ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต : อัจฉริยะแห่งการปั้นกองหน้า ที่ทำเงิน 345 ล้านยูโร ใน 6 ปี

Guy Tanapon

ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต : อัจฉริยะแห่งการปั้นกองหน้า ที่ทำเงิน 345 ล้านยูโร ใน 6 ปี image

Getty Images

แม้ว่า ไอน์ทรัค แฟรงค์เฟิร์ต จะไม่ใช่ทีมทีมแย่งแชมป์บุนเดสลีกาแข่งกับ บาเยิร์น มิวนิค แต่นี่คือหนึ่งในทีมที่ทำเงินจากวงการลูกหนังได้เยอะมาก ๆ จากการขายผู้เล่นกองหน้าออกจากทีม หลังพวกเขาทำเงินไปกว่า 345 ล้านยูโรในช่วง 6 ปีหลังสุด

แน่นอนว่าต้องมีคำถามตามมาแน่ ๆ นั่นก็คือ พวกเขาทำแบบนั้นได้อย่างไร โดยที่ทีมยังโลดแล่นอยู่บนลีกสูงสุดได้แม้ว่าจะเสียตัวหลักออกไปแทบทุกปี ตามอ่านบทความเต็มได้ที่นี่

สโมสรตัวกลาง

มาร์คุส เครอเชอ ผู้อำนวยการด้านกีฬาของ แฟรงค์เฟิร์ต เคยกล่าวเอาไว้ว่าการขายนักเตะที่ดี ๆ ออกจากทีมไป มันเหมือนกับเป็นการบังคับสโมสรให้อยู่รอดต่อไปให้ได้ด้วยตัวเอง ไม่จำเป็นเลยที่สโมสรจะต้องพึ่งใครคนใดคนหนึ่ง

ดังนั้น แฟรงค์เฟิร์ต เลยคิดแผนเอาไว้ว่าพวกเขาจะเป็น "สโมสรตัวกลาง" หรือพูดง่าย ๆ ว่าเป็นทางผ่าน ให้เหล่านักเตะยอดฝีมือมาอยู่ที่นี่ช่วงระยะเวลาหนึ่ง และเมื่อถึงเวลา เมื่อทีมใหญ่ ๆ มาสนใจ สโมสร ก็พร้อมที่จะปล่อยนักเตะออกจากทีมทันที

แน่นอนว่าเรื่องนี้ มันกลายเป็น วิน-วิน กันทั้งสองฝ่าย ในมุมของสโมสร พวกเขาได้นักเตะมาราคาถูก เอามาปั้น แล้วก็ขายไปในราคาแพง ในขณะที่ตัวนักเตะ ก็ได้ขึ้นชื่อว่าเคยเล่นให้กับ แฟรงค์เฟิร์ต ทีมจอมปั้นกองหน้าและนักเตะคุณภาพ มันก็สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับนักเตะไปโดยปริยาย

Randal Kolo Muani of Eintracht Frankfurt
Getty Images

ลงทุนเพื่อ "พัฒนา" นักเตะ

เมื่อรู้แล้วว่าแนวทางของสโมสร ก็คือการปั้นนักเตะแล้วขายออกเอากำไร แฟรงค์เฟิร์ต ก็เลยต้องลงทุนกับการพัฒนานักเตะเป็นพิเศษกว่าทีมอื่น ๆ

The Athletic รายงานว่าพวกเขาทำการปรับปรุงศูนย์ฝึกซ้อมให้ทันสมัยอยู่ตลอดเวลา, จ้างสต๊าฟโค้ชฝีมือดี, จ้างนักโภชนาการชั้นยอด และทำโปรแกรมฝึกซ้อมเอาไว้สำหรับนักเตะดาวรุ่งเท่านั้น

ทั้งหมดนี้ ก็เพื่อให้นักเตะที่ได้ย้ายมาอยู่กับ แฟรงค์เฟิร์ต มีพัฒนาการที่ก้าวกระโดด และสามารถไปเล่นในลีกใหญ่ ๆ ของยุโรปได้ภายในระยะเวลาเพียงไม่กี่ปี

แค่กองหน้า ก็ทำกำไรแล้ว

อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้น ในช่วงหลัง แฟรงค์เฟิร์ต กลายเป็นทีมที่ปั้นกองหน้าแล้วขายออกได้กำไรเยอะมาก ๆ อย่างรายล่าสุดกับ อูโก้ เอกิติเก้ ที่ปล่อยออกจากทีมไปด้วยค่าตัวที่สูงถึง 93 ล้านยูโร

