เขาว่ากันว่าการสูญเสียคนรักไปแบบไม่มีวันกลับอาจเป็นจุดเปลี่ยนให้ชีวิตของใครบางคนต้องเปลี่ยนไปตลอดกาล เช่นเดียวกับ ‘เอวานิลสัน’ กองหน้าชาวบราซิลของ บอร์นมัธ ที่เกือบหันหลังให้ฟุตบอลเพราะการจากไปของคุณแม่
อย่างไรก็ตาม การข้ามน้ำข้ามทะเลจากบ้านเกิดมาค้าแข้งที่ประเทศสโลวาเกียท่ามกลางอุณหภูมิ -5 องศา กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ เอวานิลสัน กลับมามีความสุขกับฟุตบอลอีกครั้ง หลังต้องเผชิญกับความเศร้าโศกที่สุดในชีวิต
เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นเช่นไร? ติดตามได้ที่นี่
เอวานิลซอน
ย้อนกลับไปเมื่อ เอวานิลสัน อายุได้ 13 ปี เขาต้องแบกกระเป๋าออกจากบ้านที่เมืองฟอร์ตาเลซา ตามลำพัง เพื่อเข้าร่วมอคาเดมีของ ฟลูมิเนนเซ่ สโมสรชื่อดังของบราซิล ที่ปลุกปั้นนักเตะอย่าง ติอาโก้ ซิลวา, มาร์เชโล และ ฟาบินโญ ขึ้นมาประดับวงการ
แม้ใจลึก ๆ จะไม่อยากออกจากบ้านเกิดเมืองนอนและห่างไกลจากครอบครัว แต่สุดท้ายแล้วด้วยพรสวรรค์ด้านลูกหนังก็ทำให้ เอวานิลสัน กลายเป็นหนึ่งในนักเตะเยาวชนที่น่าจับตามองที่สุดประจำสโมสร
อย่างไรก็ตาม ไม่นานจุดเปลี่ยนก็มาถึง ขณะที่เขาอายุ 17 ปี ‘มาดาเลนา’ คุณแม่ของเขาได้เสียชีวิตลงแบบกะทันหัน จนทำให้ เอวานิลสัน ถึงกับเสียศูนย์จนมีความคิดอยากเลิกเล่นฟุตบอลในทันทีเนื่องจากยอมรับความเจ็บปวดในครั้งนี้ไม่ไหว
ลุ้นโชคที่นี่! ทายผลฟุตบอลประจำวันกับเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือที่สุด
“เรื่องนี้กระทบต่อผมอย่างมาก ผมสนิทกับแม่ที่สุด ผมกลับไปที่ ฟอร์ตาเลซา และไม่อยากกลับมา ริโอ เพื่อเล่นฟุตบอลอีกต่อไป” เอวานิลสัน เล่าเรื่องราวผ่าน The Sun
ท่ามกลางความโศกเศร้าและความคิดที่จะแขวนสตั๊ด เอวานิลสัน ก็ได้ครอบครัวและสโมสรคอยอยู่เคียงข้างพร้อมกับโน้มน้าวให้เขากลับมาเล่นฟุตบอลอีกครั้ง ก่อนที่สุดท้ายเขาจะย้ายไปอยู่กับ ซานโมริน สโมสรพันธมิตรในลีกรองสโลวาเกีย ด้วยสัญญายืมตัว ซึ่งที่นี่มีอดีตโค้ชทีมเยาวชนของฟลูมิเนนเซ่เป็นกุนซือใหญ่ รวมถึงดาวรุ่งชาวบราซิลคนอื่น ๆ ที่ถูกปล่อยยืมมา
“ตอนแรกผมไม่อยากไป ซาโมริน เพราะเพื่อน ๆ ที่กลับมาจากที่นั่นไม่ค่อยพูดถึงเรื่องดี ๆ มากนัก แต่ผู้จัดการของผมบอกว่า ‘ดูสิ มันจะทำให้ชีวิตคุณในฐานะนักเตะอาชีพเปลี่ยนไป’ ผมเลยคิดว่าทางออกที่ดีที่สุดคือการไปที่นั่น หลังจากผ่านพ้นเรื่องการเสียชีวิตของคุณแม่”
“ผมออกจากริโอที่มีอุณหภูมิเฉลี่ย 40 องศา เพื่อไปค้าแข้งในประเทศที่อุณหภูมิเหลือ -5 องศา ผมไม่เคยเห็นหิมะมาก่อนเลยในชีวิต มันยากมากที่จะปรับตัว”
Evanilson (🇧🇷-'99), otro ejemplo más de que las carreras de los jugadores no son lineales.
