“ผมคิดไว้ว่ามันจะนานขนาดนี้หรือเปล่า? ไม่เลย ไม่เคยคิดเลย”
การทำชาเลนจ์เพื่อทีมรักทางอินเตอร์เน็ต เป็นสิ่งที่เห็นกันมากขึ้นในยุคปัจจุบัน แต่สำหรับ แฟรงค์ อิลเล็ตต์ มันอาจเป็นภารกิจที่เขาไม่มีวันลืม หลังประกาศว่าจะไม่ยอมตัดผม จนกว่า แมนฯ ยูไนเต็ด จะทำผลงานได้ดี
อะไรดลใจให้เขาทำแบบนี้ และต้องเผชิญกับอะไรหลังจากนั้น? ติดตามไปพร้อมกัน
ภารกิจเพื่อทีมรัก
ความตกต่ำของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในยุคหลัง เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน วางมือ เป็นสิ่งที่ทำให้แฟนบอลของพวกเขาต้องปวดใจ โดยเฉพาะผลงานที่กระท่อนกระแท่น ในช่วงต้นฤดูกาล 2024-2025
ปีศาจแดง แพ้ไปถึง 3 เกม จาก 6 นัดแรก จนตกมาอยู่ในอันดับ 13 ของตาราง และทำให้การลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก หลุดลอยไปอย่างรวดเร็วอีกครั้ง
อย่างไรก็ดี แฟรงค์ อิลเล็ตต์ แฟนของ แมนฯ ยูไนเต็ด รู้สึกว่าเขาต้องทำอะไรบางอย่างจากเรื่องนี้ ก่อนจะปิ๊งว่าเขาน่าจะทำชาลเลนจ์ เพื่อทีมรักของเขา
ในวันที่ 5 ตุลาคม 2024 เขาตัดสินใจเปิด IG ที่ชื่อว่า The United Strand พร้อมประกาศกร้าวว่าจะไม่ยอมตัดผม จนกว่าปีศาจแดง จะคว้าชัย 5 เกมติดต่อกัน

มันดูจะเป็นความเสี่ยงสำหรับฟอร์มของแมนฯ ยูไนเต็ด ในตอนนั้น แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เพราะย้อนกลับไปในฤดูกาลก่อน ทีมรักของเขา ก็เคยคว้าชัย 5 นัดรวดมาแล้ว ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2024
“บอกตามตรง มันดูจะสนุกดี มันอธิบายเป็นคำพูดได้ยากว่าทำไม ผมแค่ทำมันลงไป” อิลเล็ตต์กล่าวกับ SunSport
“ผมเคยเห็นคนทำสิ่งนี้มาก่อน น่าจะกับทีมใน NFL หรืออะไรทำนองนั้น ของเขาเป็น 3 นัดติดต่อกัน”
“ผมจำได้ว่าตอนนั้นคิดว่ามันน่าจะสนุกดี และอย่างที่รู้ ผมเป็นแฟน แมนฯ ยูไนเต็ด”
ก่อนที่มันจะกลายเป็นจุดเริ่มต้นของภารกิจที่ยาวนาน
นานเกินไปแล้ว
หลังประกาศภารกิจออกไป เขาก็ได้รับความสนใจจากผู้คนมากมาย ทั้งแฟนของ แมนฯ ยูไนเต็ด และแฟนบอลของฝั่งตรงข้าม ที่มีทั้งให้กำลังใจ และเข้ามาขำ จนมียอดคลิปขึ้นไปแตะหลักล้านวิว (35 ล้านครั้งในปัจจุบัน)
อย่างไรก็ดี ไม่รู้ว่าโชคชะตากลั่นแกล้งหรือเปล่า เพราะนับตั้งแต่ที่วันที่เขาตัดผมครั้งสุดท้าย แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ไม่ใกล้เคียงกับคำว่ารักษาฟอร์มได้เลย
ทายผลเลย : คลิกที่นี่เพื่อทายผลการแข่งขัน
เพราะไม่ต้องพูดถึง 5 นัดติด แค่ 3 นัดติดก็ยังลำบาก ปีศาจแดง เหมือนตกอยู่ในลูปนรก ชนะ เสมอ แพ้ แพ้ ชนะ เสมอ สลับกันไปจนหาความแน่นอนไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นยุค เอริค เทน ฮาก, รุด ฟาน นิสเตลรอย หรือล่าสุดอย่าง รูเบน อโมริม ก็ตาม
