เฮดโค้ชชาวบราซิลอธิบายว่าทำไมการทำงานเป็นโค้ชที่เวียดนามถึงง่ายมากกว่าไทย
เกรงใจรุ่นใหญ่
เกมแรกของทีมชาติไทยในยุคของ แอนโธนี ฮัดสัน ที่เอาชนะสิงคโปร์ 3-2 แฟนบอลไทยต่างคอมเมนต์ไปในทิศทางเดียวกันว่าสไตล์การเล่นแบบนี้คล้าย ๆ กับตอนที่ มาโน โพลกิ้ง เฮดโค้ชชาวบราซิลทำแล้วได้แชมป์อาเซียนคัพ 2 สมัย
ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเน้นเปิดเกมรุกแบบเต็มสูบ รวมไปถึงการเรียกตัวผู้เล่นติดทีมมา ที่มักจะมีนักเตะซีเนียร์อยู่หลายคน ต่างจาก มาซาทาดะ อิชิอิ ที่ต้องการจะสร้างช้างศึกเจนใหม่ขึ้นมา
อย่างไรก็ดี ล่าสุด อดีตเฮดโค้ชของ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่าจริง ๆ แล้วตอนนี้ที่เขาคุม คอง อัน ฮานอย ที่เวียดนาม เป็นงานที่ง่ายกว่าตอนทำอยู่ที่ไทยเยอะมาก
เพราะที่เวียดนาม ทุกคนโฟกัสกับฟุตบอล ใส่เต็มร้อย ไม่มีคำว่าพี่น้อง หรือว่ารุ่นเล็กรุ่นใหญ่เข้ามาเกี่ยว ต่างจากที่ไทย ที่ไม่มีทางเลยที่นักเตะรุ่นน้องจะเข้าบอลหนัก ๆ ใส่รุ่นพี่
"นักเตะรุ่นใหญ่ในไทยจะไม่มีวันถูกนักเตะรุ่นน้องเข้าบอลหนัก ๆ เลยในการฝึกซ้อม พวกเขาจะไม่กล้าปะทะกับ ธีราทร บุญมาทัน หรือ ธีรศิลป์ แดงดา เลย" มาโน กล่าวผ่าน gym-flooring.com
"ที่เวียดนาม เรื่องอายุไม่สำคัญ ทุกคนมีความกระหาย การทำงานในสภาพแวดล้อมแบบนี้ในฐานะโค้ชมันง่ายกว่า เพราะนักเตะมีวินัยและจิตวิญญาณนักสู้สูงมาก"
"นักเตะเวียดนามแทบไม่เคยตั้งคำถามเกี่ยวกับแผนการเล่นและกลยุทธ์เลย พวกเขาเชื่อใจโค้ชและปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างมุ่งมั่น แต่ในไทย พวกเขามักจะตั้งคำถามเกี่ยวกับแนวทางการเล่นมากกว่า และอาจจะแสดงความไม่แน่ใจออกมาด้วย"
สำหรับทีมชาติไทยของ แอนโธนี ฮัดสัน ที่การทำทีมคล้าย ๆ กับ มาโน ก็ต้องมาดูกันว่าเขาจะพาทีมชาติไทยไปได้ไกลมากแค่ไหน จะก้าวข้ามอาเซียนไปสู่ระดับเอเชียแบบที่แฟน ๆ อยากจะเห็นได้หรือไม่ ผลงานเท่านั้นจะเป็นเครื่องพิสูจน์
