ฟรานเชสโก้ อแชร์บี้ คืออีกคนที่ต้องรับเครดิตไปเต็ม ๆ จากการที่เขาเติมจากหลังขึ้นมาสุดซอยแล้วยิงประตูให้ อินเตอร์ มิลาน ตีเสมอ บาร์เซโลนา 3-3 ก่อนที่ทีมงูใหญ่จะเฉือนชนะเจ้าบุญทุ่มไปได้ในช่วงต่อเวลา ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ปีนี้ไปได้แบบสุดมัน
แต่รู้หรือไม่ว่าก่อนที่เขาจะกลายมาเป็นฮีโร่พา อินเตอร์ มาอยู่จุดนี้ เขาเคยมีช่วงชีวิตที่ยากลำบากเกินกว่าใครจะนึกถึงมาก่อน ตามอ่านเรื่องราวทั้งหมดของ อแชร์บี้ ต่อได้ที่นี่
ชีวิตสุดพลิกผันของ ฟรานเชสโก้ อแชร์บี้
ลุ้นโชคที่นี่! ทายผลฟุตบอลประจำวันกับเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือที่สุด
ฟรานเชสโก้ อแชร์บี้ เกิดและเติบโตที่ ลอมบาร์เดีย และได้ใช้ชีวิตตามเด็กผู้ชายทั่วไปนั่นก็คือเตะบอลแถว ๆ บ้าน ก่อนที่จะได้มาเล่นฟุตบอลจริง ๆ จัง ๆ กับทีมท้องถิ่นอย่าง เอฟซี ปาเวีย ทีมในระดับดิวิชั่น 5 ของอิตาลี เขาใช้เวลาอยู่ที่นั่น 4 ปีเต็ม ๆ ก่อนที่จะย้ายมาอยู่กับ เร็กจีนา ทีมระดับเซเรียบีในปี 2010
ในเวลาต่อมา เขาจะกลายเป็นแข้งพเนจรที่ไม่ได้รับโอกาสลงสนามมากสักเท่าไหร่กับแต่ละทีม ไม่ว่าจะเป็น เจนัว, เชียโว เวโรนา และ เอซี มิลาน ก่อนที่ในปี 2013 เขาจะถูก ซาสซูโอโล เซ็นสัญญาไป ทำให้เขามีโอกาสที่จะพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง
ทว่าชะตาก็เหมือนเล่นตลก เพราะว่าในระหว่างที่ตรวจร่างกายช่วงปรีซีซั่นกันอยู่ ทีมแพทย์ได้เห็นว่า อแชร์บี้ มีก้อนเนื้อในอัณฑะ ซึ่งเป็นสัญญาณว่าเขาอาจเป็นมะเร็งที่บริเวณนั้น ทำให้เจ้าตัวต้องหยุดเรื่องฟุตบอลและเข้ารับการผ่าตัดกับฟื้นฟูร่างกายแทน
ลุ้นโบนัส 150% สมาชิกใหม่รับ 11,240 บาท เมื่อเริ่มทายผล คลิกที่นี่
ต่อมา การผ่าตัดก็ผ่านไปได้สำเร็จ ทำให้เจ้าตัวได้ลงเล่นในช่วงต้นฤดูกาล 2013-2014 ไป 13 เกม ก่อนที่จะมาพบกับเรื่องซวยอีกครั้งนั่นก็คือถูกตรวจพบสารกระตุ้นในตัว ซึ่งตัวของ อแชร์บี้ ปฏิเสธเสียงแข็งว่าเขาไม่ได้ใช้สารหรือยาใด ๆ มาก่อน ก่อนที่จะมีการตรวจกันอย่างจริงจังและพบว่าสารดังกล่าวเกิดมาจากเนื้องอกในตัวเขาที่กลับมากำเริบอีกครั้ง ทำให้ อแชร์บี้ ต้องรับการรักษาด้วยเคมีบำบัดเป็นระยะเวลาถึง 6 เดือน
15 มีนาคม 2014 อแชร์บี้ ได้อัพเดทผ่านโซเชียลมีเดียของตัวเองว่าเขาได้หายป่วยจากมะเร็งและพร้อมกลับมาลงช่วยทีมได้อีกครั้งแล้ว ก่อนที่ในเวลาต่อมาเขาจะลงเล่นให้กับ ซาสซูโอโล ไป 173 นัดทุกรายการ ทำได้ 11 ประตูกับอีก 1 แอสซิสต์
และด้วยผลงานอันยอดเยี่ยมหลังกลับมาจากป่วยโรคร้าย ในปี 2018 อแชร์บี้ ก็ถูก ลาซิโอ ซื้อตัวไปทำหน้าที่แทน สเตฟาน เดอ ฟราย ที่ย้ายไปเล่นให้กับ อินเตอร์ มิลาน ก่อนที่ อแชร์บี้ จะช่วยให้ทีมใหม่เป็นแชมป์ อิตาเลียนคัพ และ อิตาเลียน ซูเปอร์คัพ อย่างละ 1 สมัย ในฤดูกาล 2018-2019 และ 2019-2020 ตามลำดับ
จากนั้น กราฟชีวิตของ อแชร์บี้ ก็พุ่งสุดขีดด้วยการติดทีมชาติอิตาลีไปลุยศึกยูโร 2020 ก่อนที่จะช่วยทัพอัซซูรีคว้าแชมป์ได้อย่างยิ่งใหญ่ในปีนั้น และในปี 2022 เขาก็ถูก อินเตอร์ มิลาน เซ็นสัญญาไปด้วยสัญญายืมตัว ก่อนที่จะติดใจเซ็นกันถาวรในเวลาต่อมา
และก็อย่างที่รู้กัน อแชร์บี้ กลายเป็นหัวใจแนวรับของทีมงูใหญ่มาตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงปัจจุบัน เขาพาทีมคว้าแชมป์เซเรียอา 1 สมัย, อิตาเลียนคัพ 1 สมัย และ อิตาเลียน ซูเปอร์คัพ 2 สมัย ในขณะที่ล่าสุด เขาก็มีสิทธิ์ที่จะเพิ่มแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ให้กับทัพเนรัซซูรีอีก 1 รายการ หลังพาทีมดับตัวเต็งอย่าง บาร์เซโลนา เข้ารอบชิงชนะเลิศไปได้สำเร็จ