“ทั้งหมดที่ผมต้องการ… คือกลับไปลิเวอร์พูล”
ไมเคิล โอเว่น กับสัญญาลับที่เปลี่ยนเส้นทางชีวิต จากแอนฟิลด์ สู่โอลด์ แทรฟฟอร์ด
ในโลกฟุตบอล บางครั้ง “หัวใจ” ไม่ได้มีอำนาจเหนือ “เงื่อนไขในสัญญา”
ไมเคิล โอเว่น เคยเป็นไอคอนของลิเวอร์พูล เด็กหนุ่มจากอะคาเดมีที่กลายเป็นเจ้าของบัลลงดอร์ในวัยเพียง 22 ปี
แต่เมื่อเขาออกจากแอนฟิลด์ไปอยู่กับเรอัล มาดริดในปี 2004 เส้นทางชีวิตของเขาก็เริ่มไกลออกจากจุดที่เรียกว่า “บ้าน” — แม้หัวใจจะไม่เคยย้ายไปไหนเลยก็ตาม
เกือบ 20 ปีผ่านไป วันนี้ โอเว่นเปิดเผยเรื่องราวที่แฟนบอลไม่เคยรู้มาก่อน
เรื่องของ “สัญญาลับ” ที่เขาเชื่อว่าจะพาเขากลับไปลิเวอร์พูลได้ แต่กลับกลายเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้เขาเดินสวนทางกับอดีตตลอดกาล
จากมาดริด… สู่ดีลที่ไม่มีทางเลือก
โอเว่นเล่าว่า หลังจากใช้เวลาเพียงหนึ่งฤดูกาลในสเปน เขา “หมดใจ” กับเรอัล มาดริด และอยากกลับไปเมอร์ซีย์ไซด์ทุกวินาทีที่ยังสวมเสื้อขาวอยู่
“ทั้งหมดที่ผมต้องการ คือกลับไปเล่นให้ทีมเดียวในโลก — ลิเวอร์พูล”
เขากล่าวกับ Mashable India
แต่ความจริงคือ มาดริดไม่ต้องการปล่อยเขาให้ลิเวอร์พูลง่าย ๆ
สโมสรจากสเปนได้รับข้อเสนอจากนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ที่ยื่นเงิน “มากกว่าสองเท่า” ของที่ลิเวอร์พูลเสนอ
และนั่นคือจุดที่หัวใจของโอเว่นเริ่มถูกบีบให้เลือกระหว่าง “ฝัน” กับ “ความเป็นจริง”
“ประธานมาดริดบอกผมว่า ‘นายจะไปลิเวอร์พูลไม่ได้ เพราะนิวคาสเซิลเสนอเงินมากกว่าเท่าตัว’
ถ้าลิเวอร์พูลให้เท่ากัน นายไปได้ แต่พวกเขาไม่มีวันทำแบบนั้น”
เมื่อประตูสู่บ้านเก่าปิดลง เขาจึงตัดสินใจเปิดประตูบานใหม่ พร้อมเงื่อนไขพิเศษที่เขาหวังว่าจะเป็น “ทางลับกลับบ้าน”
สัญญาที่ซ่อนคำว่า “ลิเวอร์พูล”
ในปี 2005 โอเว่นย้ายมานิวคาสเซิล ด้วยค่าตัว 16.8 ล้านปอนด์
แต่เขายอมรับว่า เหตุผลเดียวที่เซ็นสัญญา ก็เพื่อจะใส่ “เงื่อนไข” ที่อนุญาตให้เขากลับไปลิเวอร์พูลได้หลังผ่านไปหนึ่งปี
“เหตุผลเดียวที่ผมเซ็นกับนิวคาสเซิล ก็เพราะมันทำให้ผมใส่เงื่อนไขนั้นได้
นั่นคือทั้งหมดที่ผมต้องการ — กลับไปลิเวอร์พูล”
แต่เทพนิยายจบไม่เหมือนในฝัน
หนึ่งปีผ่านไป ลิเวอร์พูลไม่ได้มารับเขากลับ
และเมื่อเวลาผ่านไป สัญญานั้นก็กลายเป็นเพียง “ข้อเขียนในกระดาษ” ที่ไร้ความหมาย
จาก “เด็กของหงส์” สู่ “คนทรยศ”
โอเว่นอยู่ที่นิวคาสเซิลต่ออีกสี่ปี
ก่อนจะทำสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิด เซ็นสัญญากับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในปี 2009 ทีมคู่ปรับตลอดกาลของสโมสรที่หล่อหลอมเขามาตั้งแต่วัยเด็ก
มันคือการตัดสินใจที่เปลี่ยนภาพจำของเขาในสายตาแฟนลิเวอร์พูลไปตลอดกาลจาก “ลูกชายของแอนฟิลด์” กลายเป็น “คนทรยศ”
“ไม่มีใครรู้เรื่องนั้น (สัญญาเพื่อกลับลิเวอร์พูล)
ไม่มีใครสนใจจะรู้ด้วยซ้ำ แต่พวกเขากลับพูดว่า
‘นายเคยเล่นให้ลิเวอร์พูล แล้วไปอยู่แมนฯ ยูไนเต็ด — นายไม่มีความภักดีเลย’”
ทุกครั้งที่เขากลับไปเล่นที่แอนฟิลด์ เสียงโห่ยังดังเสมอ แม้เวลาจะผ่านไปกว่าทศวรรษ แต่ตราบาปนั้นยังไม่จาง
“ผมโทรหาลิเวอร์พูลทุกปี”
สิ่งที่แฟนบอลไม่รู้คือ โอเว่นไม่เคยเลิกพยายาม เขาโทรหาผู้จัดการทีมลิเวอร์พูลทุกยุค ขอให้พวกเขารับเขากลับ
“ผมโทรหาบร็อดเจอร์ส ทุกปี ผมโทรหาผู้จัดการทีมทุกคน บอกพวกเขาว่า ‘ได้โปรด รับผมกลับไปที’”
“แต่พวกเขาไม่เคยต้องการผมอีกแล้ว ซึ่งผมก็เข้าใจ — เพราะตอนนั้นมีทั้งตอร์เรส มีทั้งซัวเรซ นั่นคือฟุตบอล และผมไม่โกรธเลย”
มันคือคำพูดที่เต็มไปด้วย “ความยอมรับ” แต่ก็ปนด้วยความเจ็บปวดที่ไม่เคยหมด
จากฮีโร่ สู่คนที่ถูกลืม
ในวันที่ลิเวอร์พูลเปิดบ้านรับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดอีกครั้ง
ชื่อของไมเคิล โอเว่น อาจถูกพูดถึงอีกครั้งในฐานะ “อดีตทั้งสองสโมสร”
แต่เบื้องหลังเสียงโห่ หรือคำวิจารณ์บนโซเชียล คือเรื่องราวของชายคนหนึ่งที่ “อยากกลับบ้าน” แต่ไม่เคยได้รับโอกาสนั้นเลย
13 ประตูจาก 36 นัดในสีเสื้อเรอัล มาดริด คือสถิติ
แต่ “หัวใจ” ที่ยังอยู่ที่แอนฟิลด์ คือสิ่งที่ไม่มีใครเคยเห็น
“ทั้งหมดที่ผมอยากทำ คือกลับไปลิเวอร์พูล”
ไมเคิล โอเว่นกล่าว 20 ปีหลังจากวันที่ฝันนั้นหล่นหาย
บทความที่เกี่ยวข้อง
