เรียกได้ว่ากลายเป็นขวัญใจคนใหม่ของแฟนนิวคาสเซิลทันที สำหรับ นิค โวลเทอมาเดอ กองหน้าชาวเยอรมัน ที่เพิ่งตะบันประตูได้ในเซนต์ เจมส์ พาร์ค 3 นัดติด ทำสถิติเทียบเท่ากับ อลัน เชียร์เรอร์
ทว่า เขาเกือบไม่ได้มาถึงจุดนี้ เมื่อครั้งหนึ่งดาวเตะร่างโย่งคือดาวรุ่งที่ถูกละเลย และถูกเขี่ยออกจากทีมแบบไม่เห็นหัว จนแทบไม่น่าเชื่อว่าจะมีค่าตัว 69 ล้านปอนด์หลังจากนั้น
และนี่คือเรื่องราวของ ดาวยิงผู้ไม่ยอมแพ้ ที่กลายเป็นตัวตายตัวแทน อเล็กซานเดอร์ อิซัค ได้อย่างสมบูรณ์ ติดตามไปพร้อมกัน
เพชรที่เกือบถูกฝัง
โวลเทอมาเดอ เป็นชาวเบรเมนโดยกำเนิด ทำให้เขาเติบโตขึ้นมาจากอคาเดมีของ แวร์เดอร์ เบรเมน ทีมดังของเยอรมัน ก่อนจะทำผลงานได้อย่างโดดเด่นในระดับเยาวชน รวมไปถึงการยิง 18 ประตูให้ทีม U17 ในฤดูกาล 2018/19
ฟอร์มของ โวลเทอมาเดอ ยังซัดประตูได้อย่างต่อเนื่อง แม้จะเลื่อนขึ้นมาอยู่ในทีมชุด U19 ทำให้ในปี 2010 เขาได้ประเดิมสนามในทีมชุดใหญ่ของ เบรเมน และกลายเป็นนักเตะอายุน้อยสุดที่ลงเล่นให้สโมสรด้วยวัย 17 ปี 11 เดือน กับอีก 18 วัน
ด้วยผลงานเป็นที่ประจักษ์ ทำให้ กองหน้าที่มีส่วนสูง 198 เซนติเมตร ถูกคาดหมายว่าน่าจะก้าวขึ้นมาเป็นดาวดวงใหม่ในถิ่นเวเซอร์สตาดิโอน แต่ความจริงมันกลับไม่เคยไปถึงจุดนั้น
เพราะหลังจากล้มป่วยในเดือนมกราคม 2021 เขาก็มาได้รับบาดเจ็บที่เอ็นหัวเข่า รวมถึงมีปัญหาอาการบาดเจ็บเรื้อรัง จนทำให้ไม่สามารถเบียดแย่งตำแหน่งตัวจริงในทีมเบรเมน และได้ลงเล่นไปเพียงแค่ 21 เกมตลอด 3 ฤดูกาลหลังจากนั้น
ผลงานที่ดีที่สุดของ โวลเทอมาเดอ คือการปล่อยให้ เอลเวอร์สเบิร์ก ในดิวิชั่น 3 ยืมตัวไปใช้งาน ที่แข้งร่างโย่งซัดไป 10 ประตูกับอีก 9 แอสซิสต์ จาก 32 เกม พาทีมคว้าแชมป์พร้อมได้สิทธิ์เลื่อนชั้นสู่บุนเดสลีกา 2
อย่างไรก็ดี การกลับมา เบรเมน ในฤดูกาล 2023/24 เขาก็กลับมาเป็นสิงห์ปืนฝืด หลังยิงไปเพียงแค่ 2 ประตู ทั้งที่ได้ลงเล่นถึง 30 เกม และเป็นเหตุผลที่ทำให้ไม่ได้รับการต่อสัญญา และถูกปล่อยตัวออกจากทีมหลังจบฤดูกาล
สตุ๊ตการ์ต คือทีมที่รับ โวลเทอมาเดอ ไปดูแล แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังไม่ได้รับความไว้ใจ หลังไม่มีชื่อลงทะเบียนในยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก แถม 10 เกมแรกของลีก ก็ได้ลงเล่นไปเพียงแค่ 5 เกม รวมกันแค่ 61 นาทีเท่านั้น