หรือก่อนหน้านี้กับ โคโล มูอานี และ โอมาร์ มาร์มูช ที่เซ็นมาแบบฟรี ๆ ก่อนที่จะขายทั้งสองไปด้วยราคารวมกว่า 165 ล้านยูโร

ซึ่งนั่นก็ทำให้ในช่วง 6 ปีหลังสุด แฟรงค์เฟิร์ต ทำเงินไปมากกว่า 345 ล้านยูโร จากการขายนักเตะกองหน้าออกจากทีม ย้ำว่านี่แค่ในส่วนของผู้เล่นกองหน้าเท่านั้น

การซื้อผู้เล่นแบบ แฟรงค์เฟิร์ต

อ่านมาจนถึงตอนนี้ ผู้อ่านก็น่าจะมีข้อสงสัยกันอยู่บ้างแล้วว่า แล้วนักเตะในแบบที่ แฟรงค์เฟิร์ต อยากเซ็นสัญญาเข้ามาปั้นจะต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้าง

The Athletic ได้เปิดเผยเอาไว้ว่า แฟรงค์เฟิร์ต จะประเมินสถานการณ์ก่อนว่านักเตะรายนั้น ๆ มีโอกาสที่เซ็นมาแล้วสามารถขายต่อได้หรือไม่

จากนั้น พวกเขาก็จะมองไปที่ว่านักเตะรายนี้ สามารถเล่นได้กี่ตำแหน่ง ยกตัวอย่างเช่น หากว่าเป็นกองหน้า นักเตะรายนี้สามารถถ่างออกมาเล่นริมเส้นได้หรือไม่ หรือจะลงต่ำมาปั้นเกมเป็นเบอร์ 10 ได้หรือเปล่า

ต่อมา ก็มามองต่อกันที่อายุ แน่นอนว่า แฟรงค์เฟิร์ต เน้นเซ็นแต่พวกดาวรุ่ง ทำให้ระยะอายุของนักเตะที่พวกเขาต้องการคืออายุต่ำกว่า 25 ปีเท่านั้น ซึ่งถ้าหากย้อนไปดู 26 ดีลการซื้อนักเตะเข้าล่าสุด จะเห็นเลยว่ามีถึง 21 คนที่มีอายุต่ำกว่า 25 ปี

Omar Marmoush Frankfurt 102324

สไตล์ตอบโจทย์ตลาดพรีเมียร์ลีก

พรีเมียร์ลีก ขึ้นชื่ออยู่แล้วว่าเป็นลีกฟุตบอลที่ดีที่สุดในโลกตอนนี้ ซึ่งปัจจัยหลัก ๆ เล่นก็คือพรีเมียร์ลีก เป็นลีกที่เน้นเล่นเกมไว ไม่มียืดยาด โดยเฉพาะการเล่นเกมสวนกลับ

ไอน์ทรัค แฟรงค์เฟิร์ต ก็เป็นทีมแบบนั้น พวกเขาไม่ใช่ทีมที่รับจ๋าขนาดนั้น แต่ถ้าเรื่องการเล่นเกมโต้กลับเร็ว พวกเขาไม่เป็นสองรองใคร เพราะนี่คือทีมที่สร้างโอกาสจากการโต้กลับมากที่สุดในบุนเดสลีกา และพวกเขาเป็นรองเพียงแค่ ลิเวอร์พูล เพียงแค่ ลิเวอร์พูล ทีมเดียวเท่านั้นจาก 5 ลีกใหญ่ของยุโรป

ถ้าหากว่าไม่เห็นภาพ ก็ให้ลองนึกถึงนักเตะอย่าง โคโล มูอานี, โอมาร์ มาร์มูช และ อูโก้ เอกิติเก้ ที่เป็นนักเตะที่เล่นเกมสวนกลับได้ดีมาก ๆ ซึ่งปัจจุบัน นักเตะทั้ง 3 คน ก็ได้ย้ายมาเล่นในพรีเมียร์ลีกกันหมดแล้ว

บทความที่เกี่ยวข้อง

Guy Tanapon

 นักเขียน The Sporting News Thailand ผู้รักการดูฟุตบอล, ดูหนัง, ฟังเพลง และตีดอท