จากรุ่นสู่รุ่น : เหตุใด ลีดส์ ยูไนเต็ด ถึงครองใจแฟนบอลในไอร์แลนด์ได้มากกว่า 50,000 คน?

Francis Phumin

จากรุ่นสู่รุ่น : เหตุใด ลีดส์ ยูไนเต็ด ถึงครองใจแฟนบอลในไอร์แลนด์ได้มากกว่า 50,000 คน? image

ลีดส์ ยูไนเต็ด เคยเป็นมหาอำนาจลูกหนังของอังกฤษในช่วงเวลาหนึ่ง การันตีได้จากผลงานแชมป์ลีกสูงสุด 3 สมัย และ เอฟเอ คัพ 1 สมัย จึงไม่แปลกใจที่สโมสรแห่งนี้มีฐานแฟนคลับที่เหนียวแน่นในทั่วทุกมุมโลก

ไม่เว้นแต่บ้านใกล้เรือนเคียงอย่างประเทศไอร์แลนด์ที่ว่ากันว่าประชาชนมากกว่า 50,000 ชีวิต และหลายหมื่นหลังคาเรือน เป็นแฟนบอลของ ลีดส์ ยูไนเต็ด

เหตุใดสโมสรฟุตบอลจากเวสต์ยอร์กเชอร์แห่งนี้ ถึงสามารถครองใจผู้คนอีกฝั่งหนึ่งของทะเลไอริชได้อย่างน่าเหลือเชื่อ? ติดตามเรื่องราวทั้งหมดได้ที่นี่

แพสชั่นจากรุ่นสู่รุ่น

เฉกเช่นเดียวกับชาวไอร์แลนด์คนอื่น ๆ เจอร์รี่ ลินช์ เจ้าของช่องยูทูบ The Leeds View ได้รับความหลงใหลใน ลีดส์ ยูไนเต็ด มาจาก โดนัล คุณพ่อของเขา ซึ่งเป็นแฟนพันธุ์แท้ของทัพยูงทองมาตั้งแต่ยุค 60s เป็นต้นมา และคอยเล่าเรื่องราวของสโมสรแห่งนี้นับตั้งแต่ที่ เจอร์รี่ จำความได้

“เขามักจะพูดถึงภาพลักษณ์อันสง่างามของชุดสีขาวล้วนที่มาจากความต้องการให้ ลีดส์ เป็นเหมือน เรอัล มาดริด ถ้าคุณอยากจะเป็นทีมชั้นนำในยุโรปและถูกมองว่าเป็นทีมที่ดีที่สุดในโลก คุณต้องดูดีที่สุดในโลกเช่นกัน” เจอร์รี่ ลินช์ กล่าวกับ The Athletic

“พวกเขามีชุดสีขาวสะอาดตา แล้วก็มีนักเตะอย่าง จอห์น ไจลส์ ซึ่งเป็นชาวไอริช และเป็นวีรบุรุษคนสำคัญของไอร์แลนด์ แล้วก็มีความแข็งแกร่งและดุดันแบบ บิลลี่ เบรมเนอร์”

“ลีดส์ แตกต่างจากสโมสรอื่น ๆ พวกเขาไม่ใช่ทีมที่ได้รับความนิยม และคนในอังกฤษก็ไม่ได้ชอบ ลีดส์ เสมอไป นั่นอาจเป็นส่วนหนึ่งของเหตุผล (ที่คนไอริชติดตามลีดส์) เช่นกัน เพราะเป็นเรื่องดีที่ได้ติดตามทีมรองบ่อนที่สามารถต่อกรกับทีมเหล่านี้ได้ ซึ่งลีดส์ ก็ทำแบบนั้น ทุกอย่างก็มาจากตรงนั้น”

ลีดส์ ยูไนเต็ด มีความหมายต่อ ลินช์ เป็นอย่างมาก เช่นเดียวกับครอบครัวอื่น ๆ ไม่ใช่แค่เรื่องผลการแข่งขันในสนามเท่านั้น แต่มันยังทำให้เขาได้ใกล้ชิดกับญาติ ๆ มากขึ้น ประสบการณ์ร่วมกันเหล่านี้มีค่าอย่างยิ่งสำหรับเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่เขาได้ไปเยี่ยมชมรูปปั้นของ บิลลี่ เบรมเนอร์ ที่หน้าสนาม เอลแลนด์ โร้ด

“ในวัยเด็กผมกับพ่อมีช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมมาก เราสนุกมาก ผมสนิทกับพ่อมากขึ้นเพราะช่วงเวลาที่เราเคยไปดูเกมของ ลีดส์ ด้วยกัน ท่านเสียชีวิตไปเมื่อ 8 ปีก่อน มีหินก้อนหนึ่งอยู่ข้าง ๆ รูปปั้นของ บิลลี่ เบรมเนอร์ ผมเอาหินก้อนนั้นมาวางแทนท่าน”

