คิดกันเอาเอง! ฟาน ไดค์ รับไม่อยากพูดเยอะเรื่องถูกริบประตูเพราะยังไงลิเวอร์พูลก็แพ้อยู่ดี

News Correspondent
คิดกันเอาเอง! ฟาน ไดค์ รับไม่อยากพูดเยอะเรื่องถูกริบประตูเพราะยังไงลิเวอร์พูลก็แพ้อยู่ดี image

ปราการหลังชาวดัตช์ ออกมาให้สัมภาษณ์หลังจบเกมบิ๊กแมตช์กับ ซิตี้ ว่าไม่อยากพูดอะไรเยอะเรื่องถูกริบประตู เพราะยังไงทีมก็แพ้ไปแล้วอยู่ดี

ไม่พูดดีกว่า

แม้ว่าสกอร์จะขาดถึง 3-0 แต่ ลิเวอร์พูล ก็มีช่วงที่ได้บุกใส่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หนัก ๆ อยู่หลายครั้ง แต่สุดท้ายก็เปลี่ยนโอกาสเป็นประตูไม่ได้ทำให้แพ้ไป

อย่างไรก็ตาม เกมเมื่อคืนอาจจะมีสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป เพราะจริง ๆ แล้ว หงส์แดง ส่งบอลเข้าประตูไปแล้วหนึ่งรอบจาก เวอร์จิล ฟาน ไดค์ ที่โหม่งเข้าไปเป็นประตูตีเสมอ 1-1 ในช่วงครึ่งแรก

ทว่าประตูนั้นโดนริบคืน หลัง VAR มองว่า แอนดี้ โรเบิร์ตสัน ที่อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้ามีส่วนกับการเล่นฟุตบอล ซึ่งลูกนี้ก็กำลังเป็นประเด็นอยู่ในโลกโซเชียลตอนนี้

หลังจบเกม ฟาน ไดค์ ได้ถูกถามถึงความรู้สึกเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ ก่อนที่จะตอบว่ายังไงทีมก็แพ้อยู่ดี ให้ไปคิดกันเอาเองว่าจังหวะนั้นควรเป็นประตูหรือไม่

“ในฟุตบอล ผู้ตัดสินคือคนที่มีอำนาจตัดสินในจังหวะสำคัญ และเราต้องยอมรับสิ่งนั้นในสนาม ไม่มีประโยชน์อะไรที่ผมจะพูดถึงมันมากไปกว่านี้ ความจริงคือเราพ่าย 3-0 และมันเป็นความเสียหายครั้งใหญ่” ฟานไดค์ กล่าว

“ไม่สำคัญว่าผมจะพูดอะไรเกี่ยวกับประตูนั้น เพราะไม่ว่าผมจะพูดแบบไหน มันก็จะถูกนำไปลงในสื่อ แล้วตลอดช่วงพักเบรกทีมชาติจะมีแต่คนพูดถึงคำพูดของผมเกี่ยวกับการตัดสิน ผมเลยเลือกโฟกัสแค่ความจริงที่ว่าเราแพ้ ส่วนพวกคุณจะถกเถียงกันว่าประตูนั้นควรได้หรือไม่ก็แล้วแต่”

“ครึ่งแรกมันเป็นเกมที่ยาก พวกเขาครองบอลได้ดีกว่า และเรากดดันพวกเขาได้ยากมาก ผมไม่คิดว่าเราถูกกดดันมากนัก แต่ ดอกู เล่นได้ดีจริง ๆ และทำให้ คอเนอร์ แบรดลีย์ เจองานยากในหลายจังหวะหนึ่งต่อหนึ่ง”

“ในครึ่งหลังเราต้องพยายามอย่างหนัก เราเริ่มครองบอลได้มากขึ้น แต่การเพรสซิ่งของเรายังไม่ดีพอ”

บทความที่เกี่ยวข้อง

Staff Writer