ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ ย้ายจาก ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน มาอยู่กับ ลิเวอร์พูล ด้วยค่าตัวระดับสถิติที่ 116 ล้านปอนด์ แต่จนถึงตอนนี้เพลย์เมกเกอร์ทีมชาติเยอรมันยังมิอาจสร้างอิมแพ็คในแดนกลางให้หงส์แดงได้เท่าที่ควร
จากแข้งจอมสร้างสรรค์แห่งบุนเดสลีกา แต่ผ่านมา 6 นัดในพรีเมียร์ลีก เวียร์ตซ์ กลับยังไม่สามารถทำประตูหรือแอสซิสต์ให้กับทีมได้เลย จนถูกแฟน ๆ แซวว่าเขาจะเป็น 007 คนต่อไป
อย่างไรก็ตาม เมื่อมองย้อนไปดูแนวรุกระดับพระกาฬรายอื่น ๆ บางทีคำวิจารณ์ 007 อาจจะไม่แฟร์กับ ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ ก็เป็นได้... เรื่องราวทั้งหมดเป็นเช่นไร? ติดตามได้ที่นี่
คำวิจารณ์ 007 มาจากไหน?
คนทั่วไปอาจจะคุ้นชินหมายเลข “007” มาจาก ‘เจมส์ บอนด์’ ตัวละครสมมติ ซึ่งเป็นสายลับของหน่วยข่าวกรองลับอังกฤษ ที่เขียนโดย เอียน เฟลมมิง เมื่อปี 1953 ก่อนจะถูกดัดแปลงเป็นภาพยนต์ชื่อดังตลอดระยะเวลา 6 ทศวรรษที่ผ่านมา
แต่ในวงการฟุตบอลหมายเลข 007 ไม่ได้ใช้สำหรับการยกย่องหรือเชิดชูแต่อย่างใด และเชื่อว่าคงไม่มีใครอยากได้สมญานามนี้ เพราะเลข 007 กลายเป็นคำดูถูกยอดนิยมบนโซเชียลมีเดีย ที่หมายถึงนักเตะใหม่ที่ลงเล่นให้ทีมติดต่อกัน 7 เกมแรกแต่ไม่มีส่วนร่วมในการทำประตูเลย
Getty
ซึ่ง ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ ก็กลายเป็นแข้งคนล่าสุดที่โดนคำวิจารณ์ดังกล่าว แม้เขาจะทำแอสซิสต์ให้ อูโก้ เอกิติเก้ ในศึกคอมมูนิตี้ ชิลด์ได้แล้วก็ตาม แต่ในพรีเมียร์ลีก 6 นัดแรกของฤดูกาลนี้ เขายังทำอะไรไม่ได้เลย ก่อนจะลงเล่นนัดที่ 7 ในสุดสัปดาห์นี้กับ เชลซี
ปฏิเสธไม่ได้ว่านี่คือผลงานที่ค่อนข้างน่าผิดหวัง หากมองจากค่าตัวระดับมหาศาล แต่อย่างไรก็ตาม บางทีแฟนบอลลิเวอร์พูลน่าจะพอเบาใจได้บ้าง เนื่องจากในประวัติศาสตร์มีแนวรุกหลายคนเช่นกันที่ลงเล่น 7 เกมแรกโดยไม่มีส่วนร่วมการทำประตูเลย แต่พวกเขาก็สามารถก้าวมาเป็นแข้งตัวท็อปของพรีเมียร์ลีกได้ในที่สุด
ย้อนผลงานสุดยอดแนวรุกที่ยิงประตูไม่ได้ใน 7 นัดแรก
ถ้าหากในปี 1999 อินเตอร์เน็ตเป็นดั่งปัจจัย 5 อย่างปัจจุบัน เธียร์รี่ อองรี ก็คงโดนคำวิจารณ์ไม่ต่างจาก เวียร์ตซ์ ในเวลานี้ เนื่องจากตอนนั้น อองรี ในวัย 21 ปี ที่ย้ายจาก ยูเวนตุส มาอยู่กับ อาร์เซนอล เขาทำอะไรไม่ได้เลยตลอด 7 เกมแรก แถมยังโดนใบเหลืองไป 2 ใบ
