ยิ่งกว่ามังงะ : ความรักของ "ซานติ กาซอร์ลา" ที่พา โอเบียโด กลับสู่ลาลีกา ในรอบ 24 ปี

Maruak Tanniyom

ยิ่งกว่ามังงะ : ความรักของ "ซานติ กาซอร์ลา" ที่พา โอเบียโด กลับสู่ลาลีกา ในรอบ 24 ปี  image

ย้อนกลับไปเมื่อ 2 ปีก่อน ซานติ กาซอร์ลา ในวัยที่โรยรา ขาเต็มไปด้วยบาดแผลจากการผ่าตัด ได้มีโอกาสกลับมาค้าแข้งกับ เรอัล โอเบียโด สโมสรในวัยเด็กของเขา 

เป้าหมายของเขาคือการพาทีมบ้านเกิด กลับไปเล่นในลาลีกา เวทีที่ไม่ได้สัมผัสมากว่า 2 ทศวรรษ นับตั้งแต่ตกชั้นลงไปในลีกรองตั้งแต่ฤดูกาล 2000/01 

แต่ตอนนี้ กาซอร์ลา ทำได้สำเร็จ แถมเขายังเป็นมีส่วนสำคัญกับการเลื่อนชั้นนี้ ติดตามเรื่องราว ที่นึกว่าหลุดมาจากมังงะไปพร้อมกัน

สโมสรวัยเด็ก 

ซานติ กาซอร์ลา ผูกพันกับ เรอัล โอเบียโด มาตั้งแต่เด็ก เพราะเขาคือคนท้องถิ่น ที่มีบ้านเกิดอยู่ห่างจากสโมสรแค่ 30 นาที แถมพ่อของเขา โฆเซ มานูเอล ก็เป็นแฟนของทีมนี้ 

แต่ชีวิตของเขากับ โอเบียโด ก็ไม่ได้สวยงาม เพราะทั้งที่เข้ามาอยู่กับทีมตอนอายุ 8 ขวบ แต่ตอนอายุ 18 ปี เขากลับถูกปล่อยตัวออกจากทีม โดยที่ไม่มีโอกาสได้ลงสนามให้กับบ้านเกิดแม้แต่นัดเดียว 

กาซอร์ลา ย้ายไปเติบโตกับ บียาร์เรอัล รวมถึงสร้างชื่อกับ มาลากา จนได้ค้าแข้งกับ อาร์เซนอล ในพรีเมียร์ลีก และเป็นกำลังสำคัญช่วยให้ทัพปืนใหญ่คว้าแชมป์เอฟเอคัพถึง 2 สมัย ก่อนจะกลับมาอยู่กับ “เรือดำน้ำสีเหลือง” อีกครั้งในปี 2018 

แม้ว่าเส้นทางอาชีพของ กาซอร์ลา จะไปได้สวย แต่ โอเบียโด ดูเหมือนจะตรงข้าม เพราะหลังจากร่วงตกชั้นจากลาลีกาในปี 2001 พวกเขายังตกชั้นลงไปเล่นใน ดิวิชั่น 4 อีกหลายฤดูกาล

นอกจากนี้ โอเบียโด ยังประสบปัญหาทางการเงิน จนเกือบจะล้มมิล้มแหล่อยู่หลายครั้ง โดยเฉพาะในปี 2012 ที่ กาซอร์ลา และ อดีตเยาวชนของสโมสร อย่าง ฆวน มาตา และ มิชู ต้องเข้ามาช่วยระดมทุน จนได้เงินมา 2 ล้านยูโร ช่วยเซฟให้ทีมไม่ล้มละลาย 

กาซอร์ลา มีความรู้สึมาตลอดว่าอยากจะช่วยฟื้นฟูสโมสรที่เขารักจากความตกต่ำ จนกระทั่งในปี 2023 ก็เป็นช่วงเวลาที่เหมาะเจาะพอดี เมื่อเขาหมดสัญญากับ อัล ซาดด์ และตัดสินใจเซ็นสัญญา 1 ปี กับ โอเบียโด ที่ตอนนั้นเล่นอยู่ในลีกระดับ 2 อย่าง เซกุนดา ดิวิชั่น

 
   
ด้วยความที่อยากจะช่วย โอเบียโด ให้มากที่สุด เขาจึงขอรับค่าเหนื่อยขั้นต่ำของสโมสร และไม่ขอรับโบนัส แถมส่วนแบ่ง 10 เปอร์เซ็นต์ ของเงินที่ขายเสื้อเขาได้ จะถูกส่งต่อให้อคาเดมีของทีม 

“ผมจะเล่นให้โดยไม่รับเงินเลย แต่พวกเขาไม่อนุญาต” ซานติ กาซอร์ลา กล่าว

ทุกอย่างดูเหมือนจะไปได้สวย แต่ตอนนั้น กาซอร์ลา อยู่ในวัย 38 ปีแล้ว และยังเคยบาดเจ็บจนต้องพักไปเกือบ 2 ปี ขณะที่ขาก็ยังเต็มไปด้วยบาดแผลจากการผ่าตัดถึง 12 ครั้ง จนทำให้หมอบอกว่าแค่กลับมาเดินก็ดีแค่ไหนแล้ว 

ราวกับว่า “เป็นคนที่ใช่ในเวลาที่ผิด” เพราะแม้จะได้กลับมาช่วยทีม แต่ก็ไม่รู้ว่าร่างกายจะไหวแค่ไหน

