่วนทาง ทิยานี ไรน์เดอร์ส นั้นก็เป็นกองกลางที่ดีที่สามารถเล่นได้ทั้งตัวกลางและกลางตัวรุก และทาง มาร์คัส เบตติเนลลี ก็จะเข้ามาแทน สก็อตต คาร์สัน มือ 3 ของทีมที่จะหมดสัญญาปลายเดือนนี้เช่นเดียวกับ เดอ บรอยน์

Foto: Divulgação/Manchester City