โป๊กเกอร์ กับ ฟุตบอล เป็นกีฬาที่แตกต่างกันคนละขั้ว และใช้ความรู้ความสามารถคนละแขนง
แต่ใครจะเชื่อว่า “แม็กซิมิเลียน เซนฟ์” อดีตนักกีฬาโป๊กเกอร์อาชีพ จะใช้เวลาเพียง 10 ปีเท่านั้น ผันตัวจากนักวางกลยุทธ์บนกระดาน มาเป็นผู้วางหมากบนสนามหญ้าได้อย่างน่าทึ่ง เรื่องราวของเขาเป็นเช่นไร? ติดตามได้ที่นี่
แม็กซิมิเลียน เซนฟ์ : จากนักโป๊กเกอร์อาชีพสู่กุนซือดาวรุ่งผู้น่าจับตา
แม็กซิมิเลียน เซนฟ์ มีความฝันเหมือนกับเด็กผู้ชายทั่วไป ที่ต้องการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ แต่น่าเสียดายที่มันไม่เคยเกิดขึ้นกับเขาเลย เนื่องจากตลอดการค้าแข้งเขาได้เล่นเพียงฟุตบอลสมัครเล่นในลีกระดับล่างของออสเตรียเพียงเท่านั้น ควบคู่ไปกับการเรียนเศรษฐศาสตร์ที่ Vienna University of Economics and Business
นอกเหนือจากเกมลูกหนังแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่ เซนฟ์ นั้นหลงไหลไม่ต่างกันก็คือกีฬาโป๊กเกอร์ ถึงขนาดเทิร์นโปรเป็นนักกีฬาอาชีพเดินทางไปทำการแข่งขันทั่วโลก โดยผลงานที่ดีที่สุดคือการคว้าอันดับ 11 ในการแข่งขัน World Series of Poker 2014 ที่ลาส เวกัส พร้อมว้าเงินรางวัลไปราว ๆ 500,000 ดอลลาร์สหรัฐ
😯 Was ein teurer Coinflip ⚖ für Maximilian Senft 🇦🇹 #wsopclassics #wsopmoments #wsop
— GGPoker Deutschland (@GGPokerDE) May 9, 2024
Was war der wichtigste #COINFLIP in eurer bisherigen #Poker #Karriere? Und wie ist er ausgegangen? pic.twitter.com/bAmkldKFgV
แม้ดูจะไปได้สวยกับการเป็นนักโป๊กเกอร์อาชีพ แต่ความรักที่มีต่อ “ฟุตบอล” ก็ไม่เคยจางหายไปไหนเลย นั่นจึงทำให้ เซนฟ์ ตัดสินใจสมัครเรียนหลักสูตรโค้ช และศึกษาต่อปริญญาโทด้านการฝึกอบรมและกีฬาที่ University of Applied Sciences Wiener Neustadt ซึ่งนี่เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาได้เข้าสู่วงการฟุตบอลอาชีพตามที่ฝันใฝ่
เซนฟ์ เริ่มต้นอาชีพด้วยทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยโค้ชและนักวิเคราะห์เกมกับทีมระดับล่างของออสเตรีย ก่อนที่ในปี 2018 จะได้รับโอกาสสำคัญจากสโมสรชั้นนำของประเทศอย่าง ออสเตรีย เวียนนา ให้มาทำหน้าที่นักวิเคราะห์ อีกทั้งยังเคยผ่านการทำงานที่อังกฤษกับ บาร์นสลีย์ มาแล้วเช่นกัน ในฐานะผู้ช่วยของ เจอร์ฮาร์ด สตรูเบอร์ กุนซือคนบ้านเดียวกัน
Viola TV: Maximilian Senft im Porträt https://t.co/MWK6SEhSIO pic.twitter.com/pUJKScH9uD
— FK Austria Wien (@FKAustriaWien) August 15, 2018
