นี่คือเหตุการณ์ที่สะเทือนหน้าประวัติศาสตร์ฟุตบอล เมื่อผู้เล่นคนหนึ่งถึงขั้นสังเวยตัวเอง เพียงเพราะอยากไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย
ติดตามเรื่องราวไปพร้อมกัน
ศึกชิงตั๋วฟุตบอลโลก
ฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย เป็นเป้าหมายที่นักฟุตบอลล้วนใฝ่ฝัน เช่นกันกับ โรแบร์โต โรฮาส ยอดผู้รักษาประตูทีมชาติชิลี ในยุค 1980s
เขาติดทีมชาติมาตั้งแต่ปี 1983 ด้วยสไตล์การเล่นที่น่าทึ่งโดยเฉพาะการพุ่งทะยานไปปัดบอล จนได้รับฉายาว่า “อีแร้ง” อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในทีมชาติชิลี ชุดรองแชมป์ โคปา อเมริกา 1987
อย่างไรก็ดี ฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย เป็นสิ่งที่ โรฮาส ไม่เคยไปถึง แม้ว่าบ้านเกิดของเขาจะเกือบทำได้ในปี 1986 หลังมีแต้มน้อยกว่า อุรุกวัย ที่ได้ไปเวิลด์คัพ แค่เพียงแค่คะแนนเดียว
เวลาข้ามผ่านมามาจนถึงปี 1989 ชิลี ก็ได้ลงสู้ในฟุตบอลโลก รอบคัดเลือกอีกครั้ง ทว่าครั้งนี้พวกเขาต้องเจองานหนัก เมื่อถูกจับมาอยู่ในกลุ่มเดียวกับ บราซิล และ เวเนซุเอลา ที่มีแค่แชมป์กลุ่มเท่านั้น ที่จะลุ้นไปเล่นในรอบสุดท้าย
แต่ ชิลี ก็ทำได้ดีเกินคาด พวกเขาประเดิมสนามด้วยการบุกไปชนะ เวเนซุเอลา 1-3 ก่อนจะเปิดบ้านเสมอกับ บราซิล 1-1 จากนั้น ก็มาถล่ม เวเนซุเอลา ในบ้าน 5-0
แต่ถึงอย่างนั้น บราซิล คู่แข่งของพวกเขา ก็ไม่พลาดเช่นกัน ที่ทำให้ก่อนลงเตะนัดสุดท้าย ทั้งคู่มีคะแนนเท่ากัน แต่บราซิล มีประตูได้เสียที่ดีกว่า
ทำให้เกมที่ ชิลี ต้องบุกไปเยือน มาราคานา พวกเขาต้องเอาชนะสถานเดียว เพื่อโอกาสไปเล่นฟุตบอลโลก 1990 ที่อิตาลี ความตึงเครียด และความกดดันเหล่านี้ เหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น
ในนาทีที่ 67 ขณะที่ บราซิล นำอยู่ 1-0 พลุก็ถูกขว้างมายังที่ โรฮาส ยืนอยู่ ไม่นานหลังจากนั้นเขาก็ล้มลงและกุมไปที่ใบหน้า ก่อนที่ทีมแพทย์จะพบว่าหน้าของนายด่านทีมชาติชิลีเต็มไปด้วยเลือด
หลังจากนั้นก็กลายเป็นจราจลขนาดย่อม เพราะ โรฮาส บอกว่าบาดแผลที่บนใบหน้ามาจากพลุที่แฟนบอลบราซิลขว้างลงมา และทำให้ ชิลี ทั้งทีมตัดสินใจวอล์คเอาท์ออกจากสนาม โดยให้เหตุผลเรื่องความปลอดภัย และเตรียมร้องเรียนไปยังฟีฟ่า และสมาพันธ์ฟุตบอลอเมริกาใต้
ในตอนนั้น หากแฟนบอลบราซิลทำผิดจริง อาจจะทำให้ขุนพลแซมบ้าโดนปรับแพ้ และจะส่งผลให้ ชิลี เข้าใกล้การไปเล่นในฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย หลังขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงของกลุ่ม
แต่ความหวังของชิลี ก็อยู่กับพวกเขาได้ไม่นาน
สังเวยตัวเอง
แม้ว่าจังหวะที่ โรฮาส ล้มลง จะไม่มีกล้องถ่ายทอดสดตัวใดจับไว้ได้ เนื่องจากเป็นตอนที่บราซิล กำลังเล่นลูกตั้งเตะ แต่มันก็ไม่สามารถรอดเงื้อมมือของ ริคาร์โด อัลฟิเอเร ช่างภาพชาวอาร์เจนตินาไปได้
มันเป็นตอนที่เขากำลังรัวชัตเตอร์อยู่พอดี และทำให้เขาเห็นว่าพลุที่ขว้างลงมาไม่ได้โดนตัว โรฮาส แม้แต่นิดเดียว จึงเป็นไปไม่ได้ที่นายด่านชิลี จะได้รับบาดเจ็บจากจังหวะนี้ แล้วถ้าอย่างนั้น เลือดบนใบหน้าของเขามาจากไหน?
