ในช่วงปิดฤดูกาล นักเตะส่วนใหญ่ต่างก็ใช้เวลานี้พักผ่อนไปกับเพื่อนฝูงหรือว่าครอบครัวแบบเต็มที่ แต่ในช่วงปรีซีซั่นหรือใกล้เปิดฤดูกาล พวกเขาก็ต้องกลับมาลงสนามอีกครั้ง พร้อมกับกิจกรรมที่ทุกทีมทำเป็นประจำนั่นก็คือการ "เรียกความฟิต"
ว่าแต่ส่วนใหญ่แล้ว ทีมฟุตบอลแต่ละทีมจะมีวิธีการเรียกฟิตจากนักเตะแบบคร่าว ๆ อย่างไรบ้าง? ตามหาคำตอบได้ที่นี่
สปริ้นระยะสั้น
เริ่มแรกก่อนเลยก็คือการวิ่งหรือว่าสปริ้นระยะสั้น ๆ 20 เมตรตามเสียงนกหวีดของโค้ช เหล่านักเตะต้องวิ่งไปเมื่อได้ยินเสียงนกหวีด และเมื่อได้ยินอีกครั้งต้องวิ่งกลับ ก่อนที่จะวนอยู่แบบนี้ไปเรื่อย ๆ จนโค้ชมองเห็นว่านักเตะส่วนใหญ่หมดแรงแล้ว
วิธีนี้ ถือว่าเป็นวิธีที่ใช้กันอย่างแพร่หลายมากมาตั้งแต่ยุค 80' เพราะว่ารูปแบบการฝึกนี้มันเหมือนกับตอนเล่นจริง ๆ ที่จะต้องมีการสปริ้นระยะสั้นไป-กลับอยู่ตลอดเวลา
ทำรอบวิ่งรอบสนาม
หลังจากวิ่งระยะสั้นไปแล้ว ก็จะมาถึงการวิ่งระยะยาว โดยที่ส่วนใหญ่จะให้วิ่งรอบสนาม พร้อมกำหนดเวลาไว้ที่ 6 นาที ซึ่งตัวนักเตะต้องทำรอบวิ่งให้ได้มากที่สุด เพื่อเป็นการทดสอบระบบหายใจว่าต้องทำการฟื้นฟูมากแค่ไหน
แต่บางทีมหรือโค้ชบางคนอย่าง โธมัส แฟรงค์ จะใช้วิธีอีกแบบ นั่นก็คือให้นักเตะทำเวลาให้ดีมากที่สุดในการวิ่งขึ้นสุด-ลงสุดสนาม 10 รอบ ซึ่งวิธีนี้ก็เป็นการทดสอบระบบหายใจแบบเข้มข้นเช่นกัน
แดง เหลือง ส้ม
การเทสต์อีกแบบที่ใช้การอย่างแพร่หลายมาก ๆ ก็คือการวิ่งแบบเพิ่มระยะทางไปเรื่อย ๆ ยกตัวอย่างเช่น สต๊าฟ จะวางกรวย 3 สีไว้ 3 ระยะทาง สีแดง 20 เมตร, สีเหลือง 40 เมตร และ สีแดง 60 เมตร โดยที่ตัวนักเตะต้องวิ่งไปให้ถึงกรวยแดงแล้ววิ่งกลับ มาวิ่งทำระยะที่สีเหลืองต่อ จากนั้นก็มาวิ่งระยะของกรวยสีแดงเป็นสีสุดท้าย เพื่อเป็นการทดลองเหมือนอยู่ในสนามที่ ที่นักเตะอาจจะต้องเล่นเกมที่มันยืดมากกว่า 90 นาที
GACON
อย่างสุดท้าย ก็คือการเทสต์แบบ GACON ซึ่งเป็นการเทสต์ที่เพิ่งถูกนำมาใช้ได้ไม่นาน โดยทีมที่ใช้อยู่เป็นประจำก็คือทีม เปแอสเช ในยุคของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน
GACON ก็คือการเพิ่มระยะทางวิ่งไปเรื่อย ๆ แต่ให้นักเตะพักเท่าเดิม ยกตัวอย่างเช่น รอบแรก ให้วิ่ง 150 เมตร แล้วพัก 15 วินาที รอบที่สอง ให้วิ่ง 156.25 เมตร พัก 15 วินาที รอบที่สามวิ่ง 162.5 เมตร พัก 15 วินาที ทำต่อไปเรื่อย ๆ จนกว่านักเตะในทีมส่วนใหญ่จะหมดแรง