ย้อนกลับไปเมื่อ 2 ปีก่อน ซานติ กาซอร์ลา ในวัยที่โรยรา ขาเต็มไปด้วยบาดแผลจากการผ่าตัด ได้มีโอกาสกลับมาค้าแข้งกับ เรอัล โอเบียโด สโมสรในวัยเด็กของเขา
เป้าหมายของเขาคือการพาทีมบ้านเกิด กลับไปเล่นในลาลีกา เวทีที่ไม่ได้สัมผัสมากว่า 2 ทศวรรษ นับตั้งแต่ตกชั้นลงไปในลีกรองตั้งแต่ฤดูกาล 2000/01
แต่ตอนนี้ กาซอร์ลา ทำได้สำเร็จ แถมเขายังเป็นมีส่วนสำคัญกับการเลื่อนชั้นนี้ ติดตามเรื่องราว ที่นึกว่าหลุดมาจากมังงะไปพร้อมกัน
สโมสรวัยเด็ก
ซานติ กาซอร์ลา ผูกพันกับ เรอัล โอเบียโด มาตั้งแต่เด็ก เพราะเขาคือคนท้องถิ่น ที่มีบ้านเกิดอยู่ห่างจากสโมสรแค่ 30 นาที แถมพ่อของเขา โฆเซ มานูเอล ก็เป็นแฟนของทีมนี้
แต่ชีวิตของเขากับ โอเบียโด ก็ไม่ได้สวยงาม เพราะทั้งที่เข้ามาอยู่กับทีมตอนอายุ 8 ขวบ แต่ตอนอายุ 18 ปี เขากลับถูกปล่อยตัวออกจากทีม โดยที่ไม่มีโอกาสได้ลงสนามให้กับบ้านเกิดแม้แต่นัดเดียว
กาซอร์ลา ย้ายไปเติบโตกับ บียาร์เรอัล รวมถึงสร้างชื่อกับ มาลากา จนได้ค้าแข้งกับ อาร์เซนอล ในพรีเมียร์ลีก และเป็นกำลังสำคัญช่วยให้ทัพปืนใหญ่คว้าแชมป์เอฟเอคัพถึง 2 สมัย ก่อนจะกลับมาอยู่กับ “เรือดำน้ำสีเหลือง” อีกครั้งในปี 2018

แม้ว่าเส้นทางอาชีพของ กาซอร์ลา จะไปได้สวย แต่ โอเบียโด ดูเหมือนจะตรงข้าม เพราะหลังจากร่วงตกชั้นจากลาลีกาในปี 2001 พวกเขายังตกชั้นลงไปเล่นใน ดิวิชั่น 4 อีกหลายฤดูกาล
นอกจากนี้ โอเบียโด ยังประสบปัญหาทางการเงิน จนเกือบจะล้มมิล้มแหล่อยู่หลายครั้ง โดยเฉพาะในปี 2012 ที่ กาซอร์ลา และ อดีตเยาวชนของสโมสร อย่าง ฆวน มาตา และ มิชู ต้องเข้ามาช่วยระดมทุน จนได้เงินมา 2 ล้านยูโร ช่วยเซฟให้ทีมไม่ล้มละลาย
กาซอร์ลา มีความรู้สึมาตลอดว่าอยากจะช่วยฟื้นฟูสโมสรที่เขารักจากความตกต่ำ จนกระทั่งในปี 2023 ก็เป็นช่วงเวลาที่เหมาะเจาะพอดี เมื่อเขาหมดสัญญากับ อัล ซาดด์ และตัดสินใจเซ็นสัญญา 1 ปี กับ โอเบียโด ที่ตอนนั้นเล่นอยู่ในลีกระดับ 2 อย่าง เซกุนดา ดิวิชั่น

ด้วยความที่อยากจะช่วย โอเบียโด ให้มากที่สุด เขาจึงขอรับค่าเหนื่อยขั้นต่ำของสโมสร และไม่ขอรับโบนัส แถมส่วนแบ่ง 10 เปอร์เซ็นต์ ของเงินที่ขายเสื้อเขาได้ จะถูกส่งต่อให้อคาเดมีของทีม
“ผมจะเล่นให้โดยไม่รับเงินเลย แต่พวกเขาไม่อนุญาต” ซานติ กาซอร์ลา กล่าว
ทุกอย่างดูเหมือนจะไปได้สวย แต่ตอนนั้น กาซอร์ลา อยู่ในวัย 38 ปีแล้ว และยังเคยบาดเจ็บจนต้องพักไปเกือบ 2 ปี ขณะที่ขาก็ยังเต็มไปด้วยบาดแผลจากการผ่าตัดถึง 12 ครั้ง จนทำให้หมอบอกว่าแค่กลับมาเดินก็ดีแค่ไหนแล้ว
ราวกับว่า “เป็นคนที่ใช่ในเวลาที่ผิด” เพราะแม้จะได้กลับมาช่วยทีม แต่ก็ไม่รู้ว่าร่างกายจะไหวแค่ไหน
ก้าวข้ามขีดจำกัด
ในฤดูกาลแรกของ กาซอร์ลา กับ อัลเบียโด เขาอาจจะเจอกับอาการบาดเจ็บเล่นงาน แต่ก็ยังลงช่วยทีมไปถึง 24 นัด และทำไป 4 แอสซิสต์ ช่วยให้สโมสร จบในอันดับ 6 ของตาราง และได้สิทธิ์เข้าไปเล่นในรอบเพลย์ออฟเลื่อนชั้น
อย่างไรก็ดี มันก็ดีที่สุดแค่นั้น เมื่อ โอเบียโด พ่ายให้กับ เอสปันญอล ในนัดชิงชนะเลิศเพลย์ออฟ ด้วยสกอร์รวม 2-1 ไปอย่างชอกช้ำ
ฤดูกาลต่อมา กาซอร์ลา ยังอยู่กับทีมต่อ แม้เข้าสู่วัย 40 ปีแล้ว แต่ถึงอย่างนั้น มันกลับเป็นฤดูกาลที่ เขาเฉิดฉายมากที่สุด หลังทำไป 3 ประตูกับ 5 แอสซิสต์ พา โอเบียโด จบในอันดับ 3 ห่างจากโซนเลื่อนชั้นอัตโนมัติแค่ 2 แต้ม
ทั้งนี้ ดูเหมือนว่าการกลับมาเพลย์ออฟ ก็ทำให้ฝันร้ายกลับมาหลอกหลอนอีกครั้ง เพราะฤดูกาลที่แล้ว โอเบียโด ก็ต้องอกหักจากรอบนี้ แต่ กาซอร์ลา ก็ไม่ยอมให้มันเป็นอย่างนั้น

