เจมี เคอร์ตัน มอายุเพียง 19 ปี ตอนประเดิมสนามครั้งแรกในพรีเมียร์ลีก หลังถูกเปลี่ยนลงไปเป็นตัวสำรองของ นอริช ซิตี้ ในนัดพบ เอฟเวอร์ตัน ในปี 1994
ตอนนั้น ลูกยิงในตำนานของ เดวิด เบ็คแคม ยังไม่เกิดขึ้น, แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส เป็นทีมใหญ่ที่กำลังไล่ล่าแชมป์พรีเมียร์ลีก ขณะที่ วิมเบิลดัน คือจอมโหดในลีกสูงสุดอังกฤษ
แม้ว่าตอนนี้ เบ็คแคม จะเลิกเล่นไปแล้ว, แบล็คเบิร์น วนเวียนอยู่ในลีกรองแดนผู้ดี หรือ วิมเบิลดัน ผ่านการยุบทีม และก่อตั้งขึ้นมาใหม่ในชื่อใหม่ แต่ เคอร์ตัน กลับยังคงเล่นอยู่ แม้วัยจะใกล้ครึ่งร้อยไปแล้ว
อะไรคือเหตุผลที่ทำให้เขา ยืนหยัดค้าแข้งมายาวนานขนาดนี้? ติดตามไปพร้อมกัน
แข้ง 1,000 นัด
เจมี เคอร์ตัน อาจจะไม่ได้เป็นชื่อที่คุ้นหูแฟนบอลยุคหลังมากนัก แต่ครั้งหนึ่งเขาคือกองหน้าระดับพรีเมียร์ลีก หลังขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่ของ นอริช ครั้งแรกในปี 1994
หลังจากนั้น เคอร์ตัน ก็ผ่านการค้าแข้งอย่างยาวนาน 32 ฤดูกาลติดต่อกัน และเล่นให้สโมสรในลีกอังกฤษครบทั้ง 9 ดิวิชั่น ตั้งแต่พรีเมียร์ลีกไปจนถึง เอสเซ็กซ์ ซีเนียร์ลีก
นอกจาก นอริช แล้ว เคอร์ตัน ยังไปเล่นให้กับทีมมีชื่อมากมาย ทั้ง บอร์นสมัธ, สวินดอน, ควีนพาร์ค เรนเจอร์ส, เรดดิ้ง หรือแม้กระทั่ง บูซาน ไอคอน ในเคลีก ของเกาหลีใต้
ล่าสุด เคอร์ตัน ที่กำลังจะมีอายุครบ 50 ปี ในวันที่ 28 สิงหาคมที่จะถึงนี้ เพิ่งประกาศลงทะเบียนกับ เคมบริดจ์ ซิตี้ ในดิวิชั่น 8 ของอังกฤษ ซึ่งเป็นสโมสรที่ 22 ในชีวิตการค้าแข้งของเขา

“ผมเพิ่งลงทะเบียนตัวเองในฐานะผู้เล่นสำหรับฤดูกาล 2025/26 และอยากจะลงเล่นอย่างน้อย 1 นัด หลังวันเกิดของผม” เคอร์ตันที่ผ่านการ่วมงานกับโค้ชดังอย่าง มาร์ติน โอนีล, เอียน ฮอลโลวเวย์ หรือ อลัน พาร์ดิวกล่าว
กองหน้าตัวเก๋ายอมรับว่า เขาเลิกนับว่าตัวเองลงเล่นไปกี่เกม หลังลงเล่นครบ 1,000 นัดเมื่อ 6 ปีก่อน ที่ทำให้เขาสถิติเหนือกว่าแข้งระดับตำนานอย่าง ราอูล กอนซาเลซ หรือ เปาโล มัลดินี ไปเป็นที่เรียบร้อย
จากสถิติของ Wikipedia ระบุว่า เคอร์ตัน ลงเล่นไปทั้งสิ้น 1,075 นัด มากที่สุดเป็นอันดับ 25 ในทำเนียบนักเตะที่ลงเล่นเกิน 1,000 นัด และรั้งอันดับ 7 สำหรับผู้เล่นที่ยังไม่แขวนสตั๊ด
อะไรคือเบื้องหลังความกระหายนี้
ไม่มีฟุตบอล ผมก็ไม่มีอะไร
