เสียงนกหวีดสุดท้ายที่สนาม City Ground ดังขึ้น พร้อมกับการันตีการกลับสู่เวทียุโรปของ เชลซี อย่างเป็นทางการในฤดูกาลหน้า — แต่สิ่งที่น่าสนใจกว่านั้นคือการที่พวกเขาจะได้เข้าไปอยู่ใน "Pot 1" หรือโถที่ 1 ของการแข่งขัน ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ปี 2024/25
แม้จะจบอันดับ 4 ในพรีเมียร์ลีก แต่พวกเขากลับได้รับการจัดอันดับให้อยู่สูงกว่า อาร์เซน่อล ที่ผลงานในลีกเหนือกว่าหลายฤดูกาล นี่คืออีกหนึ่งเรื่องที่บอกเราว่า “ฟุตบอลยุโรป” มีความซับซ้อนมากกว่าแค่เรื่องอันดับตาราง
จุดเปลี่ยน: จากการเปลี่ยนกุนซือถึง 4 ครั้ง สู่การคัมแบ็ค UCL
นับตั้งแต่ ท็อดด์ โบห์ลี่ และกลุ่มทุนใหม่เข้ามาเทคโอเวอร์ เชลซี ในปี 2022 สโมสรจากลอนดอนตะวันตกต้องผ่านกระบวนการสร้างใหม่แบบเจ็บปวด พวกเขาเปลี่ยนกุนซือถึง 4 คน ตั้งแต่ โธมัส ทูเคิล, แกรม พอตเตอร์, แฟรงค์ แลมพาร์ด จนถึง เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ที่พาทีมได้แค่กลางตาราง
แต่แล้วการมาของ เอ็นโซ่ มาเรสก้า ก็เหมือนกับจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญที่เติมเต็มแนวทางที่สโมสรต้องการ และแม้ชัยชนะนัดสุดท้ายจะมาจากลูกยิงง่าย ๆ ของ ลีวาย โคลวิลล์ แต่มันก็พอแล้วที่จะพาเชลซีคืนสู่ทัวร์นาเมนต์ระดับสูงสุดของยุโรป
UEFA Coefficients คือคำตอบ
หลายคนอาจสงสัยว่า ทำไมเชลซีที่ไม่ได้เล่นในแชมเปียนส์ลีกเลยนับตั้งแต่ปี 2023 ถึงได้ไปอยู่โถ 1 ของรายการปีนี้?
คำตอบอยู่ที่ "UEFA Club Coefficients" หรือ คะแนนสะสมของสโมสรในการแข่งขันยุโรป ซึ่งยูฟ่าจะใช้ข้อมูลในช่วง 5 ฤดูกาลหลังสุด มาคิดคะแนน โดยพิจารณาจากผลงานในถ้วยยุโรปทั้งสามรายการ — UCL, UEL และ UECL
วิธีคิดคะแนน
ชนะ: 2 คะแนน
เสมอ: 1 คะแนน
เข้ารอบในแต่ละรอบลึก ๆ จะได้ คะแนนพิเศษเพิ่มเติม
UCL: บวก 1.5 คะแนนต่อรอบ
UEL: บวก 1 คะแนน
UECL: บวก 0.5 คะแนน
ดังนั้นแม้เชลซีจะไม่ได้ไปเล่นยุโรปในบางปี แต่ในช่วง 5 ฤดูกาลหลัง พวกเขายังมี แชมป์ UCL ปี 2021 อยู่ในมือ ซึ่งส่งผลให้พวกเขามีคะแนนสะสมถึง 107 คะแนน — อยู่ใน อันดับ 7 ของยุโรป
ในขณะที่ อาร์เซน่อล ซึ่งกลับมาเล่น UCL อย่างต่อเนื่องเพียงไม่กี่ปี มีคะแนนแค่ 98 คะแนน อยู่ในอันดับที่ 12 เท่านั้น
สรุปอันดับค่าสัมประสิทธิ์ UEFA ฤดูกาล 2024/25
เรอัล มาดริด
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
บาเยิร์น มิวนิก
ลิเวอร์พูล
ปารีส แซงต์-แชร์กแมง
อินเตอร์ มิลาน
เชลซี
โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์
โรมา (ไม่ได้ไป UCL)
บาร์เซโลนา
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
อาร์เซน่อล
การจัดโถแชมเปียนส์ลีก 2024/25
ในฤดูกาลหน้า UCL จะเปลี่ยนรูปแบบใหม่เป็นลีกเดียว 36 ทีม และมีการจัดทีมเป็น 4 โถ โถละ 9 ทีม โดยทีมจากอันดับค่าสัมประสิทธิ์จะถูกกระจายลงแต่ละโถ
แม้เชลซีจะไม่ได้ไป UCL มาหลายปี แต่คะแนนสะสมของพวกเขาก็ยังดีพอให้พวกเขาเข้าไปอยู่ โถที่ 1 ร่วมกับทีมใหญ่อย่าง มาดริด, ซิตี้, บาเยิร์น ฯลฯ
ขณะที่ อาร์เซน่อล จะนำทัพใน โถที่ 2 เคียงข้างกับทีมแกร่งอย่าง ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น, แอตเลติโก มาดริด และ ยูเวนตุส
ทำไมอังกฤษถึงได้ 6 ทีม?
ปีนี้ทีมจากพรีเมียร์ลีกจะมีถึง 6 สโมสร ที่ได้สิทธิ์ไป UCL นั่นคือ
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
ลิเวอร์พูล
อาร์เซน่อล
เชลซี
นิวคาสเซิล
ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ (แชมป์ยูโรปาลีก)
เหตุผลคือรูปแบบใหม่ของ UCL ที่เพิ่มโควตาพิเศษให้กับลีกที่มีผลงานโดยรวมดีที่สุดในถ้วยยุโรป — ซึ่งพรีเมียร์ลีกได้อันดับ 1
บทสรุป: ฟอร์มดีวันนี้ ยังไม่พอสำหรับเวทียุโรป
บทเรียนจากกรณีนี้ชัดเจน: ความสม่ำเสมอในฟุตบอลยุโรป คือสิ่งที่ยูฟ่าให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก หากทีมใดไม่ทำผลงานในเวทียุโรปได้ดีอย่างต่อเนื่อง ก็จะถูกลดความสำคัญลงเรื่อย ๆ ไม่ว่าฟอร์มในลีกจะดีแค่ไหน
และนั่นคือเหตุผลที่ทำให้ “เชลซี” ได้เปรียบ “อาร์เซน่อล” บนเวทียุโรป แม้พวกเขาจะล้มลุกคลุกคลานอยู่ตลอดในลีกก็ตาม
บทความที่เกี่ยวข้อง