การตัดสินใจครั้งสำคัญของตำนานบาเยิร์น ที่ไม่เลือกยุโรป ไม่ไปซาอุฯ ไม่สนแอลเอ หรือไมอามี แต่กลับหันมาหาทีมเล็ก ๆ อย่าง แวนคูเวอร์ ไวต์แคปส์…เพราะอะไร?
การเดินทางครั้งใหม่จาก บาร์เยิน สู่ แวนคูเวอร์
"คุณรู้ใช่ไหมว่าเราคือทีมอะไร?"
คือคำถามจาก อักเซล ชูสเตอร์ ซีอีโอของ แวนคูเวอร์ ไวต์แคปส์ ที่ถามกลับไปยังเอเยนต์ของ โธมัส มุลเลอร์ ด้วยความไม่อยากเชื่อ เมื่อได้รับข้อความว่า “มุลเลอร์” สนใจย้ายมาคุยเรื่องอนาคตกับทีม
คำถามนี้ไม่ได้มาจากความดูแคลนตัวเอง แต่มาจากความจริงที่ว่า…ทีมของเขาไม่เคยมีชื่อในสารบบของสตาร์ระดับโลกมาก่อน และ โธมัส มุลเลอร์ ก็คือหนึ่งในนักเตะเยอรมันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล
แต่เรื่องนี้คือของจริง
เพราะมุลเลอร์บอกว่า เขา “สนใจจริง ๆ” และนั่นคือจุดเริ่มต้นของหนึ่งในการเซ็นสัญญาที่น่าตกใจที่สุดในประวัติศาสตร์ เมเจอร์ลีก ซอคเกอร์ (MLS)
บทสนทนาที่อัลลิอันซ์ อารีนา และมิตรภาพตั้งแต่ 15 ปีก่อน
ชูสเตอร์ ย้อนกลับไปยังวันหนึ่งในเดือนกันยายน 2010
ตอนนั้นเขายังเป็นหัวหน้าฝ่ายฟุตบอลของทีมเล็กอย่าง ไมน์ซ 05 ทีมที่มีสนามเล็กที่สุดในบุนเดสลีกา วันนั้น ไมน์ซ สร้างปาฏิหาริย์ บุกชนะ บาเยิร์น มิวนิค ถึงถิ่นเสียงในห้องแต่งตัวทีมเยือนคือความปิติ
แต่แล้ว โธมัส มุลเลอร์ ก็เดินเข้ามา ยื่นมือทักทายเขาไม่ได้แสดงความไม่พอใจ แต่กลับจับมือยินดีด้วยรอยยิ้ม
“เขาคือนักสู้ผู้ยุติธรรม” ชูสเตอร์ พูดถึงวันนั้น
และนั่นคือจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ที่ปูทางไปสู่เหตุการณ์ในอีก 15 ปีต่อมา
ปฏิเสธซาอุฯ ปัดไมอามี เลือกทีมที่ไม่มีใครคิดว่าจะเลือก
หลังปิดฉาก 17 ปีในสีเสื้อ บาเยิร์น มิวนิคมุลเลอร์ คือฟรีเอเยนต์ที่ตลาดต้องการทั้งยุโรป, ลีกซาอุฯ, ทีมตลาดอย่าง แอลเอเอฟซี (LAFC), เอฟซี ซินซินเนติ (FC Cincinnati) ต่างจับตา
แต่มุลเลอร์เลือกปฏิเสธ
เหตุผลไม่ใช่เรื่องเงินไม่ใช่เรื่องชื่อเสียงแต่คือความรู้สึก “เป็นบ้าน”และโค้ชที่ เข้าใจ วิธีการเล่นของเขา
แวนคูเวอร์ ไวต์แคปส์ ไม่ใช่ทีมเงินถัง ไม่ใช่ทีมใหญ่ของ MLSพวกเขาแพ้รอบชิง คอนคาเคฟ แชมเปียนส์ คัพ ด้วยสกอร์ 0-5 และอยู่ช่วงขาลงของฤดูกาล
แต่ทีมบริหารยังเชื่อในโปรเจกต์และอยากพิสูจน์ว่า “เราไม่ได้มาเล่น ๆ”
เมื่อรู้ว่ามุลเลอร์อาจจะพร้อมคุย ชูสเตอร์ ถึงกับอุทาน
“จริงเหรอ? เขารู้ไหมว่าเราเป็นใคร?”
