ไร้ผู้จัดการทีม, ค้างค่าจ้าง, ปิดอัฒจันทร์ : เกิดอะไรขึ้นกับเชฟฯ เวนส์เดย์ ของ เดชพล จันศิริ

Maruak Tanniyom

ไร้ผู้จัดการทีม, ค้างค่าจ้าง, ปิดอัฒจันทร์ : เกิดอะไรขึ้นกับเชฟฯ เวนส์เดย์ ของ เดชพล จันศิริ image

เหลือแค่ไม่ถึง 2 อาทิตย์ ลีกรองของอังกฤษก็จะเปิดทำการแต่ แต่สำหรับ เชฟฟิลด์ เวนส์เดย์ ที่มี เดช พล จันศิริ ชาวไทยเป็นเจ้าของ นี่คือช่วงปรีซีซั่นที่วุ่นวายที่สุดของสโมสร 

เพราะพวกเขายังไม่มีเฮดโค้ชนำทีม ขณะที่นักเตะทยอยลาออก อีกทั้งยังมีปัญหาเรื่องค่าจ้างที่ยังค้างจ่าย และที่สำคัญยังถูกสั่งปิดอัฒจันทร์บางส่วนอีกด้วย  

อะไรที่ทำให้อดีตทีมพรีเมียร์ลีกมาถึงจุดนี้? ติดตามไปพร้อมกัน 

ความหวังจากไทย? 

อันที่จริง สำหรับ เชฟฟิลด์ เวนส์เดย์ พวกเขาถือเป็นสโมสรเก่าแก่ของอังกฤษ หลังก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1867 หรือเกือบ 160 ปีก่อน และเป็นหนึ่งในทีมที่เคยคว้าแชมป์ลีกสูงสุดถึง 4 สมัย 

นอกจากนี้ พวกเขายังเป็นหนึ่งใน 22 ทีมของพรีเมียร์ลีกฤดูกาลแรก (1992/93) และสามารถโลดแล่นอยู่ในลีกสูงสุดอยู่นานถึง 8 ฤดูกาล รวมถึงเคยไปไกลถึงอันดับ 7 อีก 3 ครั้ง 

แต่หลังจากตกชั้นลงไปเล่นในดิวิชั่น 1 ในฤดูกาล 2000/01 พวกเขาก็ไม่เคยกลับมาเล่นบนลีกสูงสุดอีกเลย แถมยังหล่นไปเล่นในลีกวัน หรือดิวิชั่น 3 ของอังกฤษอีกหลายครั้ง 

จนกระทั่งในปี 2015 แฟนบอลนกเค้าแมวก็มีความหวัง เมื่อสโมสรได้เจ้าของใหม่ชาวไทยที่ชื่อ เดชพล จันศิริ เข้ามาเทคโอเวอร์ หลังบรรลุข้อตกลงเป็นเงิน 37.5 ล้านปอนด์ 

สำหรับ เดชพล อาจจะไม่ได้เป็นที่รู้จักสำหรับแฟนบอลอังกฤษ หรือแม้แต่ชาวไทยมากนัก แต่เขาคือเจ้าของธุรกิจ ไทยยูเนียน โฟรเซน ฟูดส์ (TUF) หรือบริษัทผลิตและส่งออกอาหารทะเลแช่แข็งรายใหญ่ และเป็นผู้ผลิตทูน่ากระป๋องที่ใหญ่ที่สุดในโลก

เขาถูกตั้งความหวัง ว่าจะเป็นผู้กอบกู้ เชฟฯ เวนส์เดย์ เหมือนกับ วิชัย ศรีวัฒนประภา ที่เข้ามาซื้อเลสเตอร์ แล้วพาทีมเลื่อนชั้นขึ้นไปเล่นในพรีเมียร์ลีก ได้ภายในระยะเวลาไม่กี่ปี 

