การย้ายจาก นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด มาอยู่กับ ลิเวอร์พูล ของ อเล็กซานเดอร์ อิซัค ทำให้พวกเขาขึ้นแท่นเป็นเต็งแชมป์ของฤดูกาลนี้แบบปฏิเสธไม่ได้ เนื่องจากผลงานของ อิซัค ที่ฝากเอาไว้เมื่อปีที่ผ่าน
ซึ่งเรื่องแบบนี้เคยเกิดมาแล้วในปี 1946 เมื่อ อัลเบิร์ต สตับบินส์ ย้ายจาก สาลิกาดง มาอยู่กับ หงส์แดง ก่อนยิงกระจายพาทีมเป็นแชมป์ในรอบ 24 ปี จนได้รับเกียรติเป็นนักฟุตบอลเพียงคนเดียวที่ขึ้นปกอัลบั้ม The Beatles
เรื่องราวของ อัลเบิร์ต สตับบินส์ เป็นเช่นไร? ติดตามได้ที่นี่
ยอดกองหน้ายุคสงครามโลก
อัลเบิร์ต สตับบินส์ เกิดที่ วอลเซนด์ ริมแม่น้ำไทน์ ในปี 1919 โดยเขาเริ่มต้นใช้ชีวิตที่สหรัฐอเมริกาในนิวยอร์กและดีทรอยต์ ก่อนจะกลับมาอังกฤษเมื่ออายุ 12 ปี ซึ่งถึงแม้เขาจะเคยเป็นเด็กเยาวชนของ ซันเดอร์แลนด์ มาก่อน แต่ สตับบินส์ เป็นแฟนพันธ์แท้ของ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ก่อนจะได้สานฝัน ย้ายมาร่วมทีมสาลิกาดงในปี 1937
แต่ด้วยช่วงเวลาดังกล่าวนั้นคาบเกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้ สตับบินส์ มีสถิติทำประตูให้ นิวคาสเซิล อย่างเป็นทางการเพียง 6 ประตู จากการลงสนาม 30 นัดเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ช่วงที่ฟุตบอลอังกฤษพักการแข่งขันเนื่องจากภาวะสงครามระหว่างปี 1939–1945 ก็ยังมีการแข่งขันแบบกระชับมิตรอยู่บ้าง ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าว สตับบินส์ กระหน่ำไป 231 ประตู จากการลงเล่นเพียง 188 นัด และเป็นแฮตทริกถึง 29 ครั้ง
แม้จะไม่ใช่การแข่งขันอย่างเป็นทางการ แต่ผลงานของกองหน้าผู้มีสมญานามว่า “The Smiling Assassin” นั้นปฏิเสธไม่ได้ว่าน่าทึ่งมาก ๆ โดย เซอร์ บ็อบบี้ ร็อบสัน เคยนิยามการเล่นของ สตับบินส์ ไว้ในหนังสือ My Kind of Toon ว่า “อัลเบิร์ต สตับบินส์ คือ อลัน เชียเรอร์ แห่งยุคสมัยของเขา”

เลือก ลิเวอร์พูล เพราะ “โยนหัวก้อย”
เมื่อผ่านพ้นสภาพวะสงครามในปี 1946 ฟุตบอลอังกฤษก็เตรียมกลับมาทำการแข่งขันอีกครั้งพร้อมความสนใจของประชาชนภายหลังความสูญเสีย และด้วยผลงานดังกล่าวของ สตับบินส์ ทำให้มีถึง 18 สโมสร ที่ต้องการคว้าตัวเขาไปกระทุ้งตาข่ายให้ แต่จนแล้วจนรอดก็เหลือผู้เข้าชิงเพียง 2 สโมสรเท่านั้น นั่นก็คือ ลิเวอร์พูล และ เอฟเวอร์ตัน 2 ยอดทีมแห่งลุ่มแม่น้ำเมอร์ซีย์ไซด์
โดยทั้งสองต่างก็ต้องการเป็นแชมป์ลีกอังกฤษอีกครั้ง เอฟเวอร์ตัน เป็นแชมป์ฤดูกาลสุดท้ายก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 ในปี 1939 ส่วน ลิเวอร์พูล ก็ห่างหายจากแชมป์ลีกมานานเกิน 20 ปี หลังคว้าแชมป์ครั้งล่าสุดในปี 1923
ในช่วงเวลานั้น นิวคาสเซิล ที่อยู่ในดิวิชั่น 2 ตั้งค่าตัว สตับบินส์ ไว้ที่ 13,000 ปอนด์ ซึ่งทั้ง ลิเวอร์พูล และ เอฟเวอร์ตัน ก็ยินยอมจ่ายในราคานี้ ดังนั้นเหลือเพียงขั้นตอนเดียวนั่นก็คือการเจรจากับนักเตะโดยตรง
With legends like Billy Liddell, Bob Paisley & Albert Stubbins in the side, Liverpool FC clinched their 5th League title #OnThisDay in 1947. #LFC #YNWA #Champions 🏆 pic.twitter.com/thqG59PfjQ
— "YNWA" The Story of Liverpool FC (@LFCHistoryShow) June 14, 2024
