“นี่อาจจะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของอุตสาหกรรมนี้ในรอบ 20 ปี นับตั้งแต่บริษัทพนันมาอยู่บนหน้าอกของเสื้อแข่งเป็นครั้งแรก” โจ วิลเลียมส์ ผู้อำนวนการบริษัทสปอนเซอร์ด้านกีฬากล่าว
แม้ว่าบริษัทพนันบนอกเสื้อสโมสรพรีเมียร์ลีก จะเป็นสิ่งที่เห็นได้ทั่วไปในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่ตอนนี้มันกำลังจะกลายเป็นอดีต เมื่อกำลังจะถูกห้ามใช้นับตั้งแต่ฤดูกาลหน้าเป็นต้นไป
ปัญหาคือสปอนเซอร์ตรงส่วนนี้ ถือเป็นกระเป๋าเงินหลักของเหล่าทีมที่ไม่ใช่ “บิ๊ก 6” ที่จะทำให้พวกเขาต้องสูญเสียรายได้ในระดับ 100 ล้านปอนด์
อะไรคือสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ และสโมสรที่ได้รับผลกระทบจะรับมืออย่างไร? ติดตามไปพร้อมกัน
บุกพรีเมียร์ลีก
สปอนเซอร์คาดอก เป็นสิ่งที่อยู่คู่กับวงการฟุตบอลมาตั้งแต่ยุค 1970s ก่อนจะกลายเป็นแหล่งเงินทุนสำคัญของทุกสโมสร ตั้งแต่รากหญ้าไปจนถึงระดับโลก
เช่นกันสำหรับ พรีเมียร์ลีก ของอังกฤษ ที่มีมูลค่าทางการตลาดสูงเป็นลำดับต้น ๆ ของโลก ก็ล้วนเป็นเป้าหมายของแบรนด์ต่างๆ ที่ยอมจ่ายเงินจำนวนมหาศาล ซื้อพื้นที่บนหน้าอกเสื้อแข่ง เพื่อประชาสัมพันธ์แบรนด์ตัวเอง
หนึ่งในนั้นคือบริษัทพนัน ที่เริ่มปรากฎตัวบนเสื้อแข่งของทีมในพรีเมียร์ลีกตั้งแต่ปี 2002 โดยมี ฟูแล่ม เป็นเจ้าแรก หลังจับมือกับ Betfair ในฤดูกาลดังกล่าว
หลังจากนั้น บริษัทพนันบนหน้าอกเสื้อ ก็มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จาก 3 ทีมในฤดูกาล 2005/06 เป็น 6 ทีมในปี 2009/10 และ 10 ทีมในปี 2019/20
ขณะที่ในฤดูกาลปัจจุบัน กว่าครึ่งหนึ่งของสโมสรพรีเมียร์ลีก ที่เปิดพื้นที่ให้บริษัทพนันบนอกเสื้อ ได้แก่ แอสตัน วิลลา, เอฟเวอร์ตัน, เวสต์แฮม, วูล์ฟ, ฟอเรสต์, ฟูแลม, พาเลซ, เบรนท์ฟอร์ด, บอร์นสมัธ, เบิร์นลีย์ และ ซันเดอร์แลนด์ รมทั้งสิ้น 11 ทีม

สิ่งที่ทำให้มันได้รับความนิยมขนาดนี้คือเม็ดเงินมหาศาลที่เข้ามาอัดฉีดสโมสร โดยเฉพาะทีมที่ไม่ใช่ “บิ๊ก 6” มันคือเงินทุนหลักในการจับจ่ายใช้สอยเสริมทัพ เพื่อให้สามารถต่อกรกับทีมใหญ่ได้ในแต่ละปี
“สโมสรกลางตารางพรีเมียร์ลีก บางทีมมีรายได้จากส่วนนี้ราว 8-10 ล้านปอนด์จากสปอนเซอร์คาดอก แต่การพยายามหาให้เท่ากันจากบริษัทที่ไม่เกี่ยวข้องกับการพนัน ถือเป็นสิ่งที่ยาก” โจ วิลเลียมส์ ผู้อำนวนการบริษัทสปอนเซอร์ด้านกีฬากล่าว
นอกจากนี้ บางครั้งบริษัทพนัน ยังเสนอแพ็คเกจล่วงหน้า ยังพร้อมสนับสนุนสโมสรทันที ที่ได้ขึ้นมาเล่นในพรีเมียร์ลีก ตกตัวอย่างเช่นกรณี ซันเดอร์แลนด์ ที่เซ็นสัญญากับ W88 หลังจากพวกเขา คว้าตั๋วเลื่อนชั้น ได้ไม่ถึงสัปดาห์
อย่างไรก็ดี นับตั้งแต่ฤดูกาล 2026/27 บริษัทพนัน จะไม่มีสิทธิ์มาปรากฏตัวบนหน้าอกเสื้อของสโมสรในพรีเมียร์ลีกอีกต่อไป หลังถูกห้ามใช้อย่างเป็นทางการ และน่าจะทำให้เงินตรงส่วนนี้หายไปถึง 100 ล้านปอนด์
“นี่อาจจะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของอุตสาหกรรมนี้ในรอบ 20 ปี นับตั้งแต่บริษัทพนันมาอยู่บนหน้าอกของเสื้อแข่งเป็นครั้งแรก” วิลเลียมส์ กล่าว
ถ้าเป็นอย่างนั้น สโมสรที่ได้รับผลกระทบจะรับมืออย่างไร?
รายได้ทดแทน
อันที่จริง บริษัทพนันไม่ได้ถูกแบนไปจากวงการฟุตบอลอังกฤษโดยสมบูรณ์ เพราะยังสามารถปรากฏอยู่บนแขนเสื้อ ป้ายโฆษณาข้างสนาม หรือชุดซ้อมได้
แต่ปัญหาคือมูลค่าของมันจะลดลงอย่างแน่นอน โดยผู้เชี่ยวชาญประเมินว่าอาจจะต่ำกว่าที่เคยทำได้อย่างชัดเจน ยกตัวอย่างเช่น บนแขนเสื้อของทีมกลางตาราง น่าจะมีมูลค่าราว 1-2 ล้านปอนด์เท่านั้น
หรือแม้แต่สปอนเซอร์คาดอกรายใหม่ที่เข้ามา ก็จะมีมูลค่าไม่ใกล้เคียงจากที่เคยได้จากบริษัทพนัน อาจจะลดลงแบบครึ่งต่อครึ่ง หรือน้อยกว่านั้น
“ผมคงได้เห็นดีลลดลงไปในระดับที่ต่ำสุดอย่างแท้จริง แน่นอนว่าจะเกิดขึ้นในปีแรก (หลังถูกแบน)” วิลเลียมส์ กล่าว
“คุณอาจจะเห็นมูลค่าของมันลดลงครึ่งหนึ่ง จากที่บริษัทพนันเคยเสนอให้ หรืออาจจะต่ำกว่านั้นจนถึงประมาณ 1 ใน 4 ในฤดูกาลแรก”
โจทย์เหล่าทีมที่ได้รับผลกระทบต้องแก้ก็คือ พวกเขาจะไปหาเงินจากไหนในฤดูกาลหน้า ในเมื่อรายจ่ายเท่าเดิม หรืออาจสูงขึ้น แต่รายได้กลับลดลงแบบฮวบฮาบ
ตอนนี้สิ่งที่ดูจะเป็นความหวังใหม่ของพวกเขาบริษัทด้านการเงิน ที่ ลิเวอร์พูล, สเปอร์ส และ ไบรท์ตัน จับมืออยู่ หรือ สายการบิน แบบที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ อาร์เซนอล เลือกใช้
หรืออาจจะมองไปยังบริษัทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่เคยผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนเข้ามาสนับสนุนสโมสรพรีเมียร์ลีกมาก่อน ไม่ว่าจะเป็น คาร์ลส์เบิร์ก, คาร์ลิง หรือแม้แต่ ช้าง ของประเทศไทย

อย่างไรก็ดี พวกเขาไม่ถึงกับจะหมดหวังเสียทีเดียว เพราะด้วยมูลค่าการตลาดของพรีเมียร์ลีกที่สูงมาก ย่อมทำให้หลายแบรนด์ ต้องการเข้ามาเป็นสปอนเซอร์คาดอกอย่างแน่นอน เพียงแต่ก่อนหน้านี้ พวกเขาอาจจะสู้ราคา ที่บริษัทพนันเสนอให้ไม่ไหว
“แม้ว่ามันจะเปลี่ยน สโมสรก็อยู่ในจุดที่จัดการได้” จอร์จ อิเชอร์วูด ผู้อำนวยการฝ่ายความร่วมมือระดับโลกของ Sportquake เอเจนซี ด้านกีฬากล่าว
“กลุ่มที่จ่ายเงินเพื่อสนับสนุนกีฬามากที่สุดในโลกคือ บริษัทรถ, ผู้ให้บริการทางการเงิน, สายการบิน และไอที”
“มันอาจจะเร็วเกินไปที่จะคาดการณ์ว่าส่วนใดจะขับเคลื่อนความต้องการนี้ แต่เราก็เห็นบริษัทเทคโนโลยีทางการเงิน, คริปโต, เอไอ และการท่องเที่ยวเริ่มมีการเติบโตที่ดีขึ้น”
นี่จึงเป็นช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนผ่านอย่างแท้จริง ที่จะทำให้เห็นว่าพื้นที่บนอกเสื้อควรจะมีราคาแท้จริงเท่าไร หลังจากที่มันเฟ้อขึ้นเรื่อยๆ ในทุกปี จากการเข้ามาของบริษัทพนัน
“ตลาดคริปโต ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ มีดีลจำนวนมหาศาลใน F1 และส่วนใหญ่ก็เป็นเลข 7 หลัก” วิลเลียมส์ กล่าว
“การแลกเปลี่ยนเงินก็เช่นกัน เราจะเห็นบางบริษัทที่เราคุ้นเคยกันดีบนหน้าจอทีวี ที่ราคาอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้”
และเมื่อถึงตอนนั้น การช่วงชิงพื้นที่บนหน้าอกเสื้อสโมสรพรีเมียร์ลีก ก็จะกลับมาดุเดือดอีกครั้ง