ไม่ใช่ประสบการณ์ แต่คืออนาคต : ทำไมปีศาจแดงถึงเลือก ลัมเมนส์

Nopphasin Kulabburi

ไม่ใช่ประสบการณ์ แต่คืออนาคต : ทำไมปีศาจแดงถึงเลือก ลัมเมนส์ image

แค่ไม่กี่ชั่วโมงก่อนตลาดนักเตะปิดตัวลง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตัดสินใจที่หลายคนมองว่า “สวนทางกับความคาดหวัง” แทนที่จะคว้า เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ นายทวารดีกรีแชมป์โลกจากแอสตัน วิลล่า พวกเขากลับเลือกจ่ายเงิน 18.1 ล้านปอนด์ เพื่อเซ็นสัญญากับผู้รักษาประตูวัยเพียง 23 ปี เซนเน่ ลัมเมนส์ จากรอยัล อันต์เวิร์ป

ดีลนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของปัจจุบัน แต่เป็นการขยับหมากตามแผนใหญ่ที่สโมสรเรียกว่า “Project 150” การพา แมนฯ ยูไนเต็ด กลับมาทวงแชมป์พรีเมียร์ลีกในปี 2028 ซึ่งตรงกับวาระครบ 150 ปีของสโมสร

เส้นทางใหม่ของทัพ ปีศาจแดง

ในมุมของแฟนบอล มาร์ติเนซคือคำตอบที่ชัดเจน เขาคือผู้รักษาประตูที่ผ่านเกมใหญ่ ๆ มาแล้วทั้งพรีเมียร์ลีกและฟุตบอลโลก มีคาแร็กเตอร์แกร่งพอที่จะรับแรงกดดันในโอลด์ แทรฟฟอร์ดได้ทันที

แต่ฝั่งบอร์ดบริหาร โดยเฉพาะภายใต้แนวทางของ โอมาร์ เบร์ราด้า ซีอีโอคนใหม่ และการวิเคราะห์ข้อมูลที่เซอร์ จิม แรทคลิฟฟ์ผลักดันอย่างจริงจัง กลับมองอีกมุมหนึ่งว่า ลัมเมนส์คือ “การเดิมพันเพื่ออนาคต”

แม้มีเพียง 93 เกมอาชีพ (และยังไม่เคยลงเล่นให้ทีมชาติเบลเยียมชุดใหญ่) แต่สถิติหลายด้านชี้ว่าเขามีคุณภาพที่น่าจับตา ตั้งแต่เปอร์เซ็นต์การเซฟ, การออกมาตัดบอลกลางอากาศ ไปจนถึงจำนวนการผ่านบอลเชิงรุกที่มากที่สุดในบรรดานายทวารอายุต่ำกว่า 23 ปีในลีกยุโรป

การตัดสินใจที่สะท้อนแนวทางใหม่

ความจริง ยูไนเต็ดก็เคยเจอดีลที่คล้ายกันมาแล้วระหว่างการเลือก ออลลี่ วัตกิ้นส์ กับ เบนจามิน เชสโก้ พวกเขาเลือกเชสโก้ ซึ่งสอดคล้องกับภาพรวมการสร้างทีมใหม่ที่เต็มไปด้วยนักเตะอายุน้อยและมีศักยภาพเติบโตระยะยาว

เมื่อเสริมแนวรุกด้วยผู้เล่นพร้อมใช้งานอย่าง มาธีอุส คุนญ่า และ ไบรอัน เอ็มเบวโม่ ไปแล้ว บอร์ดจึงมองว่า ตำแหน่งผู้รักษาประตูคือพื้นที่ที่สามารถ “ลงทุนอนาคต” ได้

เสียงสนับสนุนจากรุ่นพี่

สิ่งที่ช่วยเสริมความมั่นใจของ ยูไนเต็ด ก็คือคำชื่นชมจากสุดยอดนายทวารเบลเยียมทั้ง ติโบต์ กูร์กตัวส์ และซิมง มินโญเลต์ ที่ต่างยืนยันว่าลัมเมนส์มีทั้งปฏิกิริยาบนเส้นที่ยอดเยี่ยม การกล้าออกมาตัดบอล และการใช้เท้าที่เหนือกว่าผู้รักษาประตูทั่วไป

บททดสอบแรกอาจหนักที่สุด

ปัญหาคือ ยูไนเต็ดไม่สามารถค่อย ๆ ปล่อยของเหมือนกรณีเชสโก้ได้ เพราะทีมตกรอบบอลถ้วยไปแล้วตั้งแต่ต้น ทำให้เกมถัดไปของพวกเขาคือ “แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้” กับซิตี้ในวันที่ 14 กันยายน

คำถามคือ รูเบน อาโมริม จะกล้าเสี่ยงส่งผู้รักษาประตูดาวรุ่งที่ยังแทบไม่มีประสบการณ์เกมใหญ่ ลงสนามนัดสำคัญที่สุดเกมหนึ่งของฤดูกาลเลยหรือไม่?

สรุป

ดีลลัมเมนส์จึงไม่ใช่การตัดสินใจที่ง่าย แต่เป็นการเลือกเดินเส้นทางที่สะท้อนเป้าหมายระยะยาวของสโมสร “Project 150” มากกว่าการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า แมนฯ ยูไนเต็ด กำลังเดิมพันอนาคตกับนายทวารวัย 23 ปีที่อาจกลายเป็นรากฐานสำคัญในปีที่พวกเขาหวังจะกลับมาทวงแชมป์พรีเมียร์ลีกอีกครั้ง

บทความที่เกี่ยวข้อง

Nopphasin Kulabburi

นักเขียน Sporting News Thailand ที่ติดตามทั้งกีฬาฟุตบอล, บาสเก็ตบอล รวมถึงแวดวงอีสปอร์ต