นัดแจ้งเกิด เอ็มบัปเป้ : ย้อนรอยแมตช์สุดคลาสสิก แมนซิตี้-โมนาโก ศึก UCL ปี 2017

Guy Tanapon

นัดแจ้งเกิด เอ็มบัปเป้ : ย้อนรอยแมตช์สุดคลาสสิก แมนซิตี้-โมนาโก ศึก UCL ปี 2017 image

ศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบลีกเฟสคืนนี้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะได้เจอกับ โมนาโก ทีมที่เคยทำแสบใส่พวกเขาเมื่อปี 2017 อีกครั้ง ซึ่งถ้าหากใครจำกันได้ โมนาโก ชุดนั้น เต็มไปด้วยนักเตะคุณภาพ จนกลายเป็นม้ามืดของทัวร์นาเมนต์เลยทีเดียว

ซึ่งคนที่ดูจะเฉิดฉายมากที่สุดก็คือ คิลิยัน เอ็มบัปเป้ ในวัย 18 ปี ก่อนที่เขาจะกลายมาเป็นหนึ่งในนักฟุตบอลที่ยอดเยี่ยมที่สุดของโลกเวลานี้ และถ้าหากว่าใครจำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ตามย้อนเรื่องราวแมตช์สุดคลาสสิกนี้ได้ที่นี่

นัดแจ้งเกิด เอ็มบัปเป้

เกมดังกล่าว เป็นเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้ายในระบบเหย้า-เยือน ซึ่ง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะต้องเจอกับทีมพลังหนุ่มอย่าง โมนาโก ที่มีผู้เล่นคุณภาพหลายคน ไม่ว่าจะเป็น แบร์นาโด้ ซิลวา, ฟาบินโญ, เจา มูตินโญ, เบนฌาแม็ง เมนดี้ และ คิลิยัน เอ็มบัปเป้

เกมเริ่มต้นขึ้นอย่างดุเดือด แมนฯ ซิตี้ ขึ้นนำไปก่อนจาก ราฮีม สเตอร์ลิง แต่ โมนาโก ก็ตีเสมอได้อย่างรวดเร็วจากลูกโหม่งของ ราดาเมล ฟัลเกา กองหน้าจอมเก๋าของทีม

และแล้วช่วงเวลาสำคัญของดาวรุ่งวัย 18 ปีก็มาถึง คิลิยัน เอ็มบัปเป้ อาศัยจังหวะที่ แฟร์นันดินโญ่ และ นิโคลัส โอตาเมนดี้ ลังเลในการจัดการกับบอลยาว เขาฉวยโอกาสสอดเข้าไประหว่างกลางแล้วซัดประตูแรกของตัวเองในแชมเปี้ยนส์ลีกอย่างเฉียบขาด ประตูนี้ไม่เพียงแต่ทำให้ โมนาโก ขึ้นนำ แต่ยังเป็นการประกาศให้โลกได้รู้ว่า เขามีดีพอที่จะเล่นในเวทีระดับสูงสุดด้วย

ถึงแม้เกมจะพลิกไปพลิกมา โดยมีทั้งการเซฟจุดโทษของ วิลลี่ กาบาเยโร่, ประตูของ เซร์คิโอ อเกวโร่ และลูกชิพสุดเหนือชั้นของ ฟัลเกา แต่สุดท้าย แมนฯ ซิตี้ ก็พลิกกลับมาชนะไปได้ในเลกแรกด้วยสกอร์ 5-3 อย่างไรก็ตาม ประตูของเอ็มบัปเป้ได้กลายเป็น "อเวย์โกล" ที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับโมนาโก

Kylian Mbappe Monaco

ตอกย้ำความเป็นดาวเด่น

แม้จะกุมความได้เปรียบจากเลกแรก แต่ มนฯ ซิตี้ ก็ต้องพบกับฝันร้ายเมื่อกลับไปเยือน โมนาโก เพียงแค่ครึ่งชั่วโมงแรกของเกม เอ็มบัปเป้ ก็แผลงฤทธิ์อีกครั้งด้วยการยิงประตูเบิกร่องให้ทีมขึ้นนำ ก่อนที่ ฟาบินโญ่ จะมายิงเพิ่มอีกลูก ทำให้ความได้เปรียบของซิตี้หายไปในทันที ถึงแม้ ลีรอย ซาเน่ จะยิงประตูตีไข่แตกให้ซิตี้กลับมาอยู่ในสถานะเข้ารอบ แต่สุดท้าย ติเอมูเอ้ บากาโยโก้ ก็โหม่งประตูชัยส่งให้ โมนาโก ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมด้วยกฎประตูทีมเยือน (away goal) หลังจบสองนัดด้วยสกอร์รวม 6-6

การเปลี่ยนแปลงของ ซิตี้

ความพ่ายแพ้ในครั้งนั้นไม่เพียงแต่ทำให้เป๊ปต้องจบฤดูกาลแรกในอังกฤษแบบมือเปล่า แต่ยังเป็นบทเรียนสำคัญที่ทำให้เขาต้องปรับทัพครั้งใหญ่ เป๊ปประทับใจฟอร์มของ แบร์นาร์โด้ ซิลวา เป็นอย่างมากและรีบคว้าตัวมาร่วมทีมในซัมเมอร์ถัดมา นอกจากนี้ยังทุ่มเงินคว้าตัว เบนฌาแม็ง เมนดี้ แบ็คซ้ายจาก โมนาโก อีกคน เพื่อแก้ปัญหาแนวรับ

จาก โมนาโก สู่ เปแอสเช

ในขณะเดียวกัน โมนาโก ชุดนั้นที่สามารถคว้าแชมป์ลีกเอิงได้แบบพลิกความคาดหมาย ก็ต้องเสียผู้เล่นตัวหลักไปหลายคน แต่การสูญเสียครั้งใหญ่ที่สุดคือการที่ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง คู่แข่งร่วมลีก จัดการคว้าตัว คิลิยัน เอ็มบัปเป้ ไปร่วมทีมในฤดูกาล 2017/18 ด้วยสัญญายืมตัวก่อนที่จะซื้อขาดในภายหลัง นับเป็นจุดเริ่มต้นการเป็นซูเปอร์สตาร์อย่างเต็มตัวของเขา

Kylian Mbappe Mbappé PSG Paris Saint-Germain

บทความที่เกี่ยวข้อง

Guy Tanapon

 นักเขียน The Sporting News Thailand ผู้รักการดูฟุตบอล, ดูหนัง, ฟังเพลง และตีดอท