ขาเข้าอย่างต่อเนื่องสำหรับ ท็อตแนมป์ ฮ็อตสเปอร์ หลังล่าสุดคว้าตัว โมฮัมเหม็ด คูดุส ปีกชาวกานาของ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด มาร่วมทัพ ด้วยค่าตัว 55 ล้านปอนด์
อย่างไรก็ดี นี่ถือเป็นนักเตะคนแรกที่ย้ายจาก เวสต์แฮมไป สเปอร์ส โดยตรงในรอบ 14 ปี โดยคนสุดท้ายคือ สก็อตต์ ปาร์คเกอร์ ในปี 2011
เพราะเหตุใด ทั้งสองสโมสรจึงไม่ค่อยซื้อขายนักเตะกัน และบางทีมันอาจจะเป็นมากกว่าแค่คู่ปรับ? ติดตามไปพร้อมกัน
ไม่อยากยื่นหอกให้ศัตรู
อย่างที่ทราบกันดีว่า ทั้งเวสต์แฮม และ สเปอร์ส ต่างเป็นสโมสรจากลอนดอนเหมือนกัน แถมยังมีประวัติศาสตร์ยาวนานในระดับเกิน 100 ปี ด้วยกันทั้งคู่ การไม่ถูกกันจึงเป็นเรื่องธรรมดา
นั่นจึงทำให้การทำธุรกิจระหว่างสองสโมสรจึงเป็นไปได้ยาก โดยครั้งหลังสุดต้องย้อนกลับไปในปี 2011 ในดีลของ สก็อต ปาร์คเกอร์ ที่ย้ายมาเล่นในถิ่นไวท์ฮาร์ทเลน ด้วยค่าตัว 5.5 ล้านปอนด์
หรือคนก่อนหน้านั้น ในรอบ 20 ปี ก็คือ จิมมี วอล์คเกอร์ ที่ย้ายไปเล่นให้ สเปอร์ส ภายใต้การคุมทีมของ แฮร์รี เรดแนปป์ เมื่อปี 2009

ทั้งนี้เหตุผลสำคัญก็คือ พวกเขาไม่อยากให้ผู้เล่นของตัวเอง ไปเสริมความแข็งแกร่งให้คู่แข่งร่วมเมือง จึงทำให้การซื้อขายส่วนใหญ่ มาจอดตั้งแต่การเริ่มต้นเจรจาด้วยซ้ำ
หรือหากมีการซื้อขายจริง ส่วนใหญ่ก็ไม่ใช่นักเตะตัวท็อป อย่าง ปาร์คเกอร์ ก็ย้ายไปตอนอายุ 31 ปี แล้ว ขณะที่ วอล์คเกอร์ ก็มีบทบาทในฐานะผู้รักษาประตูสำรองเท่านั้น
“เวสต์แฮม ไม่อยากขายนักเตะให้ สเปอร์ส และจากที่ ดีน โจนส์ กล่าวในพอดแคสต์ Ranks FC Ultras เหล่าแฮมเมอร์ส รู้สึกงงที่ สเปอร์ส พยายามจะเซ็นกองหน้าของพวกเขา” ชาร์ลส์ โจนส์ นักข่าวจาก TBR Football กล่าวในบทความของตัวเอง
อันที่จริง ไม่ใช่แค่กับ เวสต์แฮม เท่านั้น แต่ สเปอร์ส ก็ไม่ได้ซื้อขายผู้เล่นกับทีมคู่แข่งในลอนดอนมานานแล้วเช่นกัน
โดยคนล่าสุดคือ วิลเลียม กัลลาส ที่ย้ายจาก เชลซี มาอยู่กับพวกเขาเมื่อปี 2010 หรือก่อนหน้านั้นก็คือ คาร์โล คูดิชินี ที่ย้ายไปเฝ้าเสาให้ ไก่เดือยทองในปี 2009
อย่างไรก็ดี การไม่ทำธุรกิจกันของทั้งสองทีม มีเหตุผลมากกว่านั้น
ภาษีท็อตแนมป์?
