นอกจากชัยชนะที่สวยงามของทีมชาติอังกฤษแล้ว ค่ำคืนที่ผ่านมายังเป็นวันสำคัญสำหรับ จอร์แดน พิคฟอร์ด เมื่อเขากลายเป็นผู้รักษาประตูสิงโตคำรามคนแรกในประวัติศาสตร์ที่เก็บคลีนชีทได้ 8 นัดติด
อย่างไรก็ดี มันช่างสวนทางกับเส้นทางการค้าแข้งของเขา เมื่อทั้งที่นายด่านวัย 31 ปีไม่เคยค้าแข้งกับทีมใหญ่ แต่กลับยึดมือ 1 ของทีมชาติ แบบไม่มีโค่นได้
พิคฟอร์ด มีดีอะไรที่ทำให้เขายืนระยะได้นานขนาดนี้? ติดตามไปพร้อมกัน
รู้จุดแข็งตัวเอง
สำหรับ พิคฟอร์ด จุดโทษอาจจะเป็นสิ่งที่สร้างชื่อให้เขามากที่สุด แต่สิ่งสำคัญที่ทำให้เขาได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจคือการเป็นผู้รักษาประตูที่เซฟได้ในทุกสถานการณ์
โดยเฉพาะการอยู่กับ เอฟเวอร์ตัน ที่ทำให้เขาต้องงัดทุกกระบวนท่ามาป้องกันไม่ให้ทีมเสียประตู และประสบการณ์เหล่านี้ก็ล้วนช่วยส่งเสริมยามรับใช้ทีมชาติ
“ผมเคยคุยกับ มาร์ก (มาร์ติน มาร์เก็ตสัน อดีตโค้ชผู้รักษาประตูทีมชาติอังกฤษ) เกี่ยวกับ พิคฟอร์ด และถามเขาว่าในทางเทคนิคแล้ว เขาดีกว่าคนอื่นอย่างนั้นเหรอ” โรเบิร์ต กรีน อดีตโกลทีมชาติอังกฤษกล่าวกับ BBC Sport
“และน่าจะไม่ใช่ เขามีข้อบกพร่องและลักษณะเฉพาะเหมือนกับที่โกลทุกคนมี”
“เมื่อเขาเผชิญหน้ากับลูกยิง เขาจะกางมือทั้งสองข้างให้อยู่หลังตัวเอง แล้วยกมือข้างหนึ่งขึ้นเล็กน้อย มีจุดแปลกๆ กับจังหวะของเขา และมันไม่ค่อยเป็นไปด้วยกัน แต่คุณจะมีสไตล์แบบไหนก็ได้ เพราะไม่ว่าจะสถานการณ์ไหน เขาก็เซฟได้”
จุดเด่นของ พิคฟอร์ด คือปฏิกริยาที่ว่องไว ยิ่งไปกว่านั้นเขายังเป็นผู้รักษาประตูที่ใช้เท้าได้ดี แถมยังเปิดบอลยาวได้แม่นยำจนทำไปแล้ว 2 แอสซิสต์ ในพรีเมียร์ลีก

“เขาพัฒนาจนเล่นได้ทุกรูปแบบด้วยเท้าของเขา สิ่งที่เป็นจุดแข็งของ จอร์แดน มาตลอดคือการจ่ายบอลยาว และความสามารถในการเล่นลูกโต้กลับ มีไม่มากหรอกที่ทำได้ดีกว่าเขาในพรีเมียร์ลีก” พอล โรบินสัน อดีตผู้รักษาประตู ลีดส์ ยูไนเต็ด เสริม
“เขาเตะบอลได้อย่างแม่นยำมากๆ แบบเดียวกับที่ผมเคยทำ เกมเปลี่ยนไปแล้วในตอนนี้ แต่เขาก็ยังสามารถเล่นได้ ด้วยการจ่ายบอลสั้นจากแดนหลัง”
“การหาผู้รักษาประตูที่สมบูรณ์แบบเป็นเรื่องที่ดี แต่เมื่อผมวิเคราะห์เกมโดยรวมของเขา ผมรู้สึกว่า จอร์แดน เข้าใจในศักยภาพของตัวเอง ก่อนจะเติบโตและพัฒนามาเป็นโกลที่เราเห็นในทุกวันนี้”
“เขารู้ว่าเขาเก่งอะไร และอะไรที่บางทีเขาต้องพัฒนา และเขาก็ยังคงพัฒนาแม้กระทั่งในปัจจุบัน”
เยือกเย็นขึ้น
