ในขณะที่เพื่อนร่วมรุ่นทยอยแขวนสตั๊ดกันไปทีละคนสองคน แต่สำหรับ สุรชาติ สารีพิมพ์ บนหลักไมล์ 39 ปี ยังคงลงเล่นฟุตบอลในระดับสูงกับทีมใหญ่อย่าง บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ด้วยความกระหายชัยชนะอยู่ตลอดเวลา และยังคงฟิตปั๋งราวกับเป็นดาวรุ่ง
ซึ่งสิ่งที่ทำให้ “น้าเก่ง” ของน้อง ๆ ยังคงวิ่งไม่มีหมดตลอด 90 นาที มีจุดเริ่มต้นมาจากการที่เขาเคยเป็นนักกรีฑามาก่อน หลังหลงรักการวิ่งมาตั้งแต่เด็ก ๆ เนื่องจากต้องตื่นเช้าพร้อมคุณแม่ที่ขายของแต่ไม่มีอะไรทำ ก็เลยสวมรองเท้าผ้าใบวิ่งเล่นหน้าบ้าน
เรื่องราวของอดีตกองหน้าทีมชาติไทยรายนี้เป็นเช่นไร? ติดตามได้ที่นี่
เหตุเกิดที่หน้าบ้าน
สุรชาติ สารีพิมพ์ เกิดที่อำเภอปากชม จังหวัดเลย ในปี พ.ศ 2529 โดยมีคุณพ่อเป็นชาวไทย และมีคุณแม่เป็นชาวลาว อย่างไรก็ตาม เจ้าตัวใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศไทยตั้งแต่แรกเกิด โดยศึกษาชั้นอนุบาลและประถมศึกษาตอนต้นที่โรงเรียนชุมชนบ้านปากชม
เจ้าของเสื้อหมายเลย 9 ของ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด นั่งรำลึกถึงวัยเด็กผ่ายรายการ BGPU PODCAST ว่าละแวกที่เขาอาศัยอยู่นั้นติดเลียบชายแดนและเลาะริมแม้น้ำโขง แถมยังอยู่ห่างไกลความเจริญ ยากต่อการเข้าถึงความรู้เรื่องกีฬา เรียกได้ว่าเยาวชนที่มีความฝันเกี่ยวกับกีฬานั้นอาจจะเป็นไปไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
ด้วยความที่หลายสิ่งหลายอย่างไม่เอื้ออำนวย สุรชาติ จึงเริ่มเล่นกีฬาจากกีฬาที่ไม่ต้องใช้อุปกรณ์อย่างการวิ่ง หลังหลงรักมันมาตั้งแต่เด็ก ๆ เนื่องจากในทุกเช้าเขาต้องตื่นมาพร้อมคุณแม่ที่เตรียมตัวขายของ แต่ตัวเขาเองไม่มีอะไรทำก็เลยออกไปวิ่งเล่นหน้าบ้าน และเป็นนิวัยที่ติดตัวมาจนถึงทุกวันนี้

BG Pathum United
“ผมเคยเป็นนักวิ่ง คือช่วงที่ช่วยแม่ขายของ แม่จะทำร้านขนมจีน ก๋วยเตี๋ยว แล้วแม่จะต้องเตรียมของ เตรียมเครื่อง เตรียมอะไรทุกอย่าง ประมาณตี 4-5 แล้วผมก็จะตื่นมาพร้อมแม่” สุรชาติ สารีพิมพ์ ให้สัมภาษณ์
“คือผมไปช่วยอะไรแม่ไม่ได้หรอกครับ แต่ผมตื่นมาผมจะมาวิ่ง ผมจะวิ่งที่หน้าบ้านเป็นถนนหลัก คือวิ่งเล่นอยู่หน้าบ้านนี่แหละครับ ที่ต่างจังหวัดช่วงตี 4-5 มันจะมืดมาก บรรยากาศดี มีหมอกมีอะไร ผมชอบบรรยากาศแบบนั้น”
“เหมือนมันปลูกฝังมาตั้งแต่เด็กอะครับ แล้วก็วิ่งผ่านไปผ่านมา วิ่งไปอีกหมู่บ้านนึง ไปอีกตำบลนึง มันเลยปลูกฝังมาแบบนั้น มันเหมือนเป็นการสร้างความแข็งแรงของเรามาตั้งแต่ช่วงนั้นเลย”
“ตอนเด็กผมจะเริ่มแข่ง 50, 80 และ 100 เมตร 3 ระยะนี้ ผมกินเรียบเลยครับ”
หลังจากเล่นกรีฑาจนเป็นถึงตัวแทนอำเภอไปแข่งระดับจังหวัด ไม่นานนัก สุรชาติ ก็เริ่มรู้จักกีฬาฟุตบอลและเล่นมันอย่างจริงจัง ด้วยสปีดต้นอันจัดจ้านจากการเป็นนักวิ่งระยะสั้นมาก่อน และความมุ่งมั่นที่ติดตัวมาตั้งแต่เด็ก ๆ ทำให้ช่วงมัธยมปลาย “เก่ง” ได้เข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนปทุมคงคา อีกหนึ่งมหาอำนาจลูกหนังขาสั้น

BG Pathum United
ภายหลังจบการศึกษา สุรชาติ ได้มีโอกาสไปอยู่กับ ปตท และลงเล่นในฟุตบอลรายการต่าง ๆ ก่อนที่จะได้รับโอกาสจากสโมสรฟุตบอลเพื่อนตำรวจ และอยู่กับทีมแห่งนี้มานานนับ 10 ปี จนเป็นหนึ่งในตำนานนักเตะของสุภาพบุรุษโล่เงิน
กระทั่งปี 2016 เพื่อนตำรวจ ประสบปัญหาด้านการเงินจนถึงขั้นยุบทีม ทำให้ สุรชาติ ย้ายมาอยู่กับ บางกอกกล๊าส เอฟซี หรือ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด จนถึงปัจจุบัน มีสถิติลงสนามให้ “เดอะ แรบบิท” 214 นัด ทำไป 56 ประตู ขึ้นแท่นเป็นว่าที่ตำนานของสโมสรคนต่อไป