แน่นอนว่าการเป็นคู่แข่งร่วมเมือง ทำให้ ทั้งเวสต์แฮม และ สเปอร์ส ไม่ค่อยซื้อขายนักเตะกัน แต่อุปสรรคที่ทำให้ดีลเกิดขึ้นได้ยากคือสิ่งที่เรียกว่า “ภาษีท็อตแนมป์”
ภาษีท็อตแนมป์ คือการแปะป้ายราคาขายนักเตะให้ สเปอร์ส ในราคาที่แพงเกินจริง หรือทำให้การเจรจาจากขึ้น เหตุผลส่วนหนึ่งก็เพื่อป้องกันไม่ให้ สเปอร์ส ดึงตัวของพวกเขาไป รวมถึงไม่อยากให้แฟนบอลต้องเดือดดาลที่ขายนักเตะให้คู่แข่ง
แต่ดูเหมือนว่า สเปอร์ส จะสามารถหลีกเลี่ยง “ภาษีท็อตแนมป์” ในดีลของ คูดุส ได้ เนื่องจากพวกเขาได้ตัวปีกชาวกานามาด้วยค่าตัวไม่ถูกไม่แพงคือ 54.5 ล้านปอนด์
“ค่าตัวราว 54.5 ล้านปอนด์ มีความหมายว่า สเปอร์ส สามารถเลี่ยง ‘ภาษีท็อตแนมป์’ ซึ่งรายงานกันอย่างแพร่หลายว่า เวสต์แฮม ไม่ค่อยเต็มใจที่จะทำธุรกิจกับทีมจากลอนดอนเหนือมาตั้งแต่ครั้งอดีต” ไมเคิล บริดจ์ จาก Sky Sports News อธิบาย
“เวสต์แฮม จะเอาเงินส่วนหนึ่งที่ได้จาก คุดุส มาให้ แกรห์ม พ็อตเตอร์ ได้จับจ่ายใช้สอย ซื้อผู้เล่นของตัวเอง แต่มันก็จะเต็มไปด้วยแรงกดดันมหาศาล ว่าต้องเป็นนักเตะที่ใช่”
“เนื่องจากแฟนเวสต์แฮมส่วนใหญ่ มีความรู้สึกกับ ดีล คูดุส ไป สเปอร์ส ใน X ตลอดทั้งอาทิตย์นี้ว่า ‘ใครก็ได้ที่ไม่ใช่พวกเขา’”

นอกจากนี้ การเล่นแง่ของ สเปอร์ส ก็เป็นอีกเหตุผลที่ทำให้ เวสต์แฮม ไม่อยากคุยด้วย และเพิ่งจะเห็นล่าสุดแบบสดๆ ร้อนๆ จากดีลของ คูดุส
ในตอนแรก สเปอร์ส ยื่นข้อเสนอซื้อตัว คูดุส เป็นจำนวนเงินตั้งต้น 50 ล้านปอนด์ บวกแอดออน 12 ล้านปอนด์ แต่ 10 ใน 12 ล้านปอนด์ ที่พวกเขาจะได้คือต้องคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก และยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ซึ่งเป็นไปได้ยากมาก
“มันบ้ามากๆ ผมได้คุยกับบางคนเมื่อวานนี้ และพวกเขาบอกว่าข้อเสนอต่อไปคือ 50 ล้านปอนด์ บวกแอดออน 12 ล้านปอนด์” ดีน โจนส์ กล่าวในพอดแคสต์ Ranks FC Ultras
“10 ล้านปอนด์ของแอดออน แบ่งเป็น 5 ล้านปอนด์ หาก สเปอร์ส คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก และอีก 5 ล้านปอนด์ หากพวกเขาคว้าแชมป์ แชมเปียนส์ลีก”
“เวสต์แฮม กำลังคิดว่า ‘พวกมึ*เล่นอะไรกัน?’ พวกเขาบอกว่าราคานี้ ก็ไม่มีวัน”
สิ่งเหล่านี้คือปัจจัยที่ทำให้พวกเขาไม่ค่อยได้ซื้อขายระหว่างกัน แถมในปัจจุบันตลาดนักเตะก็มีเครือข่ายกว้างไกลไปทั่วโลก การซื้อนักเตะจากทีมคู่แข่งอาจจะไม่ได้จำเป็นมากนัก
จะมีเพียงเคสล่าสุดที่เป็นข้อยกเว้น เพราะ คูดุส คือนักเตะที่ โธมัส แฟรงค์ กุนซือคนใหม่ของ สเปอร์ส ต้องการจริง ๆ จนเกิดมาเป็นดีลที่หาได้ยากในรอบเกือบ 15 ปี