แต่มุลเลอร์รู้ดีว่าชายคนนี้คือคนเดียวกับที่เขาเคยจับมือด้วยที่อัลลิอันซ์ อารีนา และวันนี้ก็ยังทำทีมอย่างจริงจัง
ความแตกต่างที่สัมผัสได้จากแวนคูเวอร์
ในตลาด MLS ทุกทีมพร้อมทุ่มเพื่อคว้าชื่ออย่างมุลเลอร์
แต่ ไวต์แคปส์ กลับพูดกับเอเยนต์ของเขาตรง ๆ
“เราพร้อมยื่นข้อเสนอที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร แต่เรารู้ว่าทีมอื่นอาจให้มากกว่า”
แทนที่จะขายฝัน พวกเขาขายความจริง และขายชีวิตที่มุลเลอร์ต้องการ
เมืองที่สงบ
อากาศที่เหมือนเยอรมนี
ไม่มีการบีบให้เป็นเซเลบริตี้
และโค้ชที่ไม่ขายคำพูด แต่มีวิสัยทัศน์ชัดเจน
ชูสเตอร์แอบแซวในหนึ่งในการประชุมว่า
“อย่างน้อย ที่นี่ก็ไม่ร้อนตับแตกเหมือน ชาร์ลอตต์ รัฐนอร์ทแคโรไลนา ที่นายเพิ่งไปเตะ คลับเวิลด์คัพ หรอกนะ”
ทุกคำพูดมันจริง และมันโดนใจมุลเลอร์
จุดเปลี่ยน: บทสนทนากับ เยสเปอร์ โซเรนเซน
หัวใจของการตัดสินใจทั้งหมดเกิดขึ้นจากการพูดคุยของมุลเลอร์กับเฮดโค้ช เยสเปอร์ โซเรนเซน
ทั้งสองคุยกันนานกว่าหนึ่งชั่วโมง 45 นาทีแรกไม่มีแม้แต่คลิปแท็กติกแต่คือบทสนทนาของคนที่ เข้าใจฟุตบอลจริง ๆ โซเรนเซนบอกว่าเขาอยากใช้มุลเลอร์เล่นใกล้เขตโทษ ไม่บังคับตำแหน่งให้เขาได้เล่นเชื่อมกับเพื่อน เพราะ
“โธมัสไม่ใช่คนที่เลี้ยงหลบ 5 คน แต่เขาทำให้ทีมดีขึ้นได้ในหนึ่งจังหวะสัมผัสบอลเดียว”
บทสนทนานั้นคือจุดเปลี่ยนมุลเลอร์เริ่มเห็นภาพว่า เขาไม่ต้องย้ายไปเป็นดาว แต่ย้ายมาเป็น
“นักฟุตบอลคนหนึ่งในทีมที่อยากชนะ”
สัญญาที่ผ่านการพิจารณาถี่ถ้วนที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร
หลังจากตกลงใจได้
ไวต์แคปส์ ต้องทำดีลให้เรียบร้อยภายใต้โครงสร้างของ MLS
พวกเขาต้องเจรจากับ เอฟซี ซินซินเนติ เพื่อซื้อ “สิทธิ์ค้นพบ” มุลเลอร์ มูลค่ารวมสูงสุด 400,000 ดอลลาร์ (GAM)
ในขณะเดียวกัน ทีมทนายของมุลเลอร์ต้องตรวจสอบเรื่องภาษีเพราะนี่คือการย้ายจากเยอรมนีไปแคนาดา เพื่อเล่นในลีกของสหรัฐฯ
ทุกขั้นตอนละเอียดมากแต่มุลเลอร์ก็ใส่ใจเขาอยากให้ทุกอย่าง “ถูกต้อง” และ “โปร่งใส”
เขาเจรจาเองกับเจ้าหน้าที่ MLS เรื่องลิขสิทธิ์ภาพลักษณ์และอยากให้ไวต์แคปส์ได้ประโยชน์เต็มที่จากการย้ายทีมนี้
จุดยืนยันสุดท้ายจาก อัลฟอนโซ่ เดวีส์
ก่อนตัดสินใจสุดท้าย มุลเลอร์มีโอกาสพูดคุยกับอดีตเพื่อนร่วมทีม อัลฟอนโซ่ เดวีส์ ดาวเตะทีมชาติแคนาดาที่เคยแจ้งเกิดจากระบบเยาวชนของไวต์แคปส์ ก่อนจะย้ายไปสร้างชื่อกับบาเยิร์น
“เขาเล่าหลายอย่างดี ๆ เกี่ยวกับเมืองนี้และสโมสร ผมฟังแล้วรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมากเลย” มุลเลอร์กล่าว
สรุป
ในโลกที่ฟุตบอลกำลังกลายเป็นธุรกิจ โธมัส มุลเลอร์ เลือก “ฟุตบอล”
เขาเลือกโค้ชที่เข้าใจ แทนที่จะเลือกลีกที่ให้เงินเลือกเมืองที่สงบ แทนเมืองที่เต็มไปด้วยชื่อเสียงเลือกความจริงใจ แทนการตลาด
“ผมอยากคว้าแชมป์ และรู้ว่าวันหนึ่ง ผมจะรู้สึกเหมือนอยู่บ้านที่นี่”
คือคำพูดแรกของมุลเลอร์เมื่อเปิดตัวกับ แวนคูเวอร์ ไวต์แคปส์
และมันอาจเป็นจุดเริ่มต้นของสิ่งพิเศษ ที่ไวต์แคปส์ไม่เคยมีมาก่อน
"เขาไม่ได้มาเพื่อเล่นไปวันๆ แต่เขามาเพื่อคว้าชนะ"
– อักเซล ชูสเตอร์ กล่าว
บทความที่เกี่ยวข้อง