แทบไม่มีใครเชื่อสายตาเมื่อ หลุยส์ ดิอาซ ปีกตัวจี๊ดของ บาเยิร์น มิวนิค ทำประตูสุดมหัศจรรย์ชนิดเตรียมเข้าชิงรางวัล ปุสกัส อวอร์ด ด้วยการเกี่ยวบอลแล้วซัดมุมแคบไปอย่างสวยงาม เกมที่เสือใต้ บุกเสมอ อูนิโอน เบอร์ลิน 2-2
ไม่แปลกใจที่ใครต่อใครถึงกับอ้าปากค้างเมื่อลูกยิงของ หลุยส์ ดิอาซ ไปนอนซุกก้นตาข่าย เนื่องจากสถิติพบว่าประตูนี้มีค่า XG เพียง 0.03 เท่านั้น หรือพูดง่าย ๆ คือแทบไม่มีความเป็นไปได้ที่มันจะกลายเป็นประตู
เพราะอะไรลูกยิงสุดมหัศจรรย์ของ หลุยส์ ดิอาซ ถึงมีค่า XG 0.03 และเขาเปลี่ยนให้มันเป็นประตูได้อย่างไร? ติดตามไปพร้อมกันได้ที่นี่
เจาะลูกยิงมหัศจรรย์ หลุยส์ ดิอาซ ที่มีค่า XG 0.03
สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาจ่าฝูงบุนเดสลีกา อย่าง บาเบิร์น มิวนิค ทำได้เพียงบุกไปเสมอ อูนิโอน เบอร์ลิน 2-2 เท่านั้น ทำให้พวกเขาเสียสถิติชนะรวดในฤดูกาลนี้ อย่างไรก็ดี หลุยส์ ดิอาซ ได้ฝากประตูอันน่าทึ่งเอาไว้ในเกมดังกล่าว
ในนาทีที่ 38 หลุยส์ ดิอาซ ทำชิ่งกับ โยซิป สตานิซิช บริเวณกรอบเขตโทษฝั่งซ้ายของ อูนิโอน เบอร์ลิน แต่ปรากฏว่าจังหวะจ่ายบอลของ สตานิซิช นั้นแรงเกินไป จนเกือบทำให้บอลออกหลังถึงขนาดที่เจ้าตัวเอามือกุมหัวเมื่อจ่ายบอลออกไป เพราะรู้ถึงความผิดพลาดของน้ำหนักบอล
แต่ ดิอาซ ใช้ความเร็วแล้วล้มตัวคล้องบอลกลับมาเล่นได้ทัน กระนั้นการส่งบอลที่ผิดพลาดของ สตานิซิช ก็ทำให้ ยานิก ฮาเบเรอร์ เข้ามาประชิดตัว ดิอาซ ได้ทันเวลา และ เกมรับของ อูนิโอน ก็จัดระเบียบเกมรับได้อย่างดีเยี่ยมไม่มีช่องให้จ่ายบอลแบบชัดเจน ขณะที่ผู้รักษาประตูอย่าง เฟรเดริค รอนโนว์ ก็ปิดเสาแรกเอาไว้
แม้แทบจะหมดทางเลือกในการเล่นจังหวะต่อไป แต่ ดิอาซ ใช้เวลาเพียงเสี้ยววินาทีหลังจากล้มตัวคล้องบอลด้วยการแตะหลบ ฮาเบเรอร์ และสามารถลุกขึ้นมายืนได้ทันทีก่อนตะบันเต็มข้อด้วยขวายัดเสาแรกที่มีมุมเพียงเล็กน้อยเข้าประตูไป ทำเอา สตานิซิช ถึงกับกุมหัวอีกครั้งแต่คราวนี้เป็นเพราะความประหลาดใจ
Luis Díaz with a goal that only he would try and pull off 🥵
— B/R Football (@brfootball) November 9, 2025
(via @Bundesliga_JP)pic.twitter.com/g4nM9z1cIq
ประตูนี้ของ ดิอาซ พบว่ามีค่า XG (Expected Goal) หรือความเป็นไปได้ที่โอกาสการยิงในแต่ละครั้งจะเป็นประตูเพียง 0.03 เท่านั้น หากคำนึงถึง การจ่ายบอล, พื้นที่การเข้าทำ และมุมในการทำประตูที่แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
หากจะบอกว่าประตูนี้ต้องตำหนิแนวรับของ อูนิโอน เบอร์ลิน ก็คงจะดูใจร้ายไส้ระกําไปหน่อย เพราะ ฮาเบเรอร์ ก็เข้ามาบีบพื้นที่ ดิอาซ ได้อย่างรวดเร็ว ขณะที่ รอนโนว์ ก็ไม่ได้เปิดเสาแรกเยอะจนเกินไป
หากแต่เพียงประตูนี้ต้องชื่นชมความใจสู้ไม่มีถอยของ หลุยส์ ดิอาซ ที่ไม่ยอมปล่อยให้บอลออกหลัง และการคิดเร็วทำเร็วแล้วใช้ความสามารถเฉพาะตัวอันแพรวพราวแก้ไขสถานการณ์ตรงหน้าก่อนเปลี่ยนให้ “ความเป็นไปไม่ได้” กลายเป็น “ประตูมหัศจรรย์” ที่จะถูกพูดถึงไปอีกนานแสนนาน