ทว่า ผลงานใน เดเอฟเบ โพคาล ก็กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตของอดีตแข้งเบรเมน ด้วยการยิงประตูทุกนัดตั้งแต่รอบแรกถึงรอบ 16 ทีม ก่อนจะกลายเป็นซูเปอร์ซับ เหมาคนเดียว 2 ประตูในช่วงครึ่งหลัง ช่วยให้ทีมพลิกแซง ยูนิโอน เบอร์ลิน 3-2 ในเกมบุนเดสลีกา
หลังจากนั้น โวลเทอมาเดอ ก็ยึดตำแหน่งตัวจริงของม้าขาวแบบถาวร และซัดไป 12 ประตูจาก 28 นัดในบุนเดสลีกา รวมถึง 3 ประตูใน 3 นัดสุดท้าย
นอกจากนี้ เขายังคว้ารางวัลดาวซัลโว เดเอฟเบ โพคาล ด้วยผลงาน 5 ประตูจาก 5 นัด และเป็นยิงประตูเบิกร่องในนัดชิงชนะเลิศ ช่วยให้ สตุ๊ตการ์ต เอาชนะ อาร์มีเนีย บีเลเฟลด์ 4-2 พร้อมคว้าแชมป์ไปครอง
ทั้งนี้ ความร้อนแรงของ โวลเทอมาเดอ ไม่ได้หยุดแค่นั้น เมื่อหลังจบฤดูกาล เขาเรียกติดทีมชาติเยอรมัน ชุด U21 ลุยศึก U21 ยูโร 2025 ที่สโลวาเกีย ก่อนจะคว้าตำแหน่งดาวซัลโวด้วยการยิง 6 ประตู แต่ก็น่าเสียดายที่ทำได้แค่รองแชมป์ หลังพ่ายอังกฤษในนัดชิงชนะเลิศ
แต่ถึงอย่างนั้น มันก็ไม่ได้ทำให้คุณค่าของเขาลดลง
เมสซี่ 2 เมตร
ท่ามกลางดราม่าการขอย้ายทีมของ อเล็กซานเดอร์ อิซัค ช่วงต้นฤดูกาล 2025/26 จนทำให้ นิวคาสเซิล เปิดซีซั่นด้วยการไร้ชัย 3 เกมติด ชื่อของ โวลเทอมาเดอ ก็กลายเป็นความหวังเล็กๆของทีม หลังย้ายมามาร่วมทัพด้วยค่าตัว 69 ล้านปอนด์ ก่อนตลาดปิดแค่วันเดียว
ในตอนแรกผู้คนต่างตั้งคำถามกับนิวคาสเซิล ว่าทำไมถึงทุ่มเงินขนาดนี้ คว้าตัวผู้เล่นที่เหมือน ปีเตอร์ เคราช์ มาร่วมทัพ แต่ทันทีที่ประเดิมสนามนัดแรกในเกมดวล วูล์ฟแฮมตัน เขาก็ทำให้นักวิจารณ์ต้องปิดปาก หลังโหม่งประตูชัยพาทีมเก็บ 3 คะแนนของฤดูกาล
แต่นั่นเป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น โวลเทอมาเดอ กลายเป็นความยากลำบากสำหรับแนวรับคู่แข่ง เพราะแม้จะมีส่วนสูงเกือบ 2 เมตร ที่ทำให้เก็บบอลได้ดีแล้ว เขายังมีความคล่องแคล่ว สามารถพาบอลไปกับตัวได้สบาย สมกับฉายา “เมสซี่ 2 เมตร” ที่ได้รับมาตั้งแต่ค้าแข้งในเยอรมัน
“สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับเราคือให้ โวลเทอมาเดอ มีส่วนร่วมกับเกมมากพอ และเขาก็เล่นตำแหน่งหน้าต่ำระหว่างแนวกับหมายเลข 9 ในเขตโทษได้” อาตาคาน คาราซอร์ กัปตันสตุ๊ตการ์ต กล่าวกับ ran
“เพราะเรารู้ว่า นิค มีอะไร เขาคือ (จามาล) มุสเซียลา หรือ เมสซี่ ที่สูง 2 เมตร”

นอกจากนี้ โวลเทอมาเดอ ยังแทบไม่ต้องใช้เวลาปรับตัวกับทีม และกลายมาเป็นตัวหลักของ นิวคาสเซิล ได้อย่างรวดเร็ว และยิงไปแล้ว 4 ประตูจาก 7 นัดในฤดูกาลนี้
“นิค เป็นความมหัศจรรย์สำหรับเรา ไม่ใช่แค่การทำประตู แต่เป็นการลงมาช่วยบิวด์อัพในตำแหน่งหมายเลข 10” บรูโน กิมาไรซ์ กัปตันนิวคาสเซิลกล่าวกับ The Athletic
“มันไม่ใช่เรื่องปกติสำหรับนักเตะที่สูงขนาดนั้น ที่เล่นบอลกับเท้าได้ดีมาก”
นัดล่าสุด โวลเทอมาเดอ เพิ่งแสดงให้เห็นว่าตัวเองมีดีกว่าลูกโหม่ง หลังยิงจุดโทษอย่างเฉียบคม เช็ดคานไปแบบโกลคู่แข่งไม่ต้องรับ ช่วยให้ นิวคาสเซิล เปิดบ้านเอาชนะ น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ ไปได้ 2-0
“เราคาดหวังต่อตัวเขามาก เพราะว่าเราเชื่อในตัวเขา เราเชื่อว่าเขาสามารถเปลี่ยนผ่านจากลีกหนึ่งมาอีกลีกได้ แต่มันยากเพราะเขาแทบไม่ได้ซ้อมเลย เขาไม่รู้จักเพื่อนร่วมทีมเลย” เอ็ดดี ฮาว กล่าวถึงลูกทีมคนใหม่
“คุณจะถูกตัดสินทันทีว่าประสบความสำเร็จหรือล้มเหลว เขาสร้างความประทับใจในสนามซ้อม ก่อนจะทำสิ่งนั้นในสนามแข่ง”

ตอนนี้เชื่อว่า แม้จะเสียดาวยิงตัวเก่งอย่าง อิซัค ไป แต่แฟน นิวคาสเซิล ไม่สนใจอีกแล้ว เพราะพวกเขาได้ขวัญใจคนใหม่ที่ยิงมาแล้ว 3 นัดติดต่อกันในทุกรายการ
แถมนัดล่าสุด เขายังทำสถิติยิงใน เซนต์ เจมส์ พาร์ค ในเกมพรีเมียร์ลีก 3 นัดติด เทียบเท่ากับ เลส เฟอร์ดินาน และ อลัน เชียร์เรอร์ ดาวยิงระดับตำนานของ นิวคาสเซิล ที่ทำไว้ตั้งแต่ปี 1995 และ 1996 ตามลำดับ
และจนถึงตอนนี้ ก็น่าจะไม่มีใครตั้งคำถามถึงความคุ้มค่าเกี่ยวกับค่าตัวของ โวลเทอมาเดอ อีกแล้ว