ลอนดอนในวันเสาร์อัดแน่นไปด้วยฟุตบอลพรีเมียร์ลีกถึง 5 คู่ แต่เกมที่น่าจับตาที่สุดกลับไม่ได้อยู่ในกรุง หากอยู่ในรอบคัดเลือกเอฟเอ คัพ ระหว่างสองสโมสรเล็ก ๆ ที่มีชื่อเดียวกัน เอนฟิลด์ เอฟซี ทีมจากดิวิชัน 8 พบกับ เอนฟิลด์ ทาวน์ ทีมจากดิวิชัน 6 ศึกที่แฟนบอลเรียกกันว่า “ดาร์บี้เอนฟิลด์”
นี่คือการเผชิญหน้าครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของสองสโมสร แม้เคยเจอกันบ้างในถ้วยท้องถิ่น แต่นี่คือครั้งแรกในฟุตบอลถ้วยที่เก่าแก่ที่สุดของโลก
จากสโมสรชั้นนำในลีกสมัครเล่น สู่การสูญเสียตัวตน
เอนฟิลด์ เอฟซี ในทศวรรษ 1980 เคยเป็นทีมใหญ่ของฟุตบอลนอกลีก พวกเขาได้แชมป์เอฟเอ โทรฟี่สองครั้ง และได้แชมป์ดิวิชัน 5 สมัยที่ยังไม่มีระบบเลื่อนชั้นอัตโนมัติ หากเกิดขึ้นในยุคนี้ พวกเขาอาจได้ไปเล่นฟุตบอลลีกจริง ๆ แล้ว
แต่โอกาสทองนั้นหายไป เมื่อกฎเปลี่ยนช้าไปเพียงปีเดียว หลังจากนั้น เส้นทางของเอนฟิลด์เต็มไปด้วยปัญหาการเงินและการบริหารที่ผิดพลาด
ปี 1999 ประธานสโมสรขายสนามเหย้า Southbury Road เพื่อทำที่อยู่อาศัยและห้างร้าน โดยสัญญาจะสร้างสนามใหม่ให้ แต่เวลาผ่านมากว่าสองทศวรรษ สโมสรยังไม่มีบ้านของตัวเอง ต้องเร่ร่อนย้ายสนามเช่าไปเรื่อย ตั้งแต่ Boreham Wood, Ware, Harlow, Bishop’s Stortford จนถึงปัจจุบันที่ Hertford Town
ชัดเจนแล้วว่า เอนฟิลด์ เอฟซี ไม่ได้เป็น “ทีมของเอนฟิลด์” อีกต่อไป
การกำเนิดของ เอนฟิลด์ ทาวน์ : สโมสรที่แฟนบอลสร้าง
ปี 2001 แฟนบอลกลุ่มหนึ่งทนไม่ไหวกับทิศทางของทีม พวกเขาตัดสินใจสร้างสโมสรใหม่ขึ้นมาในชื่อ เอนฟิลด์ ทาวน์ เอฟซี — และนี่คือสโมสรแรกในอังกฤษที่บริหารแบบ “แฟนถือหุ้น” หรือ supporter-owned club
“สโมสรเก่าตายไปแล้วตั้งแต่วันที่พวกเขาออกจากเอนฟิลด์” เดฟ ไบรอันท์ ประธานคนแรกของทาวน์กล่าวไว้ในวันก่อตั้ง
พวกเขาเริ่มต้นจากดิวิชันที่ต่ำกว่าเอนฟิลด์ เอฟซี สามขั้น แต่กลับดึงดูดแฟนบอลได้มากกว่า และที่สำคัญที่สุดคือ สามารถพาทีมกลับมาเล่นในเอนฟิลด์ได้จริงในปี 2011 ที่สนาม Queen Elizabeth II Stadium (ปัจจุบันชื่อ The Dave Bryant Stadium ตามผู้ก่อตั้ง)
