แม้จะให้สัมภาษณ์ว่าไม่กังวลหรืออย่างไรก็แล้วแต่ แต่เชื่อว่าแฟนบอลทุก ๆ ทีมตอนนี้เมื่อมองลงมาที่ รูเบน อโมริม กุนซือของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็น่าจะเห็นได้ชัดว่าเขาทั้งเครียดและกดดัน หลังพยายามทำตามแผนตัวเองเท่าไหร่ ทีมก็ไม่ดีขึ้นเสียที
อย่างไรก็ดี ก่อนที่ อโมริม จะเข้ามารับงานนี้ ก็น่าจะรู้อยู่แล้วว่าเขาจะต้องเจอกับอะไร เพราะนี่คือสโมสรที่มีความกดดันและเครียดในการทำงานมากที่สุดในพรีเมียร์ลีกตอนนี้ ว่าแต่ทีมอื่น ๆ อยู่อันดับที่เท่าไหร่กันบ้าง ลิเวอร์พูล, เชลซี, อาร์เซนอล? ตามเช็คได้ที่นี่
อันดับความเครียดคุมทีม 20 สโมสรพรีเมียร์ลีก
สำหรับอันดับที่จะขึ้นด้านล่าง ได้อ้างอิงมาจาก oddspedia.com ที่ได้นำสถิติต่าง ๆ มารวมกัน ไม่ว่าจะเป็นความคาดหวังของบอร์ดบริหาร, ฐานแฟนบอล และธุรกิจโดยรวม จากนั้นเอามาประมวลผล
อันดับ | สโมสร |
1 | แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด |
2 | ลีดส์ ยูไนเต็ด |
3 | วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส |
4 | ซันเดอร์แลนด์ |
5 | เวสต์แฮม ยูไนเต็ด |
6 | เบิร์นลีย์ |
7 | เอฟเวอร์ตัน |
8 | นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด |
9 | ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ |
10 | น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ |
11 | เชลซี |
12 | ฟูแล่ม |
13 | แอสตัน วิลลา |
14 | ลิเวอร์พูล |
15 | แมนเชสเตอร์ ซิตี้ |
16 | เบรนท์ฟอร์ด |
17 | บอร์นมัธ |
18 | คริสตัล พาเลซ |
19 | ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน |
20 | อาร์เซนอล |
งานคุมทีมฟุตบอลคืองานที่ยากที่สุดเวลานี้?
แน่นอนว่างานทุก ๆ งานต้องมีแรงกดดันและความเครียดในตัวอยู่แล้ว แต่สำหรับผู้จัดการทีมฟุตบอล ณ เวลานี้ ดูจะกลายมาเป็นอาชีพที่มีความเครียดและกดดันมากที่สุด
เพราะนี่คืออาชีพที่ไม่มีความแน่นอนใด ๆ วันหนึ่งคุณพาทีมชนะ แฟน ๆ และเหล่าบอร์ดบริหารก็ร่วมยินดี และสนับสนุนต่อ แต่เมื่อวันไหนคุณแพ้ เรื่องราวมันจะเปลี่ยนไปอีกแบบ
ในขณะที่ปัจจุบัน เรากำลังอยู่ในโลกโซเชียล ทำให้นอกจากที่ผู้จัดการทีมจะกดดันที่สโมสรและหน้างานแล้ว พวกเขายังต้องเจอแรงกดดันจากโซเชียลมีเดียเพิ่มเข้าไปอีก
"สำหรับผม ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การบริหารจัดการทีมฟุตบอลกลายเป็นหนึ่งในงานที่ยากที่สุดในโลก" จิลแบร์โต ซิลวา กล่าว
"แรงกดดันที่ผู้จัดการทีมต้องเผชิญในแต่ละเกมนั้นมหาศาล พวกเขาถูกตัดสินโดยผลการแข่งขันอยู่ตลอดเวลา บางครั้งมันก็ไม่ยุติธรรม เพราะถ้าคุณประเมินใครสักคนจากผลลัพธ์เพียงอย่างเดียว"
"คุณก็จะลืมไปว่าพวกเขาเก่งกาจแค่ไหน พวกเขาทำงานหนักแค่ไหนในแต่ละวัน และทุ่มเทความพยายามแค่ไหนเพื่อไปให้ถึงจุดนั้น"