— Javier (@javittofut) August 17, 2024
🇸🇰 El brasileño, que acaba de recalar en la Premier, tuvo un paso por Eslovaquia en el Samorin cuando éste era una filial de Fluminense. Le sirvió mucho.
Hoy, fichaje récord por 40M£. pic.twitter.com/xqPXMBftfG
“ครั้งแรกที่ผมฝึกซ้อม ผมไม่สามารถฝึกซ้อมจนจบได้เพราะหนาวเกินไป ผมไม่เข้าใจถึงความสำคัญของการสวมถุงมือ ดังนั้นเมื่อฝึกซ้อมเสร็จ ผมก็เอามือแช่ในน้ำร้อนเพราะมันแทบจะแข็งอยู่แล้ว”
“พวกเรามีกันอยู่ 3-4 คน ดังนั้นผมไม่ได้อยู่คนเดียว นั่นเป็นเรื่องดี ไม่มีใครพูดภาษาที่นั่นได้ ดังนั้นเราจึงอยู่ด้วยกัน ผมคิดว่านั่นช่วยชีวิตผมไว้ได้ เราผลัดกันทำความสะอาด ทำอาหาร ล้างจาน และกินอาหารบราซิลทุกวัน”
“มันเป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่าสำหรับพวกเราทุกคน ผมรู้สึกว่าตัวเองเติบโตขึ้นมากจากตรงนั้น ที่สำคัญมันทำให้ผมเป็นนักฟุตบอลอย่างแท้จริง ผมตกหลุมรักเกมนี้อีกครั้ง”
แม้จะลงสนามให้กับ ซานโมริน ไปเพียง 6 นัด และทำได้ 3 ประตู แต่เมื่อกลับมายังบราซิล เอวานิลสัน ก็ระเบิดฟอร์มโหดซัด 11 ประตู พา ฟลูมิเนนเซ่ U20 คว้าแชมป์ ของรัฐริโอมาครองได้สำเร็จ ก่อนขึ้นชุดใหญ่ในปี 2019
ต่อมาในปี 2020 เอวานิลสัน ก็ย้ายมาเล่นในยุโรปอีกครั้งกับ เอฟซี ปอร์โต้ ยักษ์ใหญ่แห่งโปรตุเกส พร้อมทำผลงาน 60 ประตู จาก 154 นัดรวมทุกรายการ จนทำให้เขากลายเป็นกองหน้าเนื้อหอมในช่วงเวลาหนึ่ง ก่อนสุดท้ายเป็น บอร์นมัธ ที่คว้าตัวเขาไปร่วมทีมด้วยค่าตัวสถิติสโมสรที่ 40.2 ล้านปอนด์
“ผมใฝ่ฝันที่จะได้เล่นในพรีเมียร์ลีกมาโดยตลอด ผมรู้เพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับ บอร์นมัธ แต่ผมประทับใจมากตั้งแต่ผมมาถึงที่นี่ สโมสรแห่งนี้นำเสนอสิ่งดี ๆ ให้กับผม”
“ผมได้รับข้อเสนอจากสโมสรอื่น ๆ มากมาย แต่ข้อเสนอจาก บอร์นมัธ เป็นแรงบันดาลใจให้ผมมากที่สุด เป้าหมายต่อไปของผมคือการได้เล่นในฟุตบอลยุโรป ผมต้องการเล่นให้กับ บอร์นมัธ ในแชมเปียนส์ลีก ผมมองโลกในแง่ดีว่าเราจะสามารถทำได้”
ทายผลฟุตบอลพร้อมลุ้นรางวัล คลิกที่นี่