ต้องปรึกษาแพทย์ : เมื่อครั้งหนึ่ง คริสเตียน นอร์การ์ด เคยมีอาการเสพติดยานอนหลับ

Francis Phumin

ต้องปรึกษาแพทย์ : เมื่อครั้งหนึ่ง คริสเตียน นอร์การ์ด เคยมีอาการเสพติดยานอนหลับ image

การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอคือหนึ่งในสิ่งสำคัญของมวลมนุษยชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับอาชีพนักกีฬาที่ต้องให้ความสำคัญกับสิ่งนี้เป็นพิเศษ เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนลงซ้อมหรือทำการแข่งขัน

อย่างไรก็ตาม คริสเตียน นอร์การ์ด มิดฟิลด์ทีมชาติเดนมาร์กวัย 31 ปี เคยประสบปัญหาด้านการนอนหลับเป็นเวลาหลายปีจนขนาดต้องพึ่งยานอนหลับ ก่อนจะเลิกมันได้ภายหลังปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง

ทำไมว่าที่แข้งใหม่ของ อาร์เซนอล เคยต้องพึ่งยานอนหลับ และเขาเลิกใช้มันได้อย่างไร? ติดตามเรื่องราวทั้งหมดได้ที่นี่

เมื่อครั้งหนึ่ง คริสเตียน นอร์การ์ด เคยเสพติดยานอนหลับ

คริสเตียน นอร์การ์ด กัปตันทีมเบรนท์ฟอร์ด เคยเล่าอุทาหรณ์สมัยที่เขาค้าแข้งอยู่กับ บรอนด์บี้ ทีมในลีกบ้านเกิด ว่าตัวเขานั้นเคยนอนไม่หลับเนื่องจากวิตกกังวลว่าการนอนหลับไม่เพียงพอจะส่งผลต่อฟอร์มในสนาม จนทำให้เขาต้องหันไปพึ่งยานอนหลับในช่วงเวลาหนึ่ง

“ผมจำได้ขึ้นใจเลย ว่ามันเกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อไหร่” คริสเตียน นอร์การ์ด เปิดเผยผ่าน BBC Radio 5 Live

“ก่อนเกมบอลถ้วยนัดสำคัญที่เดนมาร์ก จิตใจผมมีอาการสับสน ผมนอนไม่หลับตอนกลางคืน ผมนึกถึงเกมนั้นขึ้นมา และคิดว่า 'จะเกิดอะไรขึ้นถ้าผมเล่นได้ห่วยแตก เพราะนอนหลับไม่เพียงพอ”

“นั่นกลายเป็นรูปแบบความคิดของผมก่อนเกมถัดไปในทุก ๆ นัด 'ผมต้องนอนหลับให้เพียงพอก่อนเกม ไม่งั้นผมจะเล่นไม่ดี' นั่นคือเหตุผลว่าทำไมคุณต้องทำลายรูปแบบความคิดเหล่านั้น”

อย่างไรก็ตาม การย้ายมาอยู่กับ เบรนท์ฟอร์ด ในปี 2019 ทำให้ นอร์การ์ด ได้พบกับ แอนนา เวสต์ ผู้เชี่ยวชาญและที่ปรึกษาด้านการนอนหลับของสโมสร ซึ่งเธอมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่ทำให้แข้งทีมชาติเดนมาร์กเลิกใช้ยานอนหลับอย่างถาวร

“มันดูยาก แต่ก็ซาบซึ้งใจ และค่อนข้างซาบซึ้งสำหรับคนอย่างผมที่ต้องดิ้นรนกับมัน และอาจลงเอยด้วยการติดยานอนหลับ ผมจำได้ว่าส่งข้อความหา แอนนา เพื่อขอบคุณสำหรับสิ่งที่เธอช่วยผม เพราะนี่เป็นภาพที่ชัดเจนว่ามันอาจแย่ได้ขนาดไหน”

“นี่เป็นหัวข้อที่อาจไม่ค่อยได้รับความสนใจมากนัก ผมคิดว่าตอนนี้มันควรได้รับการเน้นย้ำ ไม่ใช่แค่ในวงการฟุตบอลเท่านั้น แต่ในภาพรวมด้วยว่ามันเป็นเรื่องสำคัญมากแค่ไหน”

“นั่นเป็นหนึ่งในสิ่งที่ผมมีความสุขจริง ๆ และผมดีใจที่ตอนนี้ผมไม่ได้ติดมันแล้ว เพราะผมคิดว่าเมื่อคุณเลิกเล่นฟุตบอลแล้ว คุณก็จะสามารถต่อสู้กับมันได้”

บทความที่เกี่ยวข้อง

Senior Editor