ปฏิบัติการณ์หนีแบน : วันที่ โจเซ มูรินโญ ยอมแอบในตะกร้าผ้าเพื่อให้ได้คุยกับลูกทีมเชลซีก่อนแข่ง

Staff Writer
ปฏิบัติการณ์หนีแบน : วันที่ โจเซ มูรินโญ ยอมแอบในตะกร้าผ้าเพื่อให้ได้คุยกับลูกทีมเชลซีก่อนแข่ง image

หากพูดถึง “โชเซ่ มูรินโญ่” ชื่อของเขามักมาพร้อมกับคำว่า “กลยุทธ์”, “เกมจิตวิทยา”, หรือ “ความเหนือชั้นในการบริหารทีม”
แต่มีอยู่เหตุการณ์หนึ่งที่สะท้อนตัวตนของเขาได้ชัดที่สุด  ไม่ใช่แผนการเล่น หรือวาทะเจ็บ ๆ ในห้องแถลงข่าว แต่คือวันที่เขายอมซ่อนตัวอยู่ ในตะกร้าผ้า เพื่อได้พูดกับลูกทีมก่อนเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก

แผนลับก่อนศึกใหญ่ ที่เกือบแลกด้วยชีวิต

ย้อนกลับไปในปี 2005 ระหว่างเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย ระหว่าง เชลซี กับ บาเยิร์น มิวนิค
มูรินโญ่ในตอนนั้น ถูกยูฟ่าสั่งแบนห้ามคุมทีมข้างสนาม 2 นัดแต่สำหรับ “เดอะ สเปเชียล วัน” คนนี้  ไม่มีคำว่า “เป็นไปไม่ได้”

มูรินโญ่เล่าเรื่องนี้ให้กับ beIN Sports ฟังในภายหลังว่า เขาตัดสินใจฝ่ากฎด้วยวิธีที่...ไม่มีใครคาดคิด

“ผมไปที่ห้องแต่งตัวตั้งแต่เที่ยง ทั้งที่เกมเตะตอนหนึ่งทุ่ม เพราะผมแค่อยากอยู่ตรงนั้นตอนนักเตะเดินเข้ามา”
“ไม่มีใครเห็นผมเลย... แต่ปัญหาคือ ผมจะออกไปยังไงหลังเกมจบ”

คำตอบของเขาคือ... “ตะกร้าผ้า”

 แผนเกือบพังเพราะ "หายใจไม่ออก"

มูรินโญ่เล่าต่อว่า เขาได้ความช่วยเหลือจาก “สจ๊วต แบนิสเตอร์” เจ้าหน้าที่ดูแลชุดแข่งของเชลซี
ชายคนนี้คือตัวละครร่วมแผนที่ต้องพาเจ้านายของตัวเองหลบสายตาเจ้าหน้าที่ยูฟ่าออกจากห้องแต่งตัว

“สจ๊วตเอาผมใส่ไว้ในตะกร้าผ้า มันเปิดไว้นิดหน่อยเพื่อให้ผมหายใจได้”
“แต่พอเขาเริ่มเข็นออกไป เจ้าหน้าที่ยูฟ่าก็เริ่มตาม... เขาเลยปิดฝาทันที”
“ตอนนั้นผมหายใจแทบไม่ออกเลยจริง ๆ! ผมรู้สึกเหมือนกำลังจะตาย ผมเป็นคนกลัวที่แคบด้วยนะ  ผมพูดจริงเลย!”

แม้จะต้องแลกมากับความรู้สึก “ใกล้ตาย” ในตะกร้าผ้า แต่มูรินโญ่ก็ทำสำเร็จ — เขาได้พูดกับลูกทีมก่อนเกมสำคัญ
และผลลัพธ์ในคืนนั้นคือ... เชลซีชนะบาเยิร์น มิวนิค 4-2 ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ ก่อนจะเข้ารอบตัดเชือกด้วยสกอร์รวม 6-5

จากตะกร้าผ้าสู่ตำนาน

แม้สุดท้ายเชลซีจะตกรอบจาก “ลูกยิงผีจับยัด” ของ หลุยส์ การ์เซีย ในรอบรองฯ ที่พบลิเวอร์พูล
แต่เรื่องราว “ตะกร้าผ้ามูรินโญ่” ก็กลายเป็นตำนานที่แฟนบอลทั่วโลกพูดถึงไม่รู้จบ

สองปีหลังจากนั้น (2007) ข่าวลือเรื่องนี้ถูกขุดขึ้นมาอีกครั้งจนเชลซีต้องออกแถลงการณ์ปฏิเสธ โดยระบุว่า

“ยูฟ่าได้ตรวจสอบและพอใจในมาตรการทั้งหมดในวันนั้นแล้ว ข่าวที่ออกมานี้มีเจตนาเพื่อบ่อนทำลายทีมของเราเท่านั้น”

แต่เวลาผ่านไปเกือบ 15 ปี มูรินโญ่ก็ออกมายอมรับด้วยตัวเองว่า  “มันเกิดขึ้นจริง”

 The Special One ในแบบที่ไม่มีใครเหมือน

เรื่องนี้อาจดูขบขันหรือเหนือจริง แต่ก็สะท้อนแก่นแท้ของมูรินโญ่ได้อย่างดี
เขาคือโค้ชที่พร้อมทำทุกอย่างเพื่อทีม ไม่ว่าจะเสี่ยง ถูกแบน หรือแม้แต่ต้องซ่อนในตะกร้าผ้า

เพราะสำหรับเขา  “การได้พูดกับลูกทีมก่อนเกมสำคัญ”
สำคัญพอที่จะแลกกับทุกอย่าง

และนั่นแหละ… คือสิ่งที่ทำให้ โชเซ่ มูรินโญ่ เป็น The Special One ตัวจริง

บทความที่เกี่ยวข้อง

News Correspondent