3 คลีนชีทจาก 5 นัด คือผลงานของ เคอรติส แอนเดอร์สัน ที่ทำให้เขาคว้าแชมป์โลก U17 เคียงข้างกับแข้งพรีเมียร์ลีกอย่าง ฟิล โฟเดน, มาร์ค เกฮี, มอร์แกน กิบส์-ไวท์ และ จาดอน ซานโช
ผ่านไป 8 ปี นับตั้งแต่ทัวร์นาเมนต์ที่อินเดีย เขาเป็นผู้เล่นเพียงแค่คนเดียวจากทีมชาติอังกฤษในยุคนั้น ที่ไม่ได้เล่นฟุตบอลต่อ ทั้งที่เพิ่งจะอายุ 24 ปีเท่านั้น
เกิดอะไรกับชีวิตของผู้รักษาประตูแชมป์โลกรายนี้? ติดตามไปพร้อมกัน
โกลแชมป์โลก
เคอร์ติส แอนเดอร์สัน มีชีวิตไม่ต่างจากนักฟุตบอลในยุคปัจจุบันทั่วไป เขาเริ่มเล่นฟุตบอลตั้งแต่อายุยังน้อยให้กับทีมในเมืองแบร์โรว อิน เฟอร์เนส บ้านเกิด ที่พ่อเขาเป็นโค้ช ก่อนจะถูกแบล็คพูล ดึงตัวไปร่วมทีมในเวลาต่อมา
จนกระทั่งตอนอายุ 11 แอนเดอร์สัน ก็ได้รับความสนใจจากสองสโมสรจากเมืองแมนเชสเตอร์ - ยูไนเต็ด และ ซิตี้ และเป็นเรือใบสีฟ้า ที่ได้ลายเซ็นเขาไปครอบครอง
การย้ายจากสโมสรเล็กๆ มาอยู่ทีมใหญ่ ที่เต็มไปด้วยเครื่องอำนวยความสะดวก และสภาพแวดล้อมที่ดีเยี่ยม ทำให้ แอนเดอร์สัน มีพัฒนาการอย่างก้าวกระโดด
“การได้อยู่ในสภาพแวดล้อมแบบขั้นสุดในทุกวัน ที่คุณต้องพยายามไปให้ถึงจุดสูงสุด ทำงานหนักเท่าที่จะทำได้ และถูกคัดออกหากไม่ได้อยู่ในระดับนั้น เป็นสิ่งที่ไม่ใช่เด็กทุกคนจะได้สัมผัส” แอนเดอร์สัน กล่าวกับ BBC
และในปี 2017 เขาก็ได้รับการยอมรับในฝีมือ หลังถูก สตีฟ คูเปอร์ เรียกติดทีมชาติอังกฤษชุด U17 ที่โครเอเชีย ก่อนจะร่วมคว้าตำแหน่งรองแชมป์ แม้ไม่ได้ลงเล่นสักนาทีก็ตาม
แต่ดูเหมือนทัวร์นาเมนต์ดังกล่าวจะเป็นแค่ใบเบิกทางของ แอนเดอร์สัน เท่านั้น เมื่อใน 5 เดือนต่อมา ในฟุตบอลโลก U17 ที่อินเดียในปีเดียวกัน เขาถูกวางให้เป็นมือ 1 ของทัพสิงโตชุดนี้

และโกลดาวรุ่งของ แมนฯ ซิตี้ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เมื่อสามารถรักษาคลีนชีทได้ถึง 3 เกมจาก 5 นัด ก่อนที่เขา และแข้งดาวรุ่งที่ต่อมาเติบโตเป็นสตาร์พรีเมียร์ลีกอย่าง ฟิล โฟเดน, มาร์ค เกฮี, มอร์แกน กิบส์-ไวท์ และ จาดอน ซานโช จะพาสิงโตคำราม U17 ผงาดคว้าแชมป์โลกอย่างยิ่งใหญ่
โดยเฉพาะในนัดชิงชนะเลิศกับสเปน ที่กลายเป็นเกมแห่งความทรงจำ เพราะอังกฤษ เป็นฝ่ายถูกนำไปก่อน 0-2 ตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงแรก แต่ก็มาร่วมแรงร่วมใจยิง 5 ประตูรวด เอาชนะไปได้ด้วสกอร์ 5-2
“เราผ่อนคลายและมั่นใจมาก ไม่มีใครตื่นตระหนกเลย” แอนเดอร์สัน ย้อนความหลัง
“เราตีตื้นได้ และจากนั้นในช่วงพักครึ่ง เราคิดว่า ‘เราทำได้’ ไม่มีใครเครียดหรือสถิติแตกในห้องแต่งตัวเลย”
การเป็นผู้รักษาประตูดีกรีแชมป์โลก แถมยังเติบโตมาจากอคาเดมีของทีมใหญ่ น่าจะทำให้อนาคตของ แอนเดอร์สัน ต่อจากนั้นสดใส ทว่าความเป็นจริงกลับไม่ใช่
รีบเกินไป
หลังจากความสำเร็จที่อินเดียราวปีเศษ แอนเดอร์สัน ก็มาถึงทางแยกสำคัญของชีวิต ระหว่างอยู่กับ แมนฯ ซิตี้ ต่อ หรือย้ายทีมเพื่อหาโอกาสลงเล่นมากขึ้น