เกมนัดล่าสุดที่ เคอร์ตัน ลงเล่นเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 เมษายนที่ผ่านมา หลังเปลี่ยนตัวลงไปในนาทีที่ 68 ในเกมที่ เคมบริดจ์ บุกไปคว้าชัยเหนือ เบซิลดอน ทาวน์ใน อิชเมียน ลีก นอร์ธ ต่อหน้าแฟนบอล 123 คนและมีอายุมากกว่า จูเนียร์ มูบิอายี ผู้ยิงประตูชัยถึง 24 ปี
ส่วนเกมระดับอาชีพครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นเมื่อ 7 ปีก่อน กับ ดาเกนแฮม และ เรดบริดจ์ ในลีกทู ก่อนที่เขาจะย้ายไปเล่นให้ทีมนอกลีก และเปลี่ยนบทบาทมาเป็นผู้เล่น-ผู้จัดการทีม รวมถึงที่ เคมบริดจ์ สโมสรปัจจุบัน
และเหตุผลที่ทำให้เขาไม่ยอมเลิกเล่น เพื่อรับงานคุมทีมเพียงอย่างเดียว ก็มาจากฟุตบอลเป็นที่ตั้ง เคอร์ตัน ยอมรับว่าเขาคงทำไรอะไรไม่เป็น หากไม่ใช่กีฬาชนิดนี้
“ฟุตบอลเป็นสิ่งเดียวที่ผมรู้จัก” เคอร์ตัน บอกกับ BBC Sport
“ผมโตมาในพื้นที่ที่มีแต่ปัญหา บางทีผมอาจหลงผิดไปในทางนั้น แต่โชคดีที่ผมมีฟุตบอล”
“อย่างอื่นนอกจากฟุตบอลเป็นเหมือนสิ่งแปลกปลอมสำหรับผม ผมอาจจะลงทางหากไม่มีมัน การได้มีส่วนร่วมกับเกมทำให้ผมมีความสุขและมีสติ”

เป้าหมายของ เคอร์ตัน ในฤดูกาลนี้ยังคงเหมือนเดิม คือได้ลงสนาม แต่ก็ยืนยันว่าจะไม่ใช้สิทธิ์การเป็นเฮดโค้ช ส่งตัวเองลงเล่นเพื่อทำสถิติอย่างแน่นอน
“ผมจะไม่วางตัวเองเหนือผู้เล่นคนอื่น ที่ผมรู้สึกว่าเขาต้องการโอกาสและความจำเป็นที่จะลงเล่น” เคอร์ตัน ที่มีประสบการณ์ในพรีเมียร์ลีก 17 เกมกล่าว
“ผมจะไม่เลือกตัวเองก่อนพวกเขา ผมลงทะเบียนในฤดูกาลนี้ไว้ในกรณีที่จำเป็น อย่างต้องพักตัวผู้เล่น”
“ท้ายฤดูกาลที่แล้ว เราเสียผู้เล่นไปเยอะ และบางคนก็บาดเจ็บ มันตึงเป็นโอกาสที่ทำให้ผมรู้สึกว่าควรลงสนาม”
ขณะที่อนาคต คือการลงเล่นต่อไปให้นานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ หรืออย่างน้อยก็ขอข้องเกี่ยวกับวงการฟุตบอลในฐานะโค้ช ที่ไม่ใช่เพราะสถิติ แต่เป็นแพชชั่นที่ยังคงมีอยู่ในตัวนับตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้
“ผมไม่เคยคิดว่าผมจะยังเล่นอยู่ตอนอายุเกือบจะ 50 ผมรู้สึกขอบคุณแรงขับที่ทำให้ผมยังเล่นต่อไป ที่ผลักดันจนมาถึงจุดนี้”
“ฟุตบอลมีสิ่งดีๆ ให้ผม และหวังว่าผมจะอยู่ในการแข่งขันไปอีก 10-15 ปี จะในฐานะผู้จัดการทีมหรือโค้ชก็ได้ และจากนั้นผมคงไปเล่นกอล์ฟ หรือตกปลา” เคอร์ตัน ทิ้งท้าย