1 เดือนก็แล้ว 2 เดือนก็แล้ว อิลเล็ตต์ ยังไม่มีท่าทีว่าจะได้ตัดผม ตอนแรกเขาไม่คิดว่ามันจะนานขนาดนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด อาจะฟอร์มตก แต่มีหลายฤดูกาลที่พวกเขาคว้าชัยติดๆ กัน แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่ฤดูกาลนี้

“ผมคิดไว้ว่ามันจะนานขนาดนี้หรือเปล่า? ไม่เลย ไม่เคยคิดเลย หลังจากนั้นผมก็เริ่มคิดว่า โอเค มันจะเป็นแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหนนะ” อิลเล็ตต์ กล่าว
“ผมเริ่มทำในเดือนตุลาคม และลองเช็คว่าครั้งสุดท้ายที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ทำได้คือตอนไหน มันคือช่วง มกราคม-กุมภาพันธ์ 2024 มันไม่ได้นานขนาดนั้น”
ตอนแรก อิลเล็ตต์ หวังว่าเขาจะได้ตัดผมตอนเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2025 ซึ่งครบ 1 ปี หลังจากทำได้ครั้งล่าสุด เนื่องจากช่วงนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด จะมีเกมบอลถ้วยแทรกเข้ามา ที่ทำให้โปรแกรมง่ายขึ้น
ลุ้นโบนัส 150% สมาชิกใหม่รับ 11,240 บาท เมื่อเริ่มทายผล คลิกที่นี่
แต่ความหวังของเขาก็หลุดลอยไป ปีศาจแดงอาจจะคว้าชัยในเกมบอลถ้วยอย่าง ยูโรปา ลีก หรือ เอฟเอ คัพได้จริง แต่พวกเขาก็ดันมาแพ้คู่แข่งในพรีเมียร์ลีกในนัดต่อมา หรือตอนที่เอาชนะคู่แข่งในลีก เกมต่อมา ก็ดันไปแพ้คู่แข่งในเอฟเอคัพ
ตอนนี้ผ่านมาแล้ว 229 วัน หรือกว่า 7 เดือน อิลเล็ตต์ ก็ยังไม่ได้ตัดผม และมันคงจะลากยาวไปถึงฤดูกาลหน้า เพราะทีมรักของเขาเหลือเกมในมือแค่เกมเดียว คือพรีเมียร์ลีกนัดส่งท้าย
อิลเล็ตต์ ยอมรับว่าเขาต้องเผชิญกับความยากลำบากในฤดูร้อนที่กำลังจะมาถึงเพราะผมที่ยาวรุงรังขนาดนี้ จะทำให้เขาเต็มไปด้วยเหงื่อที่หัวอย่างแน่นอน
“ผมหวังไว้อย่างมากว่ามันจะจบลงในฤดูกาลนี้ เพราะกำลังจะเข้าสู่ฤดูร้อนที่ร้อนมากๆ แต่น่าเศร้าที่มันจะดำเนินต่อไปจนถึงฤดูกาลหน้า” อิลเล็ตต์ กล่าวกับ BBC
แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ไม่เสียใจที่ตัดสินใจที่จะทำภารกิจนี้ เพราะมันเป็นเหมือนน้ำหล่อเลี้ยงใจในขณะที่ทีมรักมีผลงานที่ย่ำแย่ มันคือความหวังเล็กๆ สำหรับเขา
“ผมคิดว่ามันน่าจะสนุกดี อย่างที่เห็น นั่นเป็นช่วงเวลาที่เจ็บปวดของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในตอนนั้น และผมอยากจะเผยแพร่ความตลกออกไปก็เท่านั้น” อิลเล็ตต์กล่าว
ปัจจุบัน IG ของ อิลเล็ตต์ มีผู้ติดตามขึ้นไปแตะหลัก 150,000 คน และเขาก็ยังอัพคลิปอย่างสม่ำเสมอ โดยล่าสุดคือหลังเกมนัดชิงชนะเลิศ ยูโรปาลีก ที่เขาทำคลิป “ฟุตบอลมันเจ็บปวด มาลองกีฬาใหม่ดีกว่า”
ก็ต้องมารอดูว่า อิลเล็ตต์ จะได้ตัดผมเมื่อไร เพราะอันที่จริงเขาเคยคิดไว้เบากว่านั้นคือ 3 เกมติด แต่รู้สึกว่ามันง่ายเกินไป แต่ตอนนี้ ก็ดูจะยากมากแล้ว เช่นกันกับ อนาคตของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในฤดูกาลหน้า