“พ่อของผมฝังอยู่ที่ กัลเวย์ แต่ผมไม่รู้สึกว่าท่านถูกฝังอยู่ที่นั่นเลย ผมรู้สึกเหมือนท่านอยู่ที่ ลีดส์ เพราะทุกครั้งที่ผมไปที่นั่น ผมจะที่เห็นหินก้อนนั้นเสมอ และรู้สึกได้ตลอดเลยว่าท่านยังอยู่ตรงนี้”

ขณะที่ แพทริค ซาเวจ ชายชาวไอริชวัย 32 ปี ผู้เกิดที่แบรดฟอร์ด ก็เป็นอีกหนึ่งคนที่ถูกปลูกฝังให้รัก ลีดส์ ยูไนเต็ด มาตั้งแต่วัยเยาว์ เนื่องจากกิจกรรมในทุก ๆ สุดสัปดาห์ คือการถูกจูงมือโดยคุณพ่อไปชมเกมที่สนาม เอลแลนด์ โร้ด อยู่เป็นประจำ

“เขาคงจะได้เห็นทีมที่ดีที่สุดของ ลีดส์ ผมมักจะฟังเรื่องราวจากเขาระหว่างไปดูเกม ต่อคิวซื้อตั๋ว เขายังพูดเหมือนเป็นความทรงจำในวัยเด็กของเขาเลย เราเคยไปผับของ ปีเตอร์ ลอริเมอร์ กันบ่อย ๆ แล้วเขาก็ทำตัวเหมือนเด็กนักเรียนตัวน้อย ๆ เวลาได้อยู่ใกล้เขา”

“สายสัมพันธ์ของเรามาจากพ่อแม่ที่เติบโตมาด้วยการได้ดูทีมในยุค 70s และนักเตะไอริชทุกคน, คุณจะขึ้นแท็กซี่ในดับลินไม่ได้ถ้าคนขับแท็กซี่ไม่ใช่แฟนลีดส์ มันเป็นไปไม่ได้เลย การเดินทางกลับบ้านก็มีแต่การคุยกับคนขับแท็กซี่เรื่อง ลีดส์ เท่านั้น”

จากตรงนี้สรุปได้ว่าการที่ประชาชนชาวไอร์แลนด์ เทใจให้กับ ลีดส์ ยูไนเต็ด เกิดจากการปลูกฝังมาแบบรุ่นสู่รุ่น ตั้งแต่รู่นปู่สู่รุ่นพ่อ รุ่นพ่อสู่รุ่นลูก และรุ่นลูกสู่รุ่นหลาน เป็นแบบนี้มาตั้งแต่ยุค 60s กินเวลาร่วม 7 ทศวรรษ จึงไม่แปลกใจว่าทำไมชาวไอริชถึงคลั่งไคล้ "เดอะ ไวท์ส" มากมายขนาดนี้

เหมือนกับที่ เจอร์รี่ แมคเดอร์มอตต์ วัย 65 ปี ผู้ก่อตั้งกลุ่มแฟนบอล ลีดส์ ยูไนเต็ด กลุ่มแรก ๆ ขึ้นที่ไอร์แลนด์ ที่ต้องการให้วัฒนธรรมนี้ยังคงถูกสืบทอดต่อไป ด้วยการเปลี่ยน อาวีวา สเตเดี้ยม ในดับลิน ให้กลายเป็น เอลแลนด์ โร้ด เมื่อ ลีดส์ ยูไนเต็ด มีคิวลงอุ่นเครื่องกับ เอซี มิลาน ที่ประเทศไอร์แลนด์

“สำหรับผม ส่วนตัวแล้ว มันคือช่วงเวลาสำหรับเด็ก ๆ จริงๆ ผมผ่านอะไรมามากมาย แต่สิ่งที่สำคัญคือภาพลักษณ์ของเด็ก ๆ” เจอร์รี่ แมคเดอร์มอตต์ ที่เป็นแฟนของ ลีดส์ ตั้งแต่อายุ 10 ขวบ กล่าว

“ถ้าเราสามารถจำลองบรรยากาศภายในสนามอาวีวาให้เป็นแบบที่เอลแลนด์ โร้ดได้ล่ะก็ ลองนึกภาพเด็กอายุ 12 หรือ 11 ขวบดูสิ ความรู้สึกของเขาจะเป็นอย่างไรท่ามกลางบรรยากาศแบบนั้น?”

“คุณกำลังพูดถึงการทำให้เด็ก ๆ รักฟุตบอล รักทีม บรรยากาศ และเสียงเพลง เด็กทุกคนชอบแบบนั้น”

บทความที่เกี่ยวข้อง

Francis Phumin

นักเขียน The Sporting News Thailand ผู้ที่หลงไหลในเสน่ห์ของฟุตบอล