“ผมถ่ายภาพตอนที่พลุตกลงมา และส่วนอื่นๆอีกประมาณ 14-15 ภาพ เพราะพลุที่ตกลงมากำลังปล่อยควันขึ้นสู่ท้องฟ้า” อัลฟิเอรี กล่าวกับ Goal
“โรฮาส ล้มลงท่ามกลางควัน และภาพต่อมาที่ผมมีคือ โรฮาส ที่เต็มไปด้วยเลือด ผมเห็นว่ามันไม่ได้โดนตัวเขา แต่มันมีความขัดแย้งบางอย่าง มันไม่ได้โดนเขา แต่ชายคนนี้กำลังเลือดออก มันไม่เมคเซนส์เลย”
ก่อนที่ทุกอย่างจะมาเฉลย เมื่อเอาฟิล์มของ อัลฟิเอรี ไปล้าง และพบว่าบาดแผลที่เกิดขึ้น มีต้นตอมาจากมีดโกน ที่ถูกซ่อนไว้ในถุงมือของ โรฮาส ที่เขาเอามากรีดหน้าตัวเองตอนจังหวะที่ล้มลงอย่างตั้งใจ
“ผมกรีดตัวเองด้วยใบมีดโกน และการแสดงเหล่านี้ถูกเปิดเผย” โรฮาส ยอมรับภายหลังกับ La Tercera
จากผลดังกล่าวทำให้ ชิลี ถูกปรับแพ้ไปด้วยสกอร์ 2-0 และทำให้ บราซิล กลายเป็นทีมที่ผ่านเข้าไปเล่นในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายในปี 1990 นอกจากนี้ ชิลี ยังถูกห้ามเข้าร่วมในฟุตบอลโลก 1994 อีกด้วย
นอกจากนี้ จากการสอบสวนยังพบว่า ออร์ลันโด อลาเวนา กุนซือของทีม และ ดาเนียล โรดริเกวซ ทีมแพทย์ของชิลี เป็นผู้สมรู้ร่วมคิดในขบวนการนี้ และทำให้พวกเขาทั้งคู่ถูกแบนตลอดชีวิต เหมือนกับ โรฮาส คนต้นเรื่อง
“(ผมทำมัน) เพราะแพชชั่น เพื่อให้ ชีลี มีโอกาส เพราะ ชิลี กำลังเสี่ยงตกรอบในตอนนั้น เรามีปัญหากับรอบคัดเลือกครั้งก่อน แต่เมื่อมีใครก่อความผิดพลาด เขาก็อยากได้โอกาสเพื่อแก้ตัว แต่ผมไม่มีโอกาสนั้น” โรฮาส กล่าวกับ Mas Vale Tarde
อย่างไรก็ดี แม้จะก่อเรื่องงามหน้า แต่ระหว่างที่ชดใช้โทษแบน เขาก็ยังได้รับโอกาสจากทีมในลีกบราซิลอย่าง เซา เปาโล ที่เสนอตำแหน่งโค้ชผู้รักษาประตู ก่อนที่เขาจะเป็นผู้ปลุกปั้น โรเจริโอ เซนี ขึ้นมา
จากนั้นในปี 2000 โทษแบนตลอดชีวิตของ โรฮาส ก็ถูกยกเลิกจากโครงการนิรโทษกรรมของฟีฟ่า ที่ทำให้เขาเหมือนได้ปลดล็อคความผิดพลาดในอดีต ละเริ่มรับงานคุมทีมตั้งแต่ปี 2003 ก่อนจะย้ายตัวเองไปอยู่บนหน้าจอโทรทัศน์ในฐานะนักวิเคราะห์
มันแสดงให้เห็นว่า แม้ว่าเขาจะทำในสิ่งที่เลวร้าย แต่เมื่อเขายอมรับผิด ทุกคนก็ให้อภัย และพร้อมที่จะให้โอกาส ไม่เว้นแม้แต่ผู้ถูกกระทำอย่างบราซิล
“ผมเจอ โรฮาส ในอีกหลายปีให้หลัง และเขาก็ยอมรับความผิดพลาด เขาไม่ได้เป็นคนเลว แต่วันนั้นเขาพลั้งพลาดไป มันเป็นการตัดสินใจที่แย่จริงๆ” โกเมส กัปตันทีมชาติบราซิล ในเกมวันนั้นกล่าว
บทความที่เกี่ยวข้อง
ยังไม่ใช่ คุนญา-เอ็มเบวโม! บรูโน เลือกกองหน้าที่เหมาะเล่นให้แมนยูตอนนี้
ไร้ความหมาย! โคล พาลเมอร์ รับไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองคว้าแชมป์ UCL
คนนี้ใช่เลย! ฟอสเตอร์ เลือกผู้รักษาประตูที่แมนยูควรเซ็นมาเฝ้าเสาแทนโอนานา