ก้าวข้ามขีดจำกัด 

ในฤดูกาลแรกของ กาซอร์ลา กับ อัลเบียโด เขาอาจจะเจอกับอาการบาดเจ็บเล่นงาน แต่ก็ยังลงช่วยทีมไปถึง 24 นัด และทำไป 4 แอสซิสต์ ช่วยให้สโมสร จบในอันดับ 6 ของตาราง และได้สิทธิ์เข้าไปเล่นในรอบเพลย์ออฟเลื่อนชั้น 

อย่างไรก็ดี มันก็ดีที่สุดแค่นั้น เมื่อ โอเบียโด พ่ายให้กับ เอสปันญอล ในนัดชิงชนะเลิศเพลย์ออฟ ด้วยสกอร์รวม 2-1 ไปอย่างชอกช้ำ 

ฤดูกาลต่อมา กาซอร์ลา ยังอยู่กับทีมต่อ แม้เข้าสู่วัย 40 ปีแล้ว แต่ถึงอย่างนั้น มันกลับเป็นฤดูกาลที่ เขาเฉิดฉายมากที่สุด หลังทำไป 3 ประตูกับ 5 แอสซิสต์ พา โอเบียโด จบในอันดับ 3 ห่างจากโซนเลื่อนชั้นอัตโนมัติแค่ 2 แต้ม 

ทั้งนี้ ดูเหมือนว่าการกลับมาเพลย์ออฟ ก็ทำให้ฝันร้ายกลับมาหลอกหลอนอีกครั้ง เพราะฤดูกาลที่แล้ว โอเบียโด ก็ต้องอกหักจากรอบนี้ แต่ กาซอร์ลา ก็ไม่ยอมให้มันเป็นอย่างนั้น 

ในเกมรอบรองชนะเลิศนัดแรกกับ อัลเมเรีย เขาช่วยให้ทีมบุกไปคว้าชัยเหนือคู่แข่งมาได้ 1-2 ก่อนที่เกมนัดที่ 2 เขาจะเป็นคนยิงฟรีคิกตีเสมอให้ทีม 1-1 ที่กลายเป็นประตูชัย พา โอเบียโด เข้าสู่นัดชิงชนะเลิศเพลย์ออฟเลื่อนชั้น 

ทว่า ในเกมแรกกับ มิรันเดส เขาทำได้เพียงดูเกมอย่างหงุดหงิดอยู่บนอัฒจันทร์ หลังได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่า ที่สุดท้าย โอเบียโด ต้องเสียเปรียบ หลังบุกไปพ่ายมา 1-0 

เกมนัดที่ 2 กาซอร์ลา ได้กลับมาสวมปลอกแขวนลงเล่นเป็น 11 ตัวจริง เงื่อนไขในวันนี้คือต้องชนะเท่านั้น และในนาทีที่ 39 โอเบียโด ก็มาลุ้น เมื่อทีมมาได้ลูกโทษที่จุดโทษ 

ผู้รับหน้าที่สังหารคือ กาซอร์ลา เขาหยิบบอลมาวางอย่างบรรจง ก่อนจะยิงไปที่กลางประตู ให้ทีมตีเสมอ 1-1 สกอร์รวมไล่มา 2-1 ท่ามกลางเสียเฮลั่นสนาม เอสตาดิโอ คาร์ลอส ตาติเอเร 

จากนั้นในช่วงครึ่งหลัง โอเบียโด มาได้ประตูแซง 2-1 จาก อิลยาส ไชรา ที่ทำให้สกอร์รวมเสมอกัน 2-2 ก่อนที่ ฟรานซิสโก ปอร์ติญโญ จะกลายเป็นซูเปอร์ซับ ยิงประตูชัย ในช่วงเวลาพิเศษ ช่วยให้ทีมเอาชนะไปได้ด้วยสกอร์รวม 3-2 

หลังจากนั้น มันก็กลายเป็นความโกลาหล เพราะมันหมายความว่า โอเบียโด ได้เลื่อนชั้นกลับไปเล่นในลาลีกาเป็นครั้งแรกในรอบ 24 ปี ผู้คนมากมาย ลงมาในสนามเพื่อฉลอง ขณะที่ กาซอร์ลา ถูกแบกขึ้นหลัง ทั้งในฐานะความหวัง และฮีโรของทีม 

“หลายปีที่เราต้องอยู่ในโคลน นี่จึงเป็นเกมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของผม” กาซอร์ลา กล่าวหลังเกม 

มันคือสิ่งที่แฟนบอล และ กาซอร์ลา รอคอยมานาน สำหรับสโมสรที่ต้องผ่านอะไรมากมาย ทั้งตกชั้นลงไปเล่นในดิวิชั่น 4 หรือมีปัญหาทางการเงินจนเกือบล้มละลาย 

และนี่ก็คือผลตอบแทนที่พวกเขาควรได้รับ เหมือนกับที่เขียนไว้บน Tifo ในเกมนัดประวัติศาสตร์เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า “ภูมิใจที่ไม่เคยทอดทิ้ง” 

“มันบ้ามากๆ และตลกจริงๆ ที่ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิตของผมคือตอนอายุ 40 ปี” กาซอร์ลา กล่าวพร้อมกับมองฝูงชน ที่ออกมาฉลองที่ย่านในกลางเมืองที่เรียกว่า อเวนิดา กาลิเซีย 

“ผมโชคดีจริงๆ ที่ได้รักสิ่งดีๆ ผมเคยคว้าแชมป์ และถ้วยรางวัลมาแล้ว แต่ผมก็ถูกเลี้ยงดูจาก โอเบียโด มาตั้งแต่เด็กๆ ความรู้สึกที่นี่มันต่างออกไป นี่เป็นสิ่งพิเศษ” 

 

บทความที่เกี่ยวข้อง

Maruak Tanniyom

ลีดส์ ยูไนเต็ด, ญี่ปุ่น, มังงะ