ด้วยความที่เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว บวกกับค่าแรงที่ค่อนข้างสูง ทำให้ญี่ปุ่น เป็นหนึ่งในหมุดหมายสำหรับใครหลายคน รวมไปถึงผู้ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย
ส่วนวิธีเข้าเมืองก็มีหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นมาท่องเที่ยวแล้วอยู่เกินวีซ่า, แอบเข้าผ่านเรือประมงผิดกฎหมาย ไปจนถึงซ่อนตัวผ่านเรือสินค้า
อย่างไรก็ดี ทั้งหมดอาจเทียบไม่ได้กับแก๊งค้ามนุษย์กลุ่มหนึ่ง ที่ถึงขั้นลงทุนสร้างสโมสรปลอมตบตาเจ้าหน้าที่ แถมยังเคยทำสำเร็จมาแล้วอีกด้วย
พวกเขาทำอย่างไร? ติดตามเรื่องราวไปพร้อมกัน
แผนอุกอาจ
มันอาจจะเป็นวันธรรมดาวันหนึ่งของเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองญี่ปุ่น ที่มักจะเจอกับกลุ่มทีมฟุตบอล ที่เดินทางมาแข่งในประเทศของพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นในศึก เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก หรือเกมอุ่นเครื่องกระชับมิตร ในช่วงปิดฤดูกาล
เช่นกันกับ “โกลเดน ฟุตบอล ไทรอัล” สโมสรฟุตบอลจากปากีสถาน ที่แจ้งว่าพวกเขาเดินทางมาญี่ปุ่น เพื่อลงเตะอุ่นเครื่องตามคำเชิญของ เบาวิสตา เอฟซี
แม้ว่าสโมสรดังกล่าว อาจจะชื่อไม่คุ้นหู แต่พวกเขาก็มีจดหมายยืนยันว่าเป็นสมาชิกของสมาคมฟุตบอลปากีสถาน รวมถึงใบรับรองจากกระทรวงต่างประเทศ
ทว่า สิ่งที่พวกเขาเอะใจก็คือ สมาชิกทั้ง 22 คนในทีม ต่างแต่งตัวในชุดแข่ง แถมช่วงเวลานี้ ยังเป็นช่วงที่ลีกในเอเชียยังไม่ปิดฤดูกาล ขณะที่ในญี่ปุ่น ก็ไม่มีสโมสรที่ชื่อว่า เบาวิสตา แต่มันคือสโมสรที่อยู่ในลีกโปรตุเกส
ทำให้เจ้าหน้าที่ได้กักตัวเอาไว้เพื่อตรวจสอบ ก่อนจะพบว่าทุกอย่างเป็นเรื่องที่กุขึ้นมาทั้งหมด และสโมสรฟุตบอลนี้ ไม่ใช่ทีมฟุตบอล แต่เป็นผู้ที่จะลักลอบเข้าเมืองแบบผิดกฎหมาย
จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้มาจากชายที่ชื่อว่า มาลิค วาควาส เขาได้ก่อตั้งทีมฟุตบอลปลอมขึ้นมา และใช้เอกสารปลอมจากสมาคมฟุตบอลปากีสถาน รับรองการเป็นสมาชิก
จากนั้นเขาจะรับสมัครคนที่อยากจะเดินทางไปทำงานที่ญี่ปุ่น โดยคิดค่าบริการคนละ 4-4.5 ล้านปากีสถานรูปี หรือราว 450,000 บาท
วาควาส จะใช้เอกสารปลอมสร้างโปรไฟล์ขึ้นมาใหม่ให้ผู้คนเหล่านี้ในฐานะนักฟุตบอล และก่อนออกเดินทาง พวกเขาจะต้องเข้าอบรมเพื่อซักซ้อมให้ตัวเองดูเป็นนักฟุตบอลอาชีพมากที่สุด
“แต่ละคนจะถือเอกสารปลอม และวางตัวว่าเป็นนักฟุตบอล เพื่อเข้าเมืองในต่างแดน” โฆษกของหน่วยสอบสวนกลางของ ปากีสถาน อธิบาย
อย่างไรก็ดี แม้จะออกจากปากีสถานได้ แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถลอดเร้นจากสายตาเจ้าหน้าที่ญี่ปุ่น และถูกกักตัวไว้ที่สนามบินเมื่อวันที่ 15 กันยายน ขณะที่ วาควาส หัวหน้าขบวนการ ก็ถูกจับในบ้านเกิดในวันเดียวกัน
“การถูกจับของ วาควาส ถือเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญในการทลายเครือข่ายขบวนการค้ามนุษย์ ที่แสวงหาผลประโยชน์จากชาวปากีสถาน โดยใช้กีฬาบังหน้า” มูฮัมหมัด บิน อัชราฟ ผู้อำนวยการหน่วยสืบสวนกลางเมือง กูรันวาลา กล่าว
ทั้งนี้ วาควาส ไม่ได้ทำครั้งนี้เป็นครั้งแรก เพราะหลังถูกจับเขาสารภาพว่า เมื่องช่วงเดือนมกราคม 2024 ก็เคยใช้วิธีเดียวกันในการพานักฟุตบอลปลอม 17 คนเข้าญี่ปุ่นโดยที่ไม่ถูกจับมาก่อน
ปัญหาคนลักลอบเข้าเมืองแบบผิดกฎหมาย ถือเป็นหนึ่งปัญหาใหญ่ที่ญี่ปุ่นต้องเผชิญ โดยจากข้อมูลของกระทรวงยุติธรรม ที่อัพเดตล่าสุดเมื่อปี 2023 ระบุว่ามีผู้อยู่เกินวีซ่าในญี่ปุ่นมากถึง 70,491 คน