หดหู่ สิ้นหวัง ทำหน้าราวกับโลกจะถล่มลงมาตรงหน้า อาจจะเป็นสิ่งที่เราพบเห็นได้บ้างในเช้าวันจันทร์จากเพื่อนร่วมงาน โดยเฉพาะเมื่อทีมรักของพวกเขาต้องพบกับความพ่ายแพ้เมื่อคืนที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดี นี่ไม่ใช่ปฏิกริยาที่เกินจริง หรือเพราะคนกลุ่มนี้อินเกินไป แต่จากงานวิจัยพบว่า ผลแพ้-ชนะ ของทีมที่เชียร์นั้นส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงาน และสุขภาพแบบมองข้ามไม่ได้
เพราะเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น? ติดตามไปพร้อมกัน
ฟ้าถล่ม แผ่นดินทลาย
“มีแพ้ก็ต้องมีชนะ” ล้วนเป็นสัจธรรมในทุกกีฬา รวมถึงฟุตบอล ทว่า หากว่าทีมที่คุณเชียร์อยู่ในฟอร์มแบบ “แพ้เป็นพระ แต่ชนะเป็นมั้ย” อาจจะส่งผลต่อชีวิตประจำวันของคุณแบบคาดไม่ถึง
จากงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยอริสโตเติลแห่งเทสซาโลนิกิ ประเทศกรีซระบุว่าความสำเร็จของทีมฟุตบอล มีผลต่อประสิทธิภาพในการทำงานวันต่อมา
งานวิจัยนี้ที่นำโดย พานาจิโอติส ยอเรซิส ได้สำรวจตัวอย่างจากนายทหารจำนวน 41 คน จากกองทัพบกของกรีซ เนื่องจากคนกลุ่มนี้มีถิ่นฐานจากทั่วประเทศ และมีทีมเชียร์ที่แตกต่างกัน
โดยทุกบ่ายวันจันทร์ ผู้เข้าร่วมวิจัย จะต้องให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลงานของทีมที่ตัวเองเชียร์ ที่ลงแข่งในวันก่อนหน้า ซึ่งส่วนมากจะเป็นวันอาทิตย์
พวกเขาจะต้องบอกความพึงพอใจในแง่ผลงานของทีม และความรู้สึกของตัวเองในวันนั้น รวมไปถึงอารมณ์ในแง่ลบ (ถ้ามี) ด้วยคำง่ายๆ ที่ใช้แบ่งระดับอย่าง หงุดหงิด, อารมณ์เสีย หรือ ว้าวุ่นใจ

และจากผลสำรวจก็พบว่า ผลงานของทีมในวันอาทิตย์ ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงานอย่างชัดเจน โดยเฉพาะเมื่อทีมรักมีผลงานที่ย่ำแย่หรือน่าผิดหวัง
พวกเขายอมรับว่ารู้สึกห่อเหี่ยว และประเมินตัวเองว่าจดจ่อ มุ่งมั่น และทุ่มเทกับงานน้อยลง และไม่เห็นด้วยกับคำกล่าวว่า “วันนี้เราทำงานได้ดี”
“เมื่อแฟนฟุตบอล ไม่พอใจกับผลงานของทีม พวกเขาจะเจอกับผลกระทบในเชิงลบ ที่ทำให้พวกเขามีส่วนร่วมกับงานของตัวเองน้อยลง ซึ่งส่งผลในประสิทธิภาพในการทำงานลดลง” ผู้วิจัยกล่าว
ทว่า เมื่อดูในแง่ผลกระทบเชิงบวกที่เกิดขึ้นจากฟอร์มของทีม อย่าง มีแรงบันดาลใจ, ตื่นตัว, หรือมีความตื่นเต้น กลับเห็นได้ไม่ชัดเท่าเชิงลบ ซึ่งคาดว่าเป็นเพราะความรู้สึกเชิงบวก ไม่ได้อยู่นานเท่ากับความรู้สึกเชิงลบ
นั่นทำให้สรุปได้ว่า แม้ว่าทีมที่เชียร์จะทำผลงานได้ดีแค่ไหน ก็อาจไม่ได้เป็นแรงเสริม เทียบเท่ากับอานุภาพในการลดขวัญกำลังใจของคนทำงาน ในระดับเดียวกับเมื่อทีมรักประสบความพ่ายแพ้
อย่างไรก็ดี มันไม่ใช่แค่เรื่องงานเท่านั้น
ทีมแพ้ทำให้อ้วน
แน่นอนว่าความพ่ายแพ้ของทีมที่เชียร์ ย่อมส่งผลต่อสภาพจิตใจ เพราะมันมาจากความรู้สึก แต่สำหรับชาวอเมริกัน มันกลับส่งผลต่อสุขภาพพวกเขา ที่ไม่ใช่แค่สุขภาพจิต แต่รวมไปถึงสุขภาพกาย
