One Hit Wonder : ปาปิส ซิสเซ ลูกยิงมหัศจรรย์ และคัลท์ฮีโรแห่งนิวคาสเซิล

Maruak Tanniyom

One Hit Wonder : ปาปิส ซิสเซ ลูกยิงมหัศจรรย์ และคัลท์ฮีโรแห่งนิวคาสเซิล  image

ปฏิเสธไม่ได้ว่านิวคาสเซิล ถือเป็นแหล่งแจ้งเกิดกองหน้าฝีเท้าเยี่ยมมาตลอด ไม่ว่าจะเป็น แอนดี โคล, อลัน เชียร์เรอร์, อเล็กซานเดอร์ อิซัค หรือล่าสุดอย่าง นิค โวลเทอมาเดอ

อย่างไรก็ดี กลับมีนักเตะคนหนึ่งที่ผลงานอาจจะไม่หวือหวา แต่กลับอยู่ในใจของ ทูน อาร์มี เขาคนนั้นก็คือ ปาปิส ซิสเซ ดาวยิงทีมชาติเซเนกัล 

เพราะเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น? ติดตามไปพร้อมกัน 

ปฏิเสธบาเยิร์น 

ปาปิส ซิสเซ ก็ไม่ต่างจากเด็กหนุ่มแอฟริกาคนอื่น ที่มองว่าฟุตบอล นอกจากความสนุกของมันแล้ว เขายังหวังลึกๆ ว่ามันจะเป็นสะพานนำทางไปสู่ชีวิตที่ดีกว่า 

เขาเกิดที่ ดาการ์ เมืองหลวงของ เซเนกัล ในฐานะลูกคนที่ 2 ของพี่น้อง 5 คนในครอบครัว ที่แม้ว่าพ่อจะเป็นทหาร แต่รายได้ก็ไม่พอเลี้ยงปากเลี้ยงท้องได้ทั้งหมด 

“ผมคิดได้ตอนอายุ 14-15 ผมแค่เล่นฟุตบอลกับเพื่อนตามถนน และผู้คนก็บอกผมว่าผมเก่งมาก และมีทักษะที่ดี” ซิสเซ ย้อนความหลัง 

คำพูดนี้ได้จุดประกายให้ ซิสเซ ในช่วงวัยรุ่นได้เข้าไปอยู่ในสโมสรท้องถิ่น ก่อนที่ผลงาน 23 ประตูจาก 26 เกม จะเป็นใบเบิกทางให้เขาได้ไปค้าแข้งในยุโรปกับ เม็ตซ์ ในลีกเอิง ในปี 2005 ด้วยวัย 20 ปี 

จากนั้น ซิสเซ ก็สร้างชื่อในสีเสื้อของ เม็ตช์ จนได้ย้ายไปเล่นให้ ไฟร์บวร์ก ในบุนเดสลีกา ในปี 2009 ก่อนจะทำไป 22 ประตูจาก 32 เกมในฤดูกาลต่อมา ที่นอกจากจะคว้ารางวัลรองดาวซัลโวของลีกแล้วเขายังได้รับความสนใจไปทั่วยุโรป

ฤดูกาล 2011/12 ซิสเซ ยังทำผลงานได้อย่างโดดเด่น ด้วยการซัดไป 9 ประตูจาก 17 นัดในครึ่งฤดูกาลแรก จนได้รับความสนใจจาก บาเยิร์น มิวนิค ทีมแกร่งของลีก 

แต่เขาก็ปฏิเสธ ยักษ์ใหญ่ของเยอรมัน อย่างสุดช็อค ด้วยเหตุผลว่าไม่ยอมปล่อยตัวเขาไป เล่น แอฟริกัน คัพ ออฟ เนชั่น 2012 และทำให้ นิวคาสเซิล กลายเป็นทีมที่ได้ชิ้นปลามันไปครอง 

“เป็นเรื่องจริงที่ผมผมตัดสินใจ ปฏิเสธ บาเยิร์น ในตอนนั้น เพื่อไป แอฟริกัน คัพ ออฟ เนชั่น” ซิสเซ อิธิบาย

“บาเยิร์น สนใจผม แต่ผมจะต้องอยู่ที่เยอรมันต่อ แทนที่จะได้ไปเล่นในทัวร์นาเมนต์” 

ก่อนที่มันจะกลายเป็นจุดเริ่มต้นของตำนาน 

ลูกยิงเปลี่ยนชีวิต 

แม้ว่า แอฟริกัน คัพ ออฟ เนชั่น 2012 เซเนกัล ของ ซิสเซ ต้องจอดป้ายตั้งแต่รอบแรก ด้วยการพ่าย 3 นัดรวด แต่มันก็ไม่ได้ทำให้เขา เสียกำลังใจ เมื่อสามารถประเดิมประตูได้ตั้งแต่นัดแรกที่เจอกับ แอสตัน วิลลา 

จากนั้น ซิสเซ ก็สถาปนาตัวเองขึ้นมาเป็นเครื่องจักถล่มประตูในช่วงครึ่งซีซั่นหลัง เขาจับคู่ได้อย่าวลงตัวกับ เด็มบา บา กองหน้าเพื่อนร่วมชาติ ก่อนจะซัดไป 10 ประตูจาก 10 เกมแรก รวมถึงการเหมา 2 ประตูช่วยให้ นิวคาสเซิล คว้าชัยหนือ ลิเวอร์พูล ไปได้ 2-0 