สนามแห่งนี้อาจไม่สมบูรณ์แบบ มีลู่วิ่งคั่นอยู่ แต่ก็ถูกปรับให้มีอัฒจันทร์หลังประตู สร้างบรรยากาศนอนลีกขนานแท้
ปัจจุบัน ทาวน์อยู่ใน เนชันแนล ลีก เซาท์ ระดับดิวิชัน 6 ของอังกฤษ ค่าเฉลี่ยผู้ชมเกือบ 1,000 คนต่อเกม และถูกมองว่าเป็นโมเดลให้กับสโมสรเล็ก ๆ ที่อยากใช้ระบบแฟนถือหุ้น
เอนฟิลด์ เอฟซี : สโมสรที่อยู่ได้ด้วยการพยุง
ตรงกันข้าม เอนฟิลด์ เอฟซี หลังล้มละลายและก่อตั้งใหม่ในปี 2007 ยังวนเวียนอยู่กับการขาดผู้ชมและการเงินที่ไม่มั่นคง จำนวนผู้ชมเฉลี่ยเพียงร้อยกว่าคน ต้องแจกตั๋วฟรีเพื่อให้สนามดูไม่ร้าง
ยิ่งไปกว่านั้น ปี 2023 สโมสรต้องเจอเรื่องเศร้า เมื่อ ไซม่อน นีดแฮม ผู้อำนวยการสโมสร ถูกพบว่าเสียชีวิตในสภาพที่เชื่อว่าเป็นการฆ่าตัวตาย ท่ามกลางหนี้สินกว่า 24 ล้านปอนด์ที่ถูกเปิดเผยตามมา เหตุการณ์นั้นสะเทือนทั้งภาพลักษณ์และความมั่นคงของทีมอย่างหนัก
ดาร์บี้ที่เป็นทั้งความขมขื่นและความภาคภูมิใจ
แล้วนี่คือสิ่งที่ทำให้การเจอกันครั้งนี้น่าสนใจ แฟนบอลจำนวนมากของเอนฟิลด์ ทาวน์ เคยเป็นกองเชียร์เอนฟิลด์ เอฟซี มาก่อน พวกเขาเลือก “หันหลัง” ให้สโมสรเก่าเพราะเชื่อว่ามันไม่ใช่ทีมบ้านเกิดอีกต่อไป
ฝั่งทาวน์มีแฟนบอลตามมาเชียร์หลายร้อยคน สร้างเสียงเพลงเสียดสีตลอด 90 นาที
ทั้ง “คุณไม่มีสนาม” “นี่ไม่ใช่เอนฟิลด์อีกแล้ว” และ “เราคือเอนฟิลด์ทาวน์ ที่หนีคุณมาเพราะคุณห่วย”
ในสนาม เกมจบลงง่าย ๆ ทาวน์ชนะ 3-0 ด้วยคุณภาพที่เหนือกว่าแทบทุกตำแหน่งสำหรับหลายคน ดาร์บี้นี้ไม่ใช่ศึกของความเกลียด แต่คือการสะท้อนถึง สองเส้นทางของสโมสรที่เคยเป็นหนึ่งเดียว
เอนฟิลด์ เอฟซี คือภาพแทนของการบริหารที่ผิดพลาด สูญเสียบ้าน สูญเสียแฟนบอล และค่อย ๆ เลือนหายไปจากชุมชน
เอนฟิลด์ ทาวน์ คือบทพิสูจน์ว่าแฟนบอลสามารถสร้างสโมสรขึ้นมาใหม่ และทำให้มันกลายเป็นหัวใจของเมืองได้อีกครั้ง
ไม่ว่าคำตอบจะเป็นเช่นไร แต่ชัยชนะทั้งในและนอกสนามในเกมนี้บอกเราแล้วว่า วันนี้ “เอนฟิลด์” ที่แท้จริง อาจเป็นทีมที่แฟนบอลสร้างขึ้นมาเอง
บทความที่เกี่ยวข้อง