แต่แล้วในปี 2020 เซนฟ์ ก็ได้เป็นกุนซือใหญ่อย่างเต็มตัว เมื่อ พินคาเฟลด์ ทาบทามเขาให้มาเป็นผู้จัดการทีม ก่อนอยู่กับทีมเป็นเวลา 2 ปี ก็โยกไปคุมทีมสำรองของ เอสเฟา รีด กระทั่งเดือนมีนาคม 2023 เขาได้รับการแต่งตั้งเป็นกุนซือของทีมชุดใหญ่ด้วยวัยเพียง 34 ปีเท่านั้น โดยมีภารกิจคือการพาสโมสรแห่งนี้เลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุดให้จงได้
แม้จะอายุยังน้อย ไร้ประสบการณ์ในการแข่งขันระดับสูง แต่ปรากฎว่าอดีตนักโป๊กเกอร์รายนี้กลับทำผลงานได้ยอดเยี่ยมอย่างน่าเหลือเชื่อ
ฤดูกาลที่เข้ามารับเผือกร้อนเขาพาทีมจบอันดับ 6 ส่วนฤดูกาลถัดมาเขาพาทีมจบอันดับที่ 2 พลาดการเลื่อนชั้นอย่างน่าเสียดาย กระทั่งฤดูกาล 2024-25 เขาก็พาทีมเลื่อนชั้นสู่ ออสเตรีย บุนเดสลีกา ได้สำเร็จ ในฐานะแชมป์ลีกรอง ซึ่งนับเป็นการกลับสู่ลีกสูงสุดครั้งแรกในรอบ 3 ปี ของ เอสเฟา รีด อีกด้วย
“ผมว่าโป๊กเกอร์และฟุตบอลต่างก็เป็นเกมที่มีข้อมูลไม่ครบถ้วน” แมกซิมิเลียน เซนฟ์ กล่าวกับ The Athletic
“คุณไม่มีทางรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า และคุณไม่รู้ว่าคู่ต่อสู้ของคุณมีไพ่ใบไหน ซึ่งก็เหมือนกันในฟุตบอล การปรับตัวเข้ากับคู่ต่อสู้เป็นเรื่องสำคัญมาก และนี่คือกระบวนการที่ไม่เคยหยุดนิ่งตลอด 90 นาที”
“ถ้าผมรู้ว่าผู้รักษาประตูของผมเก่งเรื่องการออกบอลยาว ผมจะสามารถนำจุดแข็งของเขามาประยุกต์ใช้กับแนวคิดของเราได้อย่างไร? ถ้าผมมีผู้เล่นที่เลี้ยงบอลเก่ง เราจำเป็นต้องใช้แนวคิดนี้ในการเล่นของเรา ตรรกะของเราจะถูกตีความให้สอดคล้องกับจุดแข็งของผู้เล่น”
“ถ้าผมคิดว่าการตัดสินใจของผมดีที่สุด ผมก็จะทำตามนั้น บางครั้งคุณคือฮีโร่ และบางครั้งคุณคือคนที่ไม่เข้าใจฟุตบอลเลย และไม่ควรเป็นโค้ชด้วยซ้ำ ตลอดทั้งสัปดาห์ หน้าที่ของโค้ชคือการเตรียมทีมให้พร้อมสำหรับช่วงเวลาที่พวกเขาต้องรับผิดชอบมากขึ้น และยิ่งสำคัญมากขึ้นไปอีกเมื่อจบเกม”
“เมื่อคุณต้องการถ่ายทอดข้อความของคุณไปยังผู้เล่น นี่คือจุดที่คุณต้องใช้อารมณ์ความรู้สึกทั้งหมด และคุณต้องสร้างความสัมพันธ์กับผู้เล่น เพื่อให้พวกเขาไว้วางใจและเชื่อมั่นในไอเดียของคุณ”
“ถ้าไม่มีความสัมพันธ์และอารมณ์ มันจะไม่เวิร์ค ในโป๊กเกอร์ผมไม่จำเป็นต้องโน้มน้าวใคร เพราะผมเล่นเพื่อตัวเอง แต่ในฐานะหัวหน้าโค้ช คุณต้องโน้มน้าวทีม บอร์ดบริหาร และแฟน ๆ ให้ได้ ดังนั้นองค์ประกอบด้านอารมณ์และความสัมพันธ์จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง”
เอสเฟา รีด ภายใต้การคุมทีมของ แม็กซิมิเลียน เซนฟ์ เริ่มต้นใน ออสเตรีย บุนเดสลีกา ฤดูกาล 2025-26 ได้อย่างน่าสนใจ หลังประเดิมสนามด้วยการเปิดบ้านเสมอมหาอำนาจลูกหนังของประเทศอย่าง เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก 2-2 ชนิดที่มาเสียประตูตีเสมอในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