และมันก็ดูจะไปได้สวย เมื่อเงินลงทุนของ เดชพล ทำให้ นกเค้าแมว ที่เคยเป็นทีมระดับกลางค่อนไปทางท้ายตาราง เดอะ แชมเปียนชิพ แปรเปลี่ยนมาเป็นทีมลุ้นเลื่อนชั้น 

พวกเขาจบในอันดับ 6 และ 4 ใน 2 ฤดูกาลแรก ที่ เดชพล เข้ามาเป็นเจ้าของ และเข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศเพลย์ออฟเลื่อนชั้น ในฤดูกาล 2015/16 แต่น่าเสียดาย ที่ความพ่ายแพ้ต่อ ฮัลล์ ซิตี้ ทำให้ยังไม่ได้เป็นสโมสรพรีเมียร์ลีกเสียที 

อย่างไรก็ดี สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น แทบจะต่างกันราวฟ้ากับเหว 

วิกฤติจากอดีต

เค้าลางของหายนะ เริ่มขึ้นในฤดูกาล 2017/18 เมื่อเงินจำนวนมากที่ทุ่มซื้อนักเตะโดยมีเป้าหมายเพื่อเลื่อนชั้นไปพรีเมียร์ลีก ไม่ได้รับผลอย่างที่คาดไว้ 

หลังจากนั้นผลงานของ เชฟฯ เวนส์เดย์ ก็ลุ่มๆ ดอนๆ มาตลอด แถมในฤดูกาล 2020/21 พวกเขายังมาโดนตัดแต้ม หลังละเมิดกฎการเงิน (Financial Fair Play) จากการขายสนามฮิลส์โบโร ให้บริษัทที่เดชพล เป็นเจ้าของ เพื่อเพิ่มกำไรในงบการเงิน 

จากผลดังกล่าวทำให้ นกเค้าแมวถูกตัดแต้มถึง 12 คะแนน ก่อนจะลดเหลือ 6 คะแนนหลังอุทธรณ์ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่เพียงพอ ที่จะทำให้ทีมรอดพ้นจากการตกชั้นลงไปเล่นลีกวัน หลังจบในอันดับสุดท้ายของตาราง 

แม้ว่า เชฟฯ เวนส์เดย์ จะใช้เวลาแค่ 2 ฤดูกาล ในการเลื่อนชั้นกลับมาเล่นในแชมเปียนชิพ แต่สถานการณ์ของสโมสรก็ยังไม่ดีขึ้น 

พวกเขาเปลี่ยนผู้จัดการทีม ราวกับเล่นเก้าอี้ดนตรี แถม เดชพล ก็ยังเจอการประท้วงจากแฟนบอลมาั้ตงแต่ปี 2023 หลังออกมาเรียกร้องให้แฟนนกเค้าแมว ช่วยกันควักเงินคนละ 2 ปอนด์ เพื่อช่วยใช้หนี้สโมสร 

อย่างไรก็ดี ฤดูกาล 2024/25 ที่ต่อเนื่องมาจนถึงก่อนเปิดฤดูกาล 2025/2026 ดูเหมือนจะหนักที่สุด  เชฟฯ เวนส์เดย์ มีปัญหาจ่ายเงินเดือนล่าช้า ในเดือนมีนาคม 2025 และเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน ที่ผ่านมา 

จากผลดังกล่าว ทำให้ EFL สั่งแบนห้ามพวกเขาซื้อนักเตะ หรือแม้แต่เซ็นนักเตะฟรี ในตลาดนักเตะหน้าร้อน 2025, หน้าหนาว 2026 และ หน้าร้อน 2026   

ด้วยเหตุนี้ทำให้ผู้เล่นหลายคนทยอยโบกมือลาสโมสร ที่มีตั้งแต่ถูกขายเลหลังไปด้วยราคาถูกๆ ไปจนถึงยกเลิกสัญญาและย้ายไปอยู่กับคู่แข่งแบบไม่มีค่าตัว และทำให้พวกเขาเหลือผู้เล่นในทีมชุดใหญ่แค่เพียง 15 คนเท่านั้น  

