“เวลาที่เราซื้อนักเตะ ผมมองว่าตัวเองเป็นเพียงผู้ช่วยของพวกเขา”
นี่คือคำพูดเรียบง่ายแต่ชัดเจนจาก อันโดนี อิราโอลา เฮดโค้ชบอร์นมัธ ผู้เพิ่งพาทีมสร้างประวัติศาสตร์คว้าแต้มสูงสุดบนเวทีพรีเมียร์ลีก และจบอันดับ 9 เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา
อันโดนี อิราโอลา สิ่งที่ได้จาก NBA และมาปรับใช้กับ บอร์นมัธ
แต่ซัมเมอร์นี้ โครงสร้างทีมที่เขาสร้างต้องเผชิญการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เสียทั้ง ดีน ฮุยเยน ให้เรอัล มาดริด, มิลอส เคอร์เคซ ให้ลิเวอร์พูล และ เกปา อาร์ริซาบาลากา ที่หมดสัญญายืมตัวจากเชลซี ยังมีโอกาสเสีย อิลยา ซาบาร์นี ให้ปารีส แซงต์-แชร์กแมงอีกด้วย
แนวรับที่เคยหยุดทีมระดับ อาร์เซนอล, แมนฯ ซิตี้, แมนฯ ยูไนเต็ด, สเปอร์ส และนิวคาสเซิล กำลังหายไปทีละคนแต่แทนที่โค้ชวัย 42 ปีจะตื่นตระหนก เขากลับนั่งอยู่ในห้องประชุมที่ชิคาโกด้วยท่าทีสงบนิ่ง
โค้ชที่ “ยอมรับว่าไม่รู้ทุกอย่าง”
ที่บอร์นมัธ โครงสร้างการทำงานชัดเจน อิราโอลาทำหน้าที่โค้ชเต็มตัว ส่วนงานซื้อขายเป็นของ ติอาโก้ ปินโต้ ประธานฝ่ายฟุตบอล และ ไซมอน ฟรานซิส ผู้อำนวยการเทคนิค
เขายอมรับตรง ๆ ว่า
“ผมไม่ได้รู้จักนักเตะทุกคนในทุกลีก และไม่คิดว่าตัวเองควบคุมตลาดซื้อขายได้เก่งกว่าทีมงาน”
สิ่งที่เขาทำคือ “ให้ความเห็น” เกี่ยวกับโปรไฟล์และคุณสมบัติที่ตำแหน่งนั้นต้องการ ส่วนการเจรจาและตัดสินใจ ปล่อยให้คนที่เชี่ยวชาญจัดการ
การมองนักเตะที่ต่างออกไป
สิ่งที่เขาสนใจ… อาจไม่ใช่แค่เทคนิคหรือสถิติแต่อยู่ที่ “ปฏิกิริยา” ของนักเตะเวลาทีมยิงประตูได้เขาชอบคนที่ฉลองอย่างมีความสุข แม้จะไม่ได้มีส่วนร่วมในจังหวะนั้น เพราะนั่นสะท้อนถึงหัวใจของทีมนอกจากนี้ เขายังหาข้อมูลส่วนตัวของนักเตะจากคนใกล้ชิด เพื่อดูว่าพวกเขาจะปรับตัวเข้ากับทีมได้หรือไม่
เรียนรู้จาก NFL และ NBA
“ใน NFL เราเรียนรู้เรื่องระบบได้เยอะ โดยเฉพาะเรื่องเซตเพลย์” อิราโอลากล่าว
“พวกเขามี playbook 200–300 แผน ให้ผู้เล่น 50 คนรู้หน้าที่กันหมด ปรับได้ทุกสัปดาห์ และไม่มีใครลืมว่าตัวเองต้องทำอะไร”
เขาเปรียบว่าฟุตบอลต่างกัน เพราะไม่มีเวลาหยุดบ่อยเหมือน NFL จึงต้องทำให้ระบบง่ายและกระชับกว่า และต้องพึ่งผู้เล่นที่แก้เกมในสนามได้เอง เช่น ไรอัน คริสตี, ลูอิส คุก, ไทเลอร์ อดัมส์ และ มาร์โก เซเนซี อิราโอลายังศึกษา NBA ในแง่การวางตัวผู้เล่น เช่น เวลาชู้ตแล้วคนอื่นทำอะไร ใครวิ่งเติม ใครรอป้องกัน หรือการสร้าง mismatch ให้ผู้เล่นเก่งที่สุดเจอกับผู้เล่นที่อ่อนที่สุดของคู่แข่ง
โค้ชที่ไม่ยึดติดกับอนาคต
แม้เคยมีข่าวกับสเปอร์ส แต่เขายืนยันว่ามีความสุขกับบอร์นมัธ และไม่กังวลสัญญาที่เหลืออีกไม่ถึงปี
“ถ้าไม่ชนะ ต่อให้เหลือสัญญาอีกสองเดือนก็อาจถูกปลดได้”
เป้าหมายของฤดูกาลใหม่ชัดเจน เริ่มเกมให้ดีกว่าเดิม รักษาความถ่อมตัว และพยายามเข้าใกล้ 100% ของศักยภาพทีมให้มากที่สุดเพราะในพรีเมียร์ลีก
“ถ้าคุณตกลงจากมาตรฐานแม้เพียงนิดเดียว ก็แพ้ได้ทุกทีม”
นี่คือโค้ชที่มองตัวเองเป็น “ผู้ช่วย” มากกว่า “ผู้ควบคุม”ให้ค่ากับหัวใจทีมมากกว่าชื่อเสียงนักเตะและเรียนรู้จากทุกวงการเพื่อนำมาปรับใช้กับเกมลูกหนัง
บทความที่เกี่ยวข้อง