สุดท้ายเขาก็เลือกอย่างหลัง เพราะหากยังอยู่กับเรือใบสีฟ้า คงยากจะสอดแทรกขึ้นมาเล่นเป็นตัวจริง และตัวเร่งปฏิกริยาของการตัดสินใจนี้ก็มาจาก ดีลที่จะปล่อยเขาไปเล่นแบบยืมตัวในลีกแชมเปียนชิพ มาล่มลงในนาทีสุดท้าย ในช่วงหน้าหนาว 2019
เนื่องจากเขาเหลือตัวเลือกไม่มากนัก เพราะตอนนั้นตลาดซื้อขายในลีกยุโรป ปิดทำการหมดแล้ว ทำให้ แอนเดอร์สัน ตัดสินใจเลือกไปอยู่กับ ชาร์ล็อตต์ อินดิเพนเดนท์ ในลีกสหรัฐอเมริกา
ก่อนที่มันจะกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิต เมื่อ 3 เดือนต่อมา จิม แม็คกินเนส กุนซือชาวไอร์แลนด์ ที่ดึงตัวเขามาร่วมทีมดันถูกปลด และทำให้เขารู้ตัวว่าตัวเองจะไม่ถูกเลือกอีกแล้ว
“ผมมองย้อนกลับไปและคิดว่าตอนอายุ 18 ปี อะไรคือสิ่งที่ทำให้ผมต้องรีบ” แอนเดอร์สันกล่าว
“ผมรีบร้อนอย่างเต็มที่ที่จะทำทุกอย่าง ผมกลับมาจากฟุตบอลโลกและคาดหวังกับทุกสิ่งในตอนนั้น ผมมองไปที่นักเตะดาวรุ่งคนอื่น ดูสิ่งที่พวกเขากำลังทำ และไม่ค่อยให้คุณค่ากับเส้นทางที่ตัวเองเดินอยู่เลย”
“การได้เล่นให้ซิตี้กับอังกฤษ เส้นทางของผมก็คงจะไปในทิศทางเดียวกัน”
แอนเดอร์สัน ยกเลิกสัญญากับ ชาร์ล็อตต์ ในเดือนสิงหาคม 2019 และดูเหมือนว่าโชคชะตาไม่เป็นใจ เมื่อช่วงปลายปีดังกล่าว เกิดการระบาดของไวรัสโควิด-19 จนทำให้เขาต้องว่างงานอยู่เกือบ 1 ปีเต็ม
จนกระทั่งในปี 2020 เขาก็ได้เซ็นสัญญากับ วีคอม วันเดอเรอร์ส ที่ตอนนั้นอยู่ในระดับ เดอะ แชมเปียนชิพ แต่ก็ถูกปล่อยให้ทีมอื่นในลีกล่างยืมตัวเป็นส่วนใหญ่ จนหมดสัญญากับทีมในปี 2022

แอนเดอร์สัน ได้เล่นฟุตบอลต่ออีกราวปีเศษ กับหลายทีมนอกลีก ก่อนตัดสินใจแขวนสตั๊ดในปี 2023 ด้วยวัยเพียง 23 ปีเท่านั้น
“ผมไม่มีแรงบันดาลใจในการเล่นฟุตบอลเลย” อดีตโกลแชมป์เยาวชนโลกกล่าว
“ผมไม่มีแรงขับและความรักต่อมันเหมือนเมื่อ 5 ปีก่อน ผมมีความสุขกับการทำงานแบบประจำวัน การตัดสินใจที่จะเลิกเล่นก็เกิดขึ้นง่ายๆ แบบนั้นเลย”
ตอนนี้เขาทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้แก่นักกีฬา หลังเพิ่งสอบใบอนุญาตเกี่ยวกับการบัญชี และการเงินผ่าน ที่ได้รับคำแนะนำจากสมาคมนักฟุตบอลอาชีพอังกฤษ
เหตุผลที่ทำให้ แอนเดอร์สัน ก้าวเข้าสู่เส้นทางนี้ ก็เพราะบทเรียนจากตัวเขาเอง ที่ไม่ประสบความสำเร็จกับนักฟุตบอล แถมเงินที่มียังร่อยหรอ
เขาอยากใช้ประสบการณ์ที่ตัวเองมี ช่วยเหลือนักฟุตบอล โดยเฉพาะในลีกล่าง ที่ไม่ค่อยมีความรู้เรื่องนี้ เพื่อเพิ่มรายได้ให้มากที่สุดในชีวิตนักฟุตบอลที่แสนสั้น
“ที่ วีคอม ผมถูกผู้เล่นที่อายุมากกว่าถามอยู่บ่อยๆ ผมจึงตระหนักได้ว่ามันยังขาดการให้การศึกษาและสนับสนุนเกี่ยวกับเรื่องเงินในโลกฟุตบอล” แอนเดอร์สัน กล่าวถึงที่มาของเส้นทางสายใหม่
“ถ้าคุณเป็นผู้เล่นในลีกล่าง ความสำคัญแรกของคุณคือการวางแผนชีวิตหลังเลิกเล่น ถ้าคุณจัดการเรื่องนั้นได้ คุณจะสามารถวางแผนให้ตัวเองและครอบครัวไปได้อีกนานหลายปี”
“ผมมองสิ่งที่ตัวเองรู้ในตอนนี้ และรู้สึกว่าผมจำเป็นต้องช่วยคนในวงการฟุตบอลให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้”
และเพื่อไม่ให้ใคร ต้องตกอยู่ในชะตากรรมเดียวกับที่เขาเคยประสบอีกแล้ว