ในเกมรอบรองชนะเลิศนัดแรกกับ อัลเมเรีย เขาช่วยให้ทีมบุกไปคว้าชัยเหนือคู่แข่งมาได้ 1-2 ก่อนที่เกมนัดที่ 2 เขาจะเป็นคนยิงฟรีคิกตีเสมอให้ทีม 1-1 ที่กลายเป็นประตูชัย พา โอเบียโด เข้าสู่นัดชิงชนะเลิศเพลย์ออฟเลื่อนชั้น
ทว่า ในเกมแรกกับ มิรันเดส เขาทำได้เพียงดูเกมอย่างหงุดหงิดอยู่บนอัฒจันทร์ หลังได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่า ที่สุดท้าย โอเบียโด ต้องเสียเปรียบ หลังบุกไปพ่ายมา 1-0
เกมนัดที่ 2 กาซอร์ลา ได้กลับมาสวมปลอกแขวนลงเล่นเป็น 11 ตัวจริง เงื่อนไขในวันนี้คือต้องชนะเท่านั้น และในนาทีที่ 39 โอเบียโด ก็มาลุ้น เมื่อทีมมาได้ลูกโทษที่จุดโทษ
ผู้รับหน้าที่สังหารคือ กาซอร์ลา เขาหยิบบอลมาวางอย่างบรรจง ก่อนจะยิงไปที่กลางประตู ให้ทีมตีเสมอ 1-1 สกอร์รวมไล่มา 2-1 ท่ามกลางเสียเฮลั่นสนาม เอสตาดิโอ คาร์ลอส ตาติเอเร
จากนั้นในช่วงครึ่งหลัง โอเบียโด มาได้ประตูแซง 2-1 จาก อิลยาส ไชรา ที่ทำให้สกอร์รวมเสมอกัน 2-2 ก่อนที่ ฟรานซิสโก ปอร์ติญโญ จะกลายเป็นซูเปอร์ซับ ยิงประตูชัย ในช่วงเวลาพิเศษ ช่วยให้ทีมเอาชนะไปได้ด้วยสกอร์รวม 3-2

หลังจากนั้น มันก็กลายเป็นความโกลาหล เพราะมันหมายความว่า โอเบียโด ได้เลื่อนชั้นกลับไปเล่นในลาลีกาเป็นครั้งแรกในรอบ 24 ปี ผู้คนมากมาย ลงมาในสนามเพื่อฉลอง ขณะที่ กาซอร์ลา ถูกแบกขึ้นหลัง ทั้งในฐานะความหวัง และฮีโรของทีม
“หลายปีที่เราต้องอยู่ในโคลน นี่จึงเป็นเกมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของผม” กาซอร์ลา กล่าวหลังเกม
มันคือสิ่งที่แฟนบอล และ กาซอร์ลา รอคอยมานาน สำหรับสโมสรที่ต้องผ่านอะไรมากมาย ทั้งตกชั้นลงไปเล่นในดิวิชั่น 4 หรือมีปัญหาทางการเงินจนเกือบล้มละลาย
และนี่ก็คือผลตอบแทนที่พวกเขาควรได้รับ เหมือนกับที่เขียนไว้บน Tifo ในเกมนัดประวัติศาสตร์เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า “ภูมิใจที่ไม่เคยทอดทิ้ง”
“มันบ้ามากๆ และตลกจริงๆ ที่ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิตของผมคือตอนอายุ 40 ปี” กาซอร์ลา กล่าวพร้อมกับมองฝูงชน ที่ออกมาฉลองที่ย่านในกลางเมืองที่เรียกว่า อเวนิดา กาลิเซีย
“ผมโชคดีจริงๆ ที่ได้รักสิ่งดีๆ ผมเคยคว้าแชมป์ และถ้วยรางวัลมาแล้ว แต่ผมก็ถูกเลี้ยงดูจาก โอเบียโด มาตั้งแต่เด็กๆ ความรู้สึกที่นี่มันต่างออกไป นี่เป็นสิ่งพิเศษ”