เรียกได้ว่าแทบจะทำให้แฟนทั้งสนามเซนต์ เจมส์ พาร์ค เงียบสงัด หลัง กาเบรียล มากัลเญส โหม่งประตูให้ อาร์เซนอล ขึ้นนำ นิวคาสเซิล 90+6 ก่อนจะคว้าชัยไปด้วยประตูดังกล่าว
ทั้งนี้ ประตูนี้ไม่เพียงทำให้ปืนใหญ่คว้า 3 แต้มเท่านั้น แต่ยังทำให้เกมนี้ เป็นเกมนัดที่ 6 จาก 9 คู่ ในสัปดาห์นี้ ที่มีประตูเกิดขึ้นในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ
เพราะเหตุใด พรีเมียร์ลีก จึงมักยิงประตูกันในช่วงทดเจ็บ และมันส่งผลกระทบต่อทีมมากกว่าแค่ผลการแข่งขันอย่างไร? หาคำตอบไปพร้อมกัน
ความรู้สึกแบบรถไฟเหาะ
ตื่นเต้น และ เร้าใจ น่าจะเป็นคำนิยามสำหรับพรีเมียร์ลีกเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อมีการแข่งขันถึง 6 เกม จาก 9 สนาม ที่มีประตูเกิดขึ้นในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ
หนึ่งในเกมสุดมันเกิดขึ้นที่ เซนส์ เจมส์ พาร์ค ที่นิวคาสเซิล เป็นฝ่ายออกนำ อาร์เซนอล ไปก่อนตั้งแต่ครึ่งแรก และรักษาสกอร์ได้จนถึงช่วงท้ายเกม
นิวคาสเซิล ทำท่าว่าจะเก็บ 3 คะแนนจนถึงนาทีที่ 84 ทำนบก็พังลง หลังโดน มิเกล เมริโน โหม่งประตูตีเสมอ ก่อนที่ในนาทีที่ 90+6 กาเบรียล มากัลเญส จะมาโหม่งประตูชัยให้ อาร์เซนอล เก็บ 3 คะแนนไปแบบช็อคแฟนบอลเจ้าบ้าน
อย่างไรก็ดี ประตูดังกล่าวอาจจะไม่ได้หมายถึงการได้ 3 คะแนน หรือ การเสียแต้ม เท่านั้น แต่มันยังส่งผลกระทบอย่างมหาศาลต่อทั้งสองทีม
สำหรับทีมที่นำ หรือยันเสมออยู่ ช่วงทดเวลาบาดเจ็บสำหรับพวกเขา จะเป็นความรู้สึกที่ผสมกันระหว่างความโล่งใจ และความวิตกกังวล เพราะแม้จะเหลือเวลาอีกไม่กี่นาที แต่ก็มีความกลัวที่จะโดนตีเสมอ หรือยิงประตูชัยในช่วงเวลานี้
พวกเขาอาจจะรู้สึกถึงอดรีนาลีนที่หลั่งออกมาอย่างเต็มที่ เมื่อนาทีสุดท้ายได้ผ่านพ้นไป แต่ความยินดีนี้ อาจเปลี่ยนเป็นความสิ้นหวังอย่างรวดเร็ว หากโดนยิงในช่วงนี้ได้

ในทางกลับกัน สำหรับทีมที่ตามอยู่ หรือต้องการยิงประตูขึ้นนำ ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ คือความหวัง หรือโอกาสในการพลิกเกมกลับมา
สภาพจิตใจของนักเตะที่ต้องการประตูในช่วงเวลานี้จะฮึกเหิม กล้าเล่นกล้าลุยมากขึ้น ราวกับถูกปลุกใจจากสกอร์ที่ตามหลัง จนอาจทำให้เกิดการพลิกสถานการณ์ เหมือนที่อาร์เซนอล หรือ ไบรท์ตัน ในเกมลีกนัดล่าสุด
การเกิดขึ้นลักษณะนี้ ยังตรงกับผลวิจัยที่ชื่อว่า “Temporal dynamics of goal scoring in soccer” ที่ศึกษาช่วงเวลาการยิงประตู และพบว่าหากมีประตูเกิดขึ้นในช่วงเวลาใดก็ตาม จะมีโอกาสสูงที่จะมีอีกประตูเกิดขึ้นหลังจากนั้น ด้วยผลของ Momentum Effect