นอกจากนี้ ข่าวร้ายล่าสุด คือการแยกทางกับ แดนนี โรลห์ กุนซือชาวเยอรมัน ที่ทำให้พวกเขาไม่มีผู้จัดการทีม ทั้งที่ แชมเปียนชิพ กำลังจะเปิดฤดูกาล ในอีกไม่ถึง 10 วัน    

ทั้งนี้ ราวกับเคราะห์ซ้ำกรรมซัด เพราะสัปดาห์ก่อน พวกเขาเพิ่งจะถูกสั่งปิดอัฒจันทร์ฝั่งเหนือของ ฮิลส์โบโรห์ ซึ่งจุผู้ชมได้ราว 9,200 คน ด้วยปัญหาด้านความปลอดภัย และทำให้รายได้ส่วนนี้ ต้องลดลงไปอีก 

กลับไม่ได้ ไปไม่ถึง

แนวทางแก้ไขที่เร็วที่สุดในตอนนี้ คือ เชฟฯ เวนส์เดย์ ต้องหาคนมาซื้อสโมสรต่อจาก เดชพล แล้ว แต่ปัญหาคือเขายืนยันจะไม่ยอมขาย หากได้ราคาต่ำกว่า 100 ล้านปอนด์ 

ก่อนหน้านี้ เดชพล บอกว่า เขาเพิ่งปฏิเสธข้อเสนอมูลค่า 40 ล้านปอนด์ บวกแอดออน หากทีมได้เลื่อนชั้นขึ้นไปเล่นในพรีเมียร์ลีก จากนักลงทุนไป

ขณะที่ จอห์น ฟลานาแกน อดีตฟูลแบ็คลิเวอร์พูล ที่มาเอาดีทางนักลงทุน ก็บอกว่าเขาและสมาชิกกลุ่มทุนจากสหรัฐฯ ได้ยื่นข้อเสนอซื้อสโมสรถึง 2 ครั้ง แต่ก็ถูกปฏิเสธ โดยไม่ต่อรองอะไรกลับมาเลย

จากรายงานของ เดอะ ซัน อ้างว่า เดชพล มีหนี้เกี่ยวกับฟุตบอลอยู่ถึง 4 ล้านปอนด์ และเขาต้องการให้เจ้าของคนใหม่ จ่ายหนี้ตรงส่วนนี้ให้ด้วย 

นั่นทำให้ เชฟฯ เวนส์เดย์ ตอนนี้อยู่ในสภาวะชะงักชัน เพราะทั้งที่ต้องขายสโมสร แต่เจ้าของยังไม่อยากขาย หากได้ราคาไม่ตรงใจ 

และหาก เดชพล ขายสโมสรไม่ทันตามกรอบเวลา ผลก็จะตกถึง เชฟฯ เวนส์เดย์ โดยตรง ที่อาจจะโดนตัดแต้ม ที่พวกเขาเคยโดนมาแล้ว จนทำให้ทีมต้องร่วงตกชั้น

แม้จะเป็นสถานการณ์ที่พวกเขาเคยเผชิญมาก่อน แต่การตกชั้นในครั้งนี้ อาจสร้างแรงกระแทกกว่าที่เคย เพราะมันคือการหล่นชั้นจากปัญหาทางเงินซ้ำสอง ที่ทำให้พวกเขาอาจจะไม่สามารถฟื้นกลับมาได้อีกเลย เหมือนหลายสโมสรอังกฤษในอดีต 

“เขาต้องยอมรับว่าเขาต้องขาย เวนส์เดย์ เพื่อปกป้องไม่ให้สโมสรต้องพังทลายลงอย่างสมบูรณ์ เราในฐานะแฟนบอล ควรได้รับสิ่งที่ดีกว่านี้” คลิฟ เบ็ตต์ สมาชิกสภาจากเมืองเชฟฟิลด์ และ แฟนเดนตายของสโมสรกล่าว

บทความที่เกี่ยวข้อง

Maruak Tanniyom

ลีดส์ ยูไนเต็ด, ญี่ปุ่น, มังงะ