ในอดีต พิคฟอร์ด มีปัญหาเรื่องอารมณ์อยู่เสมอ เขามักจะหงุดหงิด หรือก่นด่าเพื่อนร่วมทีมยามเสียประตู รวมไปถึงเข้าไปร่วมวงทะเลาะกับคู่แข่ง ทว่าสิ่งนี้กลับเริ่มพบเห็นได้ยาก เมื่อเขาอายุมากขึ้น
“จอร์แดน ใจเย็นขึ้นมาก ผมคิดว่าอาจจะเพราะเขาโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว” ธีโอ วัลคอตต์ อดีตปีกเอฟเวอร์ตัน กล่าวกับ BBC Sport
“ก่อนหน้านี้ที่ผมเคยเล่นกับเขา ผมรู้สึกว่าถ้าในเกมเขารู้สึกเบื่อ เขาจะพยายามทำอะไรสักอย่าง หรือแค่อยากเข้ามามีส่วนร่วม”
“แต่ตอนนี้ผมคิดว่าเขาไม่สนแล้วที่จะถอยไปยืนข้างหลัว เพราะว่าเขาเข้าใจแล้วว่ามันเริ่มจากผู้รักษาประตูได้ แต่ถ้าเขาใจเย็น มันจะช่วยให้แบ็คโฟร์และทั้งทีมเล่นอย่างใจเย็นไปด้วย”
“เขาไม่ค่อยเข้าเข้ามามีส่วนร่วมกับการทะเลาะกันในเกมแล้ว และนั่นก็เพราะความเป็นผู้ใหญ่”

ทว่า ไม่ใช่แค่เรื่องอารมณ์เท่านั้น เพราะอายุยังทำให้ พิคฟอร์ด เล่นได้นิ่งขึ้น และเชื่อใจได้ เมื่อเขาคือนายทวารที่มีอัตราการป้องกันประตูที่ควรเป็นประตูได้มากที่สุดในพรีเมียร์ลีก นับตั้งแต่ปี 2022 ด้วยจำนวน 18.6 ประตู
มันแตกต่างจากสมัยที่ย้ายมาอยู่กับ เอฟเวอร์ตัน แรกๆ ที่เขากลายเป็นต้นตอของความผิดพลาด จนทำให้ทีมต้องเสียประตูหลายต่อหลายครั้ง โดยเฉพาะในฤดูกาล 2018/19 ที่ทีมเสียไป 8 ประตูเพราะเขา
แถมหากย้อนกลับไป 3 ฤดูกาลหลังสุด พิคฟอร์ด เล่นพลาดน้อยมาก โดยฤดูกาลที่แล้ว เขาทำพลาดจนทำให้ทีมเสียประตูเพียงแค่ 2 ลูก และย้อนกลับไปฤดูกาลก่อนหน้านั้นก็แค่ครั้งเดียว ตลอดทั้งฤดูกาล
“สถิติที่แสดงให้เห็นว่าเขาก่อความผิดพลาดจนนำไปสู่การเสียประตูแค่ลูกเดียว แสดงให้เห็นถึงระดับความคงเส้นคงว่าที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จกับทีมชาติอังกฤษ” กรีน อธิบาย
“มองในภาพรวม ผมคิดว่าเป็นเพราะความสำคัญของ เนชั่นส์ลีก ที่เพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับนัดกระชับมิตร ที่ยากที่ จอร์แดน จะได้ลงเล่นในทีมที่เปลี่ยนตัวผู้เล่นไป 9 คน”
“ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษเลือกทีมที่แข็งแกร่งในทุกๆ ดังนั้นความคงเส้นคงวาจึงอยู่ตรงหน้าของ จอร์แดน ด้วย มันช่วยได้เยอะ แต่ก็ต้องให้เครดิตเขา เพราะเขาทำได้ในระดับเดียวกันที่ เอฟเวอร์ตัน เช่นกัน”
“อาจจะกล่าวได้ว่าเขาไปได้เร็วกว่ากับทีมชาติอังกฤษ อาจจะเพราะว่าเขาต้องเจอกับการระดมยิงและครอสในทุกสัปดาห์กับ เอฟเวอร์ตัน แต่แฟนบอลทั้งคู่ก็อุ่นใจที่มีเขาอยู่”
รับมือกับคำวิจารณ์ได้ดี
นอกจากผลงานในสนาม สิ่งที่เป็นคุณสมบัติสำคัญสำหรับผู้เล่นทีมชาติอังกฤษ คือการรับมือกับสื่อ โดยเฉพาะสื่อแดนผู้ดี ที่พร้อมจะกดดัน เหยียบย่ำ ซ้ำเติม ได้เสมอ ยามทำผลงานได้ไม่ดี และ พิคฟอร์ด ก็สอบผ่านในสิ่งนั้น
“จอร์แดน พยายามอย่างหนักทุกครั้งที่ลงเล่น และผมก็คิดว่าเขาพยายามกับตัวเองมาก และมีความแข็งแกร่งทางจิตใจที่จะเป็นมือหนึ่งทีมชาติอังกฤษ” โรบินสัน ที่รับใช้สิงโตคำราม 41 เกม ให้ความเห็น
“เมื่อคุณเล่นให้ทีมชาติอังกฤษ คุณจะถูกจับตามองอย่างหนักทุกครั้งที่เสียประตู และคุณต้องรับมือกับเสียงวิจารณ์เหล่านั้น แต่ จอร์แดน ทำมากกว่านั้น เขาปิดปากเงียบ สุดท้ายเสียงวิจารณ์แบบในอดีตก็ไม่มีอีกแล้ว”
“แม้ว่าการเก็บคลีนชีต จะเป็นความพยายามร่วมกัน แต่หากมองดูดีๆกับวิธีที่เขาใช้กับเอฟเวอร์ตัน ที่เล่นได้อย่างแข็งแกร่งและมั่นคง ทั้งที่เป็นทีมที่ต้องดิ้นรน ก็เป็นเพราะสิ่งที่เขาทำ”

ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อเทียบกับผู้รักษาประตูคนอื่น เขายังมีภาษีที่เหนือกว่า ไม่ว่าจะเป็นสถิติการป้องกันประตู หรือประสบการณ์ในนามทีมชาติ รวมถึงการก้าวไปคว้ารองแชมป์ ยูโร 2 สมัยติดต่อกัน
“เขาไม่ค่อยได้รับคำชมเท่าไร ผลงานของเขากับเอฟเวอร์ตัน และยิ่งกว่านั้นกับทีมชาติอังกฤษในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ก็ยอดเยี่ยมมาก เมื่อผู้คนพูดถึงโกลระดับโลก เขากลับไม่ค่อยถูกพูดถึง แต่เขาอยู่ตรงนั้นแน่ๆ” เวย์น รูนีย์ ที่เคยเล่นร่วมกับ พิคฟอร์ด ในทีมชาติกล่าว
เขาคือผู้รักษาประตูที่สร้างความแตกต่างให้กับทีมชาติอังกฤษ โดยเฉพาะการดวลจุดโทษ ที่เคยเป็นของแสลงสิงโตคำรามในอดีต ก็ได้เขามารับจบ
ย้อนกลับไปก่อนที่ พิคฟอร์ด จะติดทีมชาติ สิงโตคำราม แพ้ 7 จาก 8 ครั้งในการดวลจุดโทษ แต่หลังจากมีเขา อังกฤษ ก็คว้าชัยไปถึง 2 จาก 3 ครั้ง จากทัวร์นาเมนต์ใหญ่ 2 ครั้งล่าสุด
“คุณรู้ดีว่า พิคฟอร์ด เคยอยู่ตรงนั้นและทำสำเร็จมาแล้ว ในช่วงเวลาสำคัญ และภายใต้ความกดดันสูงสุดที่จะรับได้ในฐานะผู้รักษาประตู” กรีนกล่าว
“ผมว่าเราไม่ได้อยู่ในจุดวิกฤติในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ที่ผ่านมา และพิคฟอร์ด ก็คือคำตอบ ก่อนหน้านี้แทบไม่มีการพูดถึงคนที่สร้างความแตกต่างระหว่างชัยชนะกับความพ่ายแพ้ และผมคิดว่าตอนนี้ไม่ใช่เลย”
สิ่งที่เป็นเครื่องยืนยันคือแทบจะไม่มีการถกเถียงว่าใครควรเป็นมือ 1 ทีมชาติอังกฤษ อีกเลยในปัจจุบัน ทและทำให้ พิคฟอร์ด ยังคงครองตำแหน่งนี้ไว้อย่างเหนียวแน่น ตราบใดที่ยังไม่มีผู้ท้าชิงคนใหม่เข้ามา