เบ็ดเสร็จฤดูกาลนั้น ซิสเซ ซัดไป 13 ประตูจาก 14 นัด ทว่าคงไม่มีลูกไหน จะตราตรึงได้เท่ากับลูกยิงในเกมบุกชนะ เชลซี ถึง สแตมฟอร์ด บริดจ์ 

หลังจากยิงให้ นิวคาสเซิล ออกนำตั้งแต่ครึ่งแรก ช่วงทดเจ็บ ซิสเซ ก็มาโชว์ความมหัศจรรย์ จากจังหวะทุ่มไกล แล้ว โชลา อเมโอบี พักอกกลับมาให้ 

แทนที่ ซิสเซ จะแต่งบอล เขากลับวอลเลย์ตูมเดียว บอลติดไซด์ก้อยโค้งผ่านมือ ปีเตอร์ เช็ก ที่พยายามเหยียดปัด เสียบเสาสองเข้าไปอย่างสวยงาม 

“เราเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในฐานะทีม และมันก็ส่งต่อมาถึงผมจาก โชลา อเมโอบี ให้ผมทำประตู สิ่งเดียวที่ผมคิดตอนนั้นคือผมต้องเตะมันด้วยข้างเท้าด้านนอก และผมก็ทำได้”  ซิสเซ กล่าวถึงประตูดังกล่าว 

“ตอนนั้น ผมไม่รู้ว่าผมจะทำได้หรือเปล่า แต่ผมก็ยิงมันไปก่อน และหลังจากนั้นมันก็กลายเป็นประตูมหัศจรรย์ ที่เกิดขึ้นจากการเจอกับคู่แข่งและผู้รักษาประตูที่น่าทึ่ง ประตูนี้ ผมไม่เคยลืมมันเลย” 

 

“ตอนแรกผมคิดว่าเขาจะเก็บบอลไว้ แต่มันทีที่เขาพักอกมาให้ ผมก็ซัดเลย มันคือสัญชาตญาณกองหน้า ผมโชคดีที่สิ่งนี้เกิดขึ้นกับผม” 

“มันเป็นสัญชาตญาณ นี่คือสิ่งที่กองหน้าทำ คิดให้เร็ว นั่นคือสิ่งที่เราทำ ในหัวของผมคือเอาบอลมาแล้วยิง ถ้ามันไม่เป็นประตู เราก็ถอยกลับลงไป" 

"พอผมยิง และเห็นมันเข้าไป ผมคิดว่าต้องเป็นประตูแน่ๆ สุดท้ายมันก็เกิดขึ้นจริง และทุกคนก็มีความสุข"

ประตูดังกล่าว ไม่เพียงถูกเลือกให้เป็นประตูยอดเยี่ยมพรีเมียร์ลีกประจำฤดูกาล 2011/12 เท่านั้น แต่มันยังได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในสุดยอดประตูตลอดกาลของลีกสูงสุดอังกฤษด้วย 

อย่างไรก็ดี น่าเสียดายที่นี่คือช่วงเวลารุ่งเรืองครั้งท้ายๆ ของ ซิสเซ ในสีเสื้อของ นิวคาสเซิล เพราะแม้ว่าเขาจะไม่ถึงกับเป็นสากกะเบือ แต่มันก็ไม่เปรี้ยงปร้าง เหมือนปีแรก 

สุดท้ายในปี 2016 ซิสเซ ก็ตัดสินใจอำลาถิ่นเซนต์ เจมส์ พาร์ค ด้วยการย้ายไปอยู่กับ ซานตง ลู่เหนิง ในลีกจีน ก่อนจะกลับมาเล่นในยุโรปกับ อาลันยาสปอร์ และ เฟเนบาเชห์ ในลีกตุรกี 

ทั้งนี้ ปัจจุบัน ซิสเซ ในวัย 40 ปี ยังคงสนุกกับเกมลูกหนัง ด้วยการเป็นสมาชิกของ ไวเธนชอว์ รุ่นอายุ 35 ปีขึ้นไป ที่เต็มไปด้วยอดีตแข้งพรีเมียร์ลีก และเพิ่งสร้างผลงานยิงไป 13 ประตูจากการลงเล่นแค่ 2 เกม ในซันเดย์ลีก 

 

นี่คือสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความกระหายในการยิงประตูของ ดาวยิงชาวเซเนกัล ที่ไม่ว่าจะเล่นในลีกระดับไหน เขาก็ยังเต็มที่อยู่เสมอ จนกลายเป็นที่รักในหมู่แฟนบอลนิวคาสเซิล 

และแม้ว่าจะเป็นที่จดจำในฐานะคนยิงประตูมหัศจรรย์ แทนที่จะเป็นดาวเตะจอมถล่มประตู เขาก็ไม่แคร์ เพราะมันคือสิ่งที่ทำให้ ซิสเซ มีวันนี้ ดังนั้นไม่ว่าจะแบบไหน เขาก็ยินดี 

“ผมมองว่าประตูนั้นกลายเป็นหนังสือเดินทางที่ทำให้ผมได้ไปทั่วโลก ผมสามารถไปได้ทุกที่ด้วยประตูนั้น ทุกที่ที่ผมไป จีน ตุรกี หรือที่ไหนก็ตาม พวกเขามักจะพูดว่า ‘คุณคือคนที่ยิงประตูนั้นในเกมกับเชลซีใช่มั้ย?’ ผมตอบว่านั่นล่ะผมเอง” ซิสเซกล่าว 

บทความที่เกี่ยวข้อง

Contributing Writer