มากกว่าสำรองของซาก้า: มาดูเอเก้คือจิ๊กซอว์ตัวใหม่ ในแผนของ อาร์เตต้า

Nopphasin Kulabburi

มากกว่าสำรองของซาก้า: มาดูเอเก้คือจิ๊กซอว์ตัวใหม่ ในแผนของ อาร์เตต้า image

อาร์เซน่อลกับเหตุผลที่อยากได้ โนนี่ มาดูเอเก้? ทั้งที่ซาก้ายังยืนหนึ่ง

หากคุณคือแฟนอาร์เซน่อล ข่าวลือเรื่องทีมรักเตรียมทุ่มเงิน 50 ล้านปอนด์เพื่อคว้าตัว โนนี่ มาดูเอเก้ จากเชลซี คงทำให้คุณงงไม่น้อย...เพราะตำแหน่งที่เขาเล่นถนัดที่สุดคือ "ปีกขวา" ซึ่งเป็นตำแหน่งเดียวกับ บูกาโย่ ซาก้า นักเตะที่ไม่มีใครในทีมทดแทนได้ และเป็นหัวใจสำคัญในแผนของมิเกล อาร์เตต้า

แล้วทำไมอาร์เซน่อลถึงต้องการจ่ายเงินมหาศาลเพื่อผู้เล่นที่อาจต้องเริ่มต้นจากม้านั่งสำรอง?

อาร์เซนอล ทำไมต้องอยากได้ มาดูเอเก้?

ซาก้าคือนักเตะประเภท “เล่นได้ทุกนัดโดยไม่บ่น”
ในฤดูกาล 2023/24 เขาลงสนามไปถึง 82% ของเวลาทั้งหมด และติดทีมทุกนัดถึง 92% ในช่วงสามฤดูกาลหลังสุด

แต่ถึงจะ “อึด” แค่ไหน เขาก็ยังเป็นมนุษย์
ปลายปี 2024 ซาก้าได้รับบาดเจ็บกล้ามเนื้อต้นขาหลัง (hamstring) จากเกมพบคริสตัล พาเลซ และต้องพักยาวถึง 3 เดือน ซึ่งเป็นช่วงที่อาร์เซน่อลสะดุดอย่างหนัก เพราะไม่มีใครมาแทนเขาได้อย่างเทียบเท่า

อาร์เตต้าจึงมองว่าทีมต้องมีปีกขวาอีกคนที่ ดีพอ ให้ซาก้าได้พัก และ มีศักยภาพ พอจะผลักดันตำแหน่งกันเองในระยะยาว

มาดูเอเก้มีดียังไง?

แม้มาดูเอเก้จะเล่นปีกขวาเป็นหลักกับเชลซี (ถึง 84% ของนาทีทั้งหมด) แต่เขาก็เริ่มถูกปรับไปเล่นฝั่งซ้ายช่วงท้ายฤดูกาลที่แล้ว และแม้ตัวเลขจะยังน้อย (เพียง 398 นาทีในรอบ 2 ปี) แต่ผลงานของเขากลับ “ดูดี” กว่าหลายคนที่เล่นฝั่งซ้ายเป็นประจำ เช่น มูดริก, สเตอร์ลิง หรือแม้แต่ซานโช่

ในเกมกับ ลิเวอร์พูล, แมนฯ ยูไนเต็ด และนิวคาสเซิล ช่วงท้ายฤดูกาล 2024/25 มาดูเอเก้ได้โอกาสเป็นตัวจริงฝั่งซ้าย และเล่นได้อย่างน่าสนใจ เขาโชว์ให้เห็นว่าตัวเองมี ความหลากหลาย ในการเล่นได้ทั้งสองเท้า (ใช้เท้าซ้ายยิง 65.8% / เท้าขวา 34.2%) ซึ่งหาได้ยากในหมู่ปีกเท้าซ้าย

ไม่ใช่แค่ตัวพาบอล…แต่ตัววิ่งทำลายแนวรับ

แม้หลายคนมองว่ามาดูเอเก้เป็นตัวเลี้ยงจี้ฝั่งขวา (และเขาก็ทำได้ดีเป็นอันดับ 1 พรีเมียร์ลีกในแง่ "เลี้ยงจบด้วยการยิง" ที่ 1.6 ครั้งต่อ 90 นาที) แต่สิ่งที่ทำให้เขาน่าสนใจกว่านั้นคือ

“การวิ่งไม่มีบอล”

มาดูเอเก้ติดท็อป 5 พรีเมียร์ลีกในด้าน “การวิ่งทำลายแนวรับจนไปจบที่ในเขตโทษ” (7.7 ครั้งต่อ 90 นาที) และในบรรดาผู้เล่นที่ทำอย่างน้อย 200 ครั้ง มีเพียงสองคนเท่านั้นที่มีอัตราสำเร็จดีกว่าเขา (เช่น โม ซาลาห์ กับ แม็ค อัลลิสเตอร์)

ในเกมที่เขาลงเล่นฝั่งซ้ายกับแมนฯ ยูไนเต็ด เขาวิ่งสอดขึ้นมาสองครั้งจากริมเส้นจนได้จังหวะยิงแบบจัง ๆ—แม้สุดท้ายจะพลาดไป แต่การเคลื่อนที่ของเขาเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้จังหวะเหล่านั้นเกิดขึ้น

บทสรุป: สำรองที่อาจไม่ใช่แค่สำรอง

ในยุคที่การหมุนเวียนนักเตะกลายเป็นสิ่งจำเป็น ทีมใหญ่ไม่มีทางฝากอนาคตไว้กับ “ตัวจริงคนเดียวตลอดฤดูกาล” ได้อีกต่อไป

มาดูเอเก้อาจไม่ได้มาเพื่อแย่งตำแหน่งซาก้าในทันทีแต่เขาคือคนที่ ดีพอจะรับช่วง เมื่อซาก้าลงไม่ได้ และ อาจเป็นตัวจริงฝั่งซ้าย ได้หากมาร์ติเนลลี่ยังไม่ฟื้นฟอร์ม

และที่สำคัญเขาเพิ่งอายุ 23 เท่านั้น ยังมีเวลาให้พัฒนาอีกมากการจ่าย 50 ล้านเพื่อคนที่มีของแบบนี้อาจไม่ใช่เรื่องแพงเลยก็ได้

บทความที่เกี่ยวข้อง

Nopphasin Kulabburi

นักเขียน Sporting News Thailand ที่ติดตามทั้งกีฬาฟุตบอล, บาสเก็ตบอล รวมถึงแวดวงอีสปอร์ต