ย้อนไปเมื่อ 10 ปีก่อน แม้ว่า พาร์ค จี-ซอง จะฝากผลงานที่ยอดเยี่ยมกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไว้แค่ไหน แต่ตลาดนักเตะเอเชียหรือว่าจากเกาหลีใต้ก็ยังไม่ได้ถือว่าบูมและเป็นที่ยอมรับมากสักเท่าไหร่
แต่รู้หรือไม่ว่า เมาริซิโอ โปเช็ตติโน ซึ่งเป็นผู้จัดการทีม เซาแธมป์ตัน ณ เวลานั้น เป็นส่วนน้อยที่อยากเซ็นสัญญากับดาวรุ่งชาวเกาหลีใต้ของ ฮัมบูร์ก คำถามก็คือ เขามองเห็นอะไรในตัวของ ซน และเบื้องหลังของดีลนี้จนได้มาร่วมงานกันที่ ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ จะเป็นอย่างไร ตามอ่านต่อได้ที่นี่
มองตั้งแต่อยู่ เซาแธมป์ตัน
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2013 ซน ฮึง-มิน กำลังเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงที่โชว์ฟอร์มได้ดีมาก ๆ กับ ฮัมบูร์ก ทีมดังในบุนเดสลีกา เยอรมัน ณ เวลานั้น ซึ่งเหล่าสื่อของเมืองเบียร์ก็ให้ความสนใจกับดาวเตะเอเชียรายนี้เยอะมากเลยทีเดียว
ในขณะเดียวกัน เมาริซิโอ โปเช็ตติโน และ พอล มิตเชลล์ หัวหน้าฝ่ายสเก๊าท์นักเตะและมือขวาของกุนซือชาวอาร์เจนไตน์ที่ เซาแธมป์ตัน ก็ให้ความสนใจไม่แพ้กัน
ช่วงเวลานั้น แนวรุกตัวความหวังของทีมนักบุญ กองหน้าตัวเก่งที่จบสกอร์ได้เฉียบคม แต่ขาดเรื่องความเร็ว ในขณะที่ตัวป้อนบอลให้อย่าง เจมส์ วอร์ด-พราวส์ และ อดัม ลัลลานา ก็ไม่ได้เด่นเรื่องความเร็วเหมือนกัน
ทาง มิตเชลล์ เล่าว่าตอนนั้น โปเช็ตติโน มองเห็นว่าทีมกำลังขาดนักเตะสไตล์กระชากลากเลื้อย ซึ่งตัวของ มิตเชลล์ ก็ได้ส่งโปรไฟล์ของ ซน ฮึง-มิน ไป ที่โดดเด่นมาก ๆ เรื่องดังกล่าวไป ทำให้เฮดโค้ชชาวอาร์เจนตินาถูกใจทันที

"ซนนี่ เป็นนักเตะที่มีสไตล์ที่เราตามหา เขาเล่นเกมสวนกลับได้ดี เล่นแนวลึกได้ แถมยังเล่นได้สองเท้า เล่นได้สองฝั่งของสนามอีกต่างหาก" อดีตหัวหน้าสเก๊าท์ของ เซาแธมป์ตัน กล่าวผ่าน The Athletic
"ตอนนั้นเราต้องการนักเตะที่สามารถเล่นเพรสซิ่งสูง ๆ ได้ เราต้องการนักเตะที่มีความเร็วและเก็บบอลไว้กับตัวได้อย่างดี ซึ่งตัวของ ซน นั้นสมบูรณ์แบบมาก ๆ"
ก่อนที่ในเวลาต่อมา เซาแธมป์ตัน จะหยิบยื่นข้อเสนอไปให้ แต่อย่างไรก็ตาม ในมุมของ ซน ฮึง-มิน มองว่าตัวเองยังไม่พร้อมที่จะออกมาเล่นในพรีเมียร์ลีก เขาอยากที่จะใช้เวลาพัฒนาฝีเท้าให้พร้อมเสียก่อน ดังนั้นเขาเลยเลือกอีกอ็อปชั่น และย้ายไปเล่นให้กับ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน

ต่อมา ในปี 2014 โปเช็ตติโน ก็ได้ย้ายไปอยู่กับ ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ ตัวของ มิตเชลล์ ก็ย้ายตามเขาไปด้วยติด ๆ และอีกอย่างที่ตามติด พอช ไปก็คือความอยากได้ตัว ซน ฮึง-มิน มาเป็นแนวรุกให้กับทีม
ในช่วงเวลาที่ ซน ย้ายไปอยู่กับ เลเวอร์คูเซน เขาได้ทักษะที่ยอดเยี่ยมมาอีกหนึ่งอย่างนั่นก็คือความแข็งแกร่งที่จะสู้กับนักเตะไซส์ยุโรป เขาสามารถรับแรงปะทะจากเหล่ากองหลังตัวใหญ่ ๆ ได้ดีขึ้น แถมยังฟิตปั๋งอยู่ตลอดเวลา โดยที่ตลอด 94 นัดที่เขาลงเล่นให้กับทีมห้างยา เขาพลาดการลงสนามไปแค่ 4 นัดเท่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการติดภารกิจทีมชาติและติดโทษแบน
ย้อนกลับมาที่ สเปอร์ส ในปี 2015 พอช และ มิตเชลล์ ได้ส่งทีมงานสเก๊าท์ไปดู ซน ในเกมลงเล่นเจอกับ โวล์ฟสบวร์ก ที่มี เควิน เดอ บรอยน์ นำทัพอยู่ ซึ่งเกมนั้นปรากฎว่า เลเวอร์คูเซน ของ ซน พ่ายให้กับ โวล์ฟสบวร์ก ไป 4-5 แต่เกมนั้น เป็นเกมที่ดาวเตะเกาหลีได้ทำผลงานได้โดดเด่นมาก ๆ ด้วยการซัดแฮตทริก

และด้วยฟอร์มการเล่น, ร่างกาย, ความพร้อมของ ซน ฮึง-มิน ที่ต้องการออกไปเล่นลีกที่มีความเข้มข้นมากกว่าเดิมแล้ว บวกกับความอยากได้ของ พอช ทำให้สุดท้าย "ซนนี่" ก็ได้ย้ายมาที่ ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ ด้วยค่าตัว 22 ล้านปอนด์
"ค่าตัวสำหรับนักเตะคุณภาพระดับนี้ อาจเป็นหนึ่งในการลงทุนที่ดีที่สุดเท่าที่เราทุกคนเคยทำมาในอาชีพเลยล่ะ" พอล มิตเชลล์ กล่าว
สำหรับ ซน ฮึง-มิน หลังจากย้ายมาอยู่กับ สเปอร์ส ในปี 2015 เขาก็ได้ใช้เวลาอยู่กับทัพไก่เดือยทองเป็นเวลา 10 ปีเต็ม ๆ โดยมีสถิติลงเล่นไปทั้งหมด 454 นัดทุกรายการ ทำไป 173 ประตูกับอีก 101 แอสซิสต์ พร้อมกับพาทีมคว้าแชมป์ ยูฟ่า ยูโรป้าลีก ได้ 1 สมัย
