มิไคโล่ มูดริค ปีกจรวดชาวยูเครนของเชลซี กำลังเผชิญวิกฤติครั้งใหญ่ที่สุดในเส้นทางลูกหนัง หลังถูกสั่งพักแข้งชั่วคราวจากผลตรวจสารต้องห้าม เมลโดเนียม (Meldonium) ซึ่งถูกค้นพบในตัวอย่างปัสสาวะของเขาเมื่อปลายปีที่ผ่านมา
แม้ผลเบื้องต้นจะระบุว่าพบสารกระตุ้นในระบบร่างกาย แต่นักเตะวัย 24 ปีรายนี้ยืนยันหนักแน่นว่า "ไม่เคยใช้สารต้องห้ามใด ๆ อย่างตั้งใจ" และเพื่อยืนยันในความบริสุทธิ์ใจของตัวเอง มูดริคยอมเข้ารับการทดสอบเครื่องจับเท็จ – และ "ผ่าน" การทดสอบดังกล่าว
ผ่านเครื่องจับเท็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เซอร์เก พัลคิน ซีอีโอของสโมสรชัคตาร์ โดเนตส์ อดีตต้นสังกัดของมูดริค ออกมาให้สัมภาษณ์กับ GIVEMESPORT ว่า ตนได้พูดคุยกับนักเตะหลายครั้งหลังเรื่องนี้เกิดขึ้น และยังยืนยันว่านักเตะไม่มีเจตนาแอบแฝงหรือซ่อนเร้นใด ๆ
“เขางงมาก ไม่เข้าใจว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง เขาบอกว่าไม่เคยใช้สารอะไรเลย เขากับทนายเลยตัดสินใจพึ่งเครื่องจับเท็จ และเขาก็ผ่านมันได้อย่างใสสะอาด”
ไม่ใช่แค่ตัวนักเตะ แต่สโมสรเก่าก็เดือดร้อน
ไม่เพียงแค่ชื่อเสียงของมูดริคที่สั่นคลอนจากกรณีนี้ แต่ ชัคตาร์ โดเนตส์ เองก็ได้รับผลกระทบทางการเงินไม่น้อย เพราะยังมีโบนัสจำนวนมหาศาลที่พวกเขาจะได้รับจากดีลขายมูดริคให้กับเชลซี ซึ่งมีมูลค่าสูงถึง 88 ล้านปอนด์
“ถ้าเขาไม่ได้ลงเล่น เราก็เสี่ยงที่จะสูญเงินมากถึง 30 ล้านยูโร เพราะมีเงื่อนไขโบนัสตามผลงานในสัญญา” พัลคินกล่าว “ชัคตาร์, เชลซี และมูดริค ตอนนี้เราลงเรือลำเดียวกัน เราทุกคนอยากให้เขากลับมาเล่นฟุตบอลได้โดยเร็วที่สุด”
เส้นทางข้างหน้าและความไม่แน่นอน
จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีผลตรวจ B-sample (ตัวอย่างปัสสาวะสำรอง) ออกมา ทำให้สถานการณ์ยังคลุมเครือ มูดริคไม่ได้ลงสนามอีกเลยนับตั้งแต่วันที่ 28 พฤศจิกายน 2024 – และเชลซีเองก็ยังรอความชัดเจนจากสมาคมฟุตบอลอังกฤษ (FA)
ทายผลฟุตบอลพร้อมลุ้นรางวัล คลิกที่นี่
สำหรับแฟนบอล และโดยเฉพาะตัวนักเตะเอง การรอคอยคำตัดสินที่ยืดเยื้อนี้อาจเป็นสิ่งที่ทรมานที่สุด เพราะมันไม่ใช่แค่คำตัดสินในสนาม แต่มันหมายถึงอนาคต เส้นทางอาชีพ และศักดิ์ศรีของนักกีฬาคนหนึ่ง
เครื่องจับเท็จอาจไม่ใช่คำตอบสุดท้าย แต่สำหรับ มูดริค มันคือก้าวแรกของการต่อสู้เพื่อยืนยันว่าเขาเป็นนักเตะที่บริสุทธิ์ – ทั้งต่อเกมฟุตบอล และต่อตัวเอง
บทความที่เกี่ยวข้อง