โดยจากการศึกษาของนักวิจัยจาก INSEAD สถาบันทางด้านธุรกิจและการจัดการ พบว่าความพ่ายแพ้ของทีมในอเมริกันฟุตบอล ทำให้แฟนมีอัตราการบริโภคไขมันและน้ำตาลมากขึ้น ต่างจากทีมที่ชนะที่มีแนวโน้มจะรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพเพิ่มขึ้น
“แม้ว่าการศึกษาก่อนหน้านี้ จะแสดงให้เห็นอิทธิพลของกีฬาที่มีต่อการขับรถโดยประมาท หัวใจวาย หรือความรุนแรงในครอบครัว แต่ยังไม่มีใครสำรวจว่ามันมีอิทธิพลต่อการกินอย่างไร” ยานน์ คอร์นิล ผู้นำการวิชัยเรื่องนี้อธิบาย
พวกเขาใช้วิธีเปรียบเทียบผลการแข่งขันใน NFL 2 ฤดูกาล กับการบริโภคของผู้คนในเมืองต่างๆ รวมกันกว่า 24 เมือง ในสหรัฐฯ จนสามารถระบุปริมาณและประเภทของอาหารที่ผู้คนรับประทาน หลังทีมแพ้และชนะได้
“จากข้อมูลทำให้เราได้เห็นชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนในเมืองที่ไม่มีทีมใน NFL หรือทีมที่ไม่ได้ลงเล่นในวันนั้น จนได้ตัวอย่างออกมา” คอร์นิล กล่าวต่อ

ทีมวิจัยพบว่าผู้คนที่อยู่ในเมืองที่ทีม NFL ประสบกับความพ่ายแพ้จะมีอัตราการบริโภคไขมันอิ่มตัวมากกว่าเดิมในวันจันทร์ที่ 16 เปอร์เซ็นต์ ในทางกลับกันผู้คนที่อยู่ในเมืองที่ทีม NFL ชนะ จะมีการกินไขมันอิ่มตัวที่น้อยลงกว่าเดิม 9 เปอร์เซ็นต์
“ผู้คนจะกินดีขึ้นเมื่อทีมอเมริกันฟุตบอลของพวกเขาชนะ และจะแย่ลงเมื่อทีมแพ้ โดยเฉพาะการแพ้แบบไม่คาดคิด แพ้แบบเฉียดฉิว หรือแพ้ให้กับทีมที่เก่งพอกัน” คอร์นิล และ ปิแอร์ แชนดอน จากทีมวิจัยกล่าว
นักวิจัยตั้งสมมิตฐานไว้ว่า เมื่อทีมรักแพ้ ผู้คนจะรู้สึกถึงภัยคุกคาม และใช้การกินเป็นกลไกในการรับมือ ในทางกลับกัน ชัยชนะดูเหมือนจะทำให้พวกเขามีสถิติ และคิดก่อนกินมากขึ้น
เพื่อยืนยันในเรื่องนี้ พวกเขายังได้ทดลองกับชาวฝรั่งเศส โดยให้เขียนเกี่ยวกับทีมที่เชียร์ว่าแพ้หรือชนะในเกมนัดที่ผ่านมา จากนั้นจึงปล่อยให้รับประทานอาหารตามอิสระ และพบว่าคนที่บอกว่าทีมแพ้จะเลือกกิน มันฝรั่งทอด และขนมหวาน ขณะที่คนที่บอกว่าทีมชนะจะเลือกอาหารที่ดีต่อสุขภาพอย่าง องุ่น หรือ มะเขือเทศ
อย่างไรก็ดี คำถามคือเราจะรับมืออย่างไร หากทีมที่เชียร์อยู่ในฟอร์มแบบ “แพ้เป็นพระ ชนะเป็นมั้ย” ตลอดทั้งฤดูกาล
“แม้ว่าทีมที่คุณเชียร์จะแพ้ตลอด และคุณกังวลเกี่ยวกับสุขภาพ หลังความพ่ายแพ้ให้เขียนว่าอะไรสำคัญจริงๆ ในชีวิตคุณ” คอร์นิล และ แชนดอน แนะนำ
“ในการศึกษาของเรา นี่เป็นเทคติคง่ายๆ ที่เรียกว่า ‘การยืนยันกับตัวเอง’ ซึ่งสามารถกำจัดผลกระทบจากความพ่ายแพ้ได้”
สิ่งเหล่านี้คือความสัมพันธ์ระหว่างทีมรักกับแฟนบอล ที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตในระดับที่ประมาทไม่ได้ ดังนั้นการจะล้ออะไร ก็เอาแค่หอมปากหอมคอ พอเป็นสีสัน อย่าถึงขั้นกระทืบให้จมดินกันเลย