“เราศึกษาช่วงเวลาการยิงประตูจาก 3,433 เกมใน 21 ลีก และพบว่าการยิงประตู ไม่ได้มีรูปแบบกระจายตลอดเวลา ในทางกลับกันประตูที่เกิดขึ้นค่อนข้างกระจุกตัวเมื่อการแข่งขันดำเนินไป และมักจะเกิดขึ้นไม่นานหลังมีการทำประตูแรก” กูเตนา อารายา และทีมกล่าวในบทความ
ดังนั้น พวกเขาจึงต้องอาศัยความแข็งแกร่งทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ทั้งทีมที่นำอยู่หรือทีมที่ถูกนำ จนกว่าผู้ตัดสินจะเป่านกหวีดหมดเวลา
ทิศทางต่อไปของทีม
แน่นอนว่าประตูที่เกิดขึ้นในช่วงทดเจ็บ ไม่ได้มีผลแค่เกมดังกล่าวนัดเดียวเท่านั้น เพราะมันส่งผลต่ออันดับ และทิศทางของทีมหลังจากนั้น
สำหรับทีมที่ลุ้นแชมป์ พวกเขาไม่สามารถทำคะแนนหล่นได้เลยแม้แต่แต้มเดียว และมันจะยิ่งมีผลต่อสภาพจิตใจแบบสุดขั้วหากประตูในทดเจ็บ ทำให้พวกเขาทำแต้มขึ้นไปอยู่บนหัวตาราง หรือหล่นจากอันดับลุ้นแชมป์
เนื่องจากในเชิงจิตวิทยา การยิงประตูได้ในช่วงท้ายเกมของทีมที่ลุ้นแชมป์ จะส่งผลอย่างรุนแรงในแง่บวก เพราะมันแสดงให้เห็นถึงการฟื้นคืนชีพ และทัศนคติที่ไม่ยอมแพ้
ขณะเดียวกัน สำหรับทีมที่ถูกยิงประตูในช่วงเวลานี้ จะทำให้พวกเขาเกิดข้อกังขา และเกิดความวิตกกังวลในทีม จนทำให้ทีมที่กำลังมีผลงานดีสามารถช็อตไปดื้อๆ
ไม่ต้องพูดถึงทีมท้ายตาราง ที่ทุกประตูล้วนแบกความกดดันยิ่งกว่านั้น เพราะสำหรับพวกเขาทุกแต้มคือการต่อลมหายใจ และประตูในช่วงทดเจ็บเหล่านี้ อาจเป็นตัวตัดสินระหว่างการอยู่รอดและตกชั้น
ทำให้สำหรับพวกเขา มันมีความผันผวนทางอารมณ์มาก เพราะแต่เดิมก็มีความกังวลใจอยู่แล้ว การได้หรือเสียประตูในช่วงนี้ จึงสามารถเป็นได้ทั้งแผลใจ หรือแรงกระตุ้นได้ทั้งสิ้น

ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ ประตูในช่วงทดเจ็บ จึงส่งผลกระทบต่อทีมท้ายตาราง มากกว่าแค่ผลการแข่งขัน เพราะทีมที่เก็บคะแนนได้ในช่วงเวลานี้ มักจะสามารถรักษาโมเมนตัมสำหรับเกมนัดต่อไปได้ ส่วนทีมที่โดนยิงท้ายเกม มักจะเสียกำลังใจ จนเรียกฟอร์มกลับมาไม่ได้
ขณะเดียวกัน มันยังเป็นภาพสะท้อนให้เห็นว่าการเอาตัวรอดในลีกสูงสุด อาจไม่ได้หมายถึงแค่การเก็บแต้มให้ได้มากที่สุด แต่ต้องรับมือกับผลกระทบทางจิตใจจากประตูในช่วงท้ายเกม และเปลี่ยนความทุกข์ทนเหล่านั้น เป็นแรงกระตุ้นให้ได้
แต่ถึงอย่างนั้น ประตูในช่วงท้ายเกม หรือทดเจ็บ ก็เป็นอีกหนึ่งพรีเมียร์ลีกกลายเป็นลีกยอดนิยม โดยเฉพาะการพลิกกลับมาคว้าชัย จากที่ตามหลัง เหมือนที่หลายทีมแสดงให้เห็นในซีซั่นนี้
มันเป็นเหมือนบทละครที่ไม่มีใครรู้ตอนจบ เป็นเรื่องราวที่ไม่มีใครคาดเดาได้ เป็นปาฏิหาริย์ เป็นความมหัศจรรย์ และสิ่งเหล่านี้ก็ทำให้ฟุตบอลมีความสนุก และละสายตาไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียว