กติกา คือสิ่งที่สร้างขึ้นมาเพื่อให้การแข่งขันเป็นไปตามมาตรฐาน แต่ก็มีบางคนที่พยายามหาวิธีที่ไม่ถูกต้อง หรือการโกง เพื่อให้ตัวเองได้เปรียบหรือชนะการแข่งขัน
เช่นกันสำหรับฟุตบอล ที่ในอดีตมีการกระทำเช่นนี้หลายครั้ง แต่คงไม่มีครั้งไหนที่จะอื้อฉาวไปกว่าการที่ฟุตซอลทีมชาติอิหร่าน ถูกกล่าวหาว่าส่งผู้ชายเล่นในรายการผู้หญิง
พวกเขาทำขนาดนั้นเลยหรือ? ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร? ติดตามไปพร้อมกัน
ทีมหญิงในร่างชาย
แม้ว่าอิหร่าน จะเป็นหนึ่งในเจ้าลูกหนังของฟุตบอลเอเชีย ด้วยตำแหน่งแชมป์เอเชียนคัพ 3 สมัย เหรียญทองเอเชียนเกมส์ 4 ครั้ง แต่นั่นก็เป็นแค่เรื่องของฟุตบอลชายเท่านั้น
เพราะด้วยระบอบการปกครองแบบรัฐศาสนา ที่ทำให้ผู้หญิงถูกจำกัดสิทธิเสรีภาพ และอยู่ภายใต้การควบคุมของผู้ชาย ทำให้ทีมฟุตบอลหญิงของอิหร่าน แทบจะไม่มีผลงานเป็นชิ้นเป็นอันในเวทีโลก
ทว่าในปี 2015 ทีมฟุตซอลหญิงอิหร่าน ก็สร้างความสั่นสะเทือนไปทั้งทวีป หลังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม จนก้าวไปคว้าแชมป์ฟุตบอลหญิงเอเชียได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
แถมในนัดชิงฯ พวกเธอยังเซอร์ไพรส์ด้วยการเอาชนะญี่ปุ่น ที่ไม่ยังไม่แพ้ใคร และยิงไปถึง 22 ประตู ตลอดทั้งทัวร์นาเมนต์ ด้วยสกอร์ 1-0 คว้าแชมป์เมเจอร์แรกได้สำเร็จ
อย่างไรก็ดี ภายใต้ความสำเร็จเหล่านั้น กลับมีความคลางแคลงใจจากหลายฝ่าย ว่าทำไม อิหร่าน ที่ดูจะไม่ได้มีพัฒนาการที่เด่นชัด จึงก้าวกระโดดขึ้นมาครองแชมป์ระดับทวีปได้
แถมนักเตะหลายคน ยังมีรูปร่างและหน้าตาคล้ายกับผู้ชายที่ถูกอำพรางด้วยฮิญาบที่คลุมหัว จนเกิดข่าวลือว่า อิหร่าน ส่งผู้ชายมาลงแข่งในรายการผู้หญิง
Throwback to when FIFA caught four men playing for the Iran women's national team. 🇮🇷
— PurelyFootball ℗ (@PurelyFootball) October 13, 2025
Just look at number 10. 😂 pic.twitter.com/hAonPyLjII
มันยิ่งทำให้หลายฝ่ายเริ่มสงสัยมากขึ้นไปอีก เมื่อ Daily Telegraph สื่อชื่อดังของอังกฤษ อ้างคำสัมภาษณ์ของวงในอย่าง มอจตาบี ชาริฟี เจ้าหน้าที่ผู้ใกล้ชิดกับลีกอิหร่าน ที่ระบุว่า มีนักเตะชายที่ไม่ได้แปลงเพศ ลงเล่นในรายการของผู้หญิง
“(นักฟุตบอล 8 คน) ที่เคยเล่นให้กับฟุตบอลหญิงทีมชาติอิหร่าน ยังไม่ได้แปลงเพศโดยสมบูรณ์” ชาริฟีกล่าวกับ Al Arabiya
รายงานยังกล่าวเพิ่มเติมว่า อิหร่านได้มีการสั่งให้ตรวจเพศกับนักเตะทีมชาติที่เป็นผู้หญิงทั้งหมด และผู้เล่นหญิงในลีกชั้นนำ แต่ไม่ได้เปิดเผยชื่อผู้เล่นที่ต้องสงสัยว่าเป็นผู้ชาย
อันที่จริงทีมชาติหญิงอิหร่าน ก็เคยถูกร้องเรียนให้ตรวจสอบเพศมาก่อนหน้านี้ เนื่องจากพวกเธอสวมฮิญาบ รวมถึงเสื้อและกางเกงขายาวลงเล่น จนบางครั้งแยกไม่ออกว่าผู้หญิงหรือผู้ชาย
ตัวอย่างเช่นในปี 2010 ที่มีข้อสงสัยต่อผู้รักษาประตูทีมชาติคนหนึ่งที่ดูแข็งแรงกว่าผู้หญิง หรือในปี 2014 ก็มีการพบผู้ชาย 4 คนที่ยังไม่ได้แปลงเพศ หรือมีความเบี่ยงเบน แฝงตัวเข้ามาเล่นในทีมหญิง จากการสุ่มตรวจของทางการ
สำหรับ อิหร่าน แม้ว่าการแปลงเพศเป็นเรื่องถูกกฎหมาย แต่ก็มีขั้นตอนที่เข้มงวด เช่น ต้องได้รับวินิจฉัยจากแพทย์ว่ามีภาวะไม่ชอบเพศ (Gender Dysphoria) และเข้ารับการผ่าตัด รวมถึงรับฮอร์โมน ซึ่งอาจจะกินเวลาถึง 2 ปี
นอกจากนี้ เมื่อแปลงเพศแล้ว พวกเขา (หรือพวกเธอ) จะถูกนับว่าเป็นเพศชายหรือเพศหญิง และไม่มีเพศที่ 3 ดังนั้นการนำผู้ชายมาลงเล่นในรายการของผู้หญิงจึงเป็นสิ่งที่ผิด แม้กระทั่งในประเทศอิหร่านเอง
แน่นอนว่า เมื่อข่าวแพร่สะพัดออกไป ทีมฟุตซอลหญิงอิหร่าน ก็ถูกโจมตีจากนานาชาติ หนึ่งในนั้นคือการเปรียบเทียบเหตุการณ์ที่ทีมบาสเก็ตบอลสเปน ส่งผู้เล่นร่างกายปกติลงแข่งในพาราลิมปิก 2000 จนคว้าเหรียญทอง (ก่อนถูกริบเหรียญในเวลาต่อมา)
มันร้อนจนทำให้ ฟีฟ่า ต้องเข้ามาจัดการ
ทำจริงหรือแค่กล่าวหา?