อย่างไรก็ตาม นัดที่ 8 ในเกมที่ไอปืนใหญ่บุกไปเยือน เซาแธมป์ตัน อองรี ก็ปลดล็อคซัดลูกแรกให้กับทีมได้สำเร็จ ก่อนจะจบฤดูกาล 1999-00 ด้วยการทำ 17 ประตู กับ 8 แอสซิสต์ และต่อมาเขาก็ก้าวมาเป็นดาวยิงระดับปรากฎการณ์ของพรีเมียร์ลีก และเป็นดาวซัลโวตลอดกาลของ อาร์เซนอล หลังซัดไปทั้งสิ้น 175 ประตู
หรือแม้แต่ มาเธอุส คุนญา แนวรุกคนใหม่ของ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็เคยมีช่วงเวลาดังกล่าวสมัยย้ายมาเล่นในพรีเมียร์ลีกครั้งแรกกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน ในตลาดเดือนมกราคม 2023 โดยตอนนั้น คุนญา ไม่มีประตูหรือแอสซิสต์เลยตลอด 8 เกมแรกที่ลงสนาม
ก่อนจะมามีแอสซิสต์แรกในเกมนัดที่ 9 เกมที่เปิดบ้านแพ้ ลีดส์ ยูไนเต็ด 2-4 แม้จบฤดูกาล 2023-24 เขาจะทำได้เพียง 2 แอสซิตส์ แต่ฤดูกาลถัดมาแนวรุกแซมบ้ากระหน่ำไป 12 ประตู กับ 7 แอสซิสต์ และทำอีก 15 ประตู กับ 6 แอสซิสต์ ในฤดูกาลล่าสุดที่เพิ่งจบไป
10 อันดับแนวรุกที่มีส่วนร่วมกับประตูในพรีเมียร์ลีกมากที่สุด ที่ยิงประตูหรือแอสซิสต์ไม่ได้ใน 7 นัดแรก
| อันดับ | ชื่อ | ประตู | แอสซิสต์ | รวม |
| 1 | เธียร์รี่ อองรี | 175 | 74 | 249 |
| 2 | ราฮีม สเตอร์ลิง | 123 | 65 | 188 |
| 3 | คริส ซัตตัน | 83 | 41 | 124 |
| 4 | ดิโอโก้ โจต้า | 63 | 20 | 83 |
| 5 | โจชัว คิง | 53 | 17 | 70 |
| 6 | เอียน รัช | 48 | 14 | 62 |
| 7 | โนเอล วีแลน | 44 | 15 | 59 |
| 8 | ดไวต์ เกล | 34 | 20 | 54 |
| 9 | มาเธอุส คุนญา | 29 | 13 | 42 |
| 10 | ชาร์ลี อดัม | 25 | 13 | 38 |
*ทุกคนลงสนาม 7 นัดแรก โดยออกสตาร์ทตัวจริงอย่างน้อย 4 นัด
กลับกันแนวรุกบางคนก็แทบไม่ต้องปรับตัวก็สามารถฉายฟอร์มเก่งได้เลย ไม่ว่าจะเป็น เมซุต โอซิล, อเล็กซิส ซานเชซ, เออร์ลิง ฮาลันด์, ดิเอโก้ คอสต้า หรือ เซร์คิโอ อเกวโร่ แต่ก็มีหลายคนเช่นกันที่เริ่มต้นได้อย่างเร้าใจแต่กลับไม่สามารถยืนระยะได้อย่าง ปาปิส เดมบา ซิสเซ่, นิกิตซา เยลาวิช และ มิชู
ดังนั้นในกรกณีของ ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ การตัดสินว่าเขาจะเป็นดีลที่ล้มเหลวก็คงจะดูใจร้ายไส้ระกํากันไปหน่อย เพราะอย่าลืมไปว่ารอบข้างเขาก็มีนักเตะใหม่อย่าง อูโก้ เอกิติเก้ และ อเล็กซานเดอร์ อิซัค ด้วยเช่นกัน