เมื่อ สตับบินส์ มาถึงโต๊ะเจรจาเขาก็ได้พบกับตัวแทนของทั้งสองสโมสร จากนั้นผู้อำนวยการของ นิวคาสเซิล อย่าง สแตน ซีมัวร์ ก็ถามเจ้าตัวว่าอยากคุยกับทีมไหนก่อน ซึ่ง สตับบินส์ ที่ตัดสินใจไม่ถูกได้ตอบไปว่า “ผมขอโยนเหรียญละกัน ถ้าออกหัวก็ ลิเวอร์พูล ถ้าออกก้อยก็ เอฟเวอร์ตัน”
ปรากฎว่าการเสี่ยงทายครั้งนั้นเหรียญออกหัว ซึ่งหมายความว่า ลิเวอร์พูล ได้สิทธิ์เจรจาก่อน และหลังจากได้ฟังแผนการของ บิล แม็คคอนเนล ประธานสโมสร และผู้จัดการทีม จอร์จ เคย์ สตับบินส์ ก็ตัดสินใจเลือกหงส์แดงทันที โดยไม่มีการเจรจากับ เอฟเวอร์ตัน แต่อย่างใด
“สุดท้ายผมไม่เคยได้คุยกับ เอฟเวอร์ตัน เลย เพราะผมประทับใจข้อเสนอของ ลิเวอร์พูล มาก” สตับบินส์ เล่าให้ฟังภายหลัง
ยิงพา ลิเวอร์พูล เป็นแชมป์ และขึ้นปก The Beatles
48 ชั่วโมงหลังการย้ายทีมเสร็จสิ้น สตับบินส์ ก็ประเดิมสนามให้กับ ลิเวอร์พูล ทันที ก่อนเปิดตัวได้อย่างสวยสดงดงามด้วยการทำประตูในนาที 82 ช่วยทีมบุกชนะ โบลตัน วันเดอเรอร์ส 3-1
หลังจากนั้น สตับบินส์ ก็ยิงเพิ่มอีก 23 ประตู ในฤดูกาล 1946-47 และเป็นส่วนสำคัญพา ลิเวอร์พูล ยุติการรอคอยแชมป์ลีกนาน 24 ปี คว้าแชมป์ในฤดูกาลดังกล่าวได้สำเร็จ ด้วยการเบียดชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด และ วูล์ฟแฮมป์ตัน เพียงคะแนนเดียวเท่านั้น
แม้ฤดูกาลถัดมา ลิเวอร์พูล จะฟอร์มตกลงไปอย่างน่าใจหาย หลังร่วงไปจบอันดับ 11 ของตาราง แต่ผลงานของ สตับบินส์ ยังคงเส้นคงวาเหมือนเดิม ซัดไป 24 ประตูเท่ากับฤดูกาลก่อนหน้า
Albert Stubbins was born #OnThisDay 104 years ago. Liverpool signed him from Newcastle in 1946 and here is that famous diving header in the snow. With Albert Stubbins goals, The Reds were on their way to another League title in 1947. #YNWA #LFC https://t.co/NP9HSwTgwX
— "YNWA" The Story of Liverpool FC (@LFCHistoryShow) July 13, 2023
แต่ในเวลาต่อมา สตับบินส์ ก็มีปัญหาเกี่ยวกับสัญญารวมถึงอาการบาดเจ็บด้วย ทำให้ในปี 1953 สตับบินส์ บนวัย 34 ปี ตัดสินใจลา ลิเวอร์พูล หลังร่วมหัวจมท้ายกับทีมนาน 6 ฤดูกาล สิริยิง 75 ประตู จาก 159 นัด ก่อนย้ายไปอยู่กับ แอชชิงตัน สโมสรนอกลีกด้วยค่าตัวเพียง 3,000 ปอนด์ และแขวนสตั๊ดในปีถัดมา
หลังจากเลิกเล่นไปนานหลายปี ในปี 1967 ชื่อของ อัลเบิร์ต สตับบินส์ ก็กลับมาอยู่บนหน้าสื่ออีกครั้ง เมื่อ The Beatles วงดนตรีระดับตำนานได้นำภาพเขาของมาปรากฎบนปกอัลบั้ม Sgt. Pepper's Lonely Hearts Club Band ร่วมกับบุคคลมีชื่อเสียงอีก 70 คน ซึ่งถือเป็นนักฟุตบอลคนแรกและคนเดียวที่ได้ขึ้นปกอัลบั้มของขณะสี่เต่าทอง
Former Newcastle United striker, Albert Stubbins, nicknamed ‘The Smiling Assassin’ is the only footballer to appear on the cover of Sgt. Pepper's Lonely Hearts Club Band. He joined Liverpool in 1946 for £13,000. pic.twitter.com/xfcsHvQNRo
— FrankLeeBrian (@FrankLeeBrian) March 15, 2025
สุดท้ายแล้วในเดือนธันวาคมปี 2002 ก่อนวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่เพียง 4 วัน อัลเบิร์ต สตับบินส์ จากไปอย่างสงบบนวัย 83 ปี เหลือเพียงตำนานที่ถูกเล่าขานมาถึงปัจจุบัน