หนึ่งสัปดาห์ หลังจากทีมฟุตซอลหญิงอิหร่าน ถูกข้อกล่าวหาว่าเล่นนอกกติกา สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือฟีฟ่า ก็เข้ามาตรวจสอบเรื่องนี้ ก่อนจะออกมาแถลงว่าไม่มีมูลความจริง
“ไม่มีเรื่องอะไรที่ต้องกังวลเกี่ยวกับทีมฟุตซอลและทีมฟุตบอลหญิง ไม่มีผลทางวิทยาศาสตร์พิสูจน์คำกล่าวอ้างนี้” ดร.ซอห์เระห์ ฮาราเทียน เจ้าหน้าที่ของฟีฟ่าที่ได้รับการแต่งตั้งให้ทำหน้าที่ในอิหร่านกล่าวกับ Shargh Daily
นอจากนี้ จากกฎที่ระบุว่าผู้เล่นที่เข้าร่วมการแข่งขันในระดับนานาชาติ จะต้องได้รับการยืนยันเพศจากทีมแพทย์ของฟีฟ่า จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่ อิหร่าน จะรอดพ้นสายตาเจ้าหน้าที่ไปได้
“จะมีเฉพาะผู้เล่นซึ่งผ่านการตรวจสอบยืนยันแล้วเท่านั้น ที่สามารถลงเล่นในเกมระดับเอเชียหรือระดับโลกได้ และหากมีสื่อรายใดถามทางฟีฟ่า พวกเขาก็จะตอบในลักษณะนี้เช่นกัน” ฮาราเทียน อธิบาย

ฮาราเทียน ยืนยันว่านี่ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะก่อนหน้านี้ ทีมหญิงของอิหร่าน ก็เคยถูกสงสัยว่าเป็นผู้ชาย แต่สุดท้ายก็เป็นผลที่เกิดขึ้นจากโรคประจำตัว
“ในอดีตผู้เล่นทีมฟุตบอลหญิงของเราจำนวนหนึ่งถูกกล่าวหาว่าเป็นไบเซ็กชวล หรือมีสองเพศในคนเดียวกัน” หัวหน้าศูนย์ประเมินและฟื้นฟูทางการแพทย์กล่าว
“เมื่อฟีฟ่าเข้าใจว่าปัญหานี้มาจากโรคโดยกำเนิด ข้อกล่าวหาของเธอก็ถูกตีตกไป และยินยอมให้พวกเธอลงเล่นได้”
สิ่งนี้ยังตรงกับที่สื่อของอิหร่านรายงานว่า ผู้เล่นในทีมชาติอิหร่านหลายคน มีพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศ และทำให้พวกเธอดูคล้ายกับผู้ชาย มากกว่าผู้หญิง
สุดท้าย เมื่อไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ข้อกล่าวหานี้จึงตกไป และทำให้พวกเธอยังคงได้รับสถานะแชมป์เอเชียเหมือนเดิม

แถมหลังจากนั้น ทีมฟุตซอลหญิงอิหร่าน ยังโชว์ฟอร์มโหด ป้องกันแชมป์ได้ในปี 2018 และเพิ่งจะก้าวไปคว้าอันดับ 3 ในศึกชิงแชมป์เอเชีย 2025 ที่จีน เมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา
ราวกับแสดงให้เห็นว่า พวกเธอคือของจริงโดยไม่ต้องใช้แสตนด์
บทความที่เกี่ยวข้อง
อันซี ฟลิค ถึงกับยิ้มไม่หุบ เจอ ยามาล เปิดโหมดเรียบร้อยเอา เสื้อใส่ในกางเกงตอนซ้อม
ตื่นเต้นทุกเกม! อโมริมเชื่อแฟนชอบดูแมนยูซีซั่นนี้เพราะเล่นสนุกเหลือแค่ผลการแข่งขันที่ต้องปรับ
ไขข้อสงสัย: ทำไม เรโอะ ฮาตาเตะ แข้งญี่ปุ่นของเซลติกถึงต้องชูนิ้วกลอกตาไปมาก่อนลงสนาม?