หลังจากพรีเมียร์ลีกนัดที่ 16 จบลง ก็ราวกับเป็นสัญญาณว่า แอฟริกัน คัพ ออฟ เนชั่น 2025 หรือที่รู้จักกันในนาม แอฟคอน ก็จะเริ่มเปิดฉากในอีกไม่ช้า
แน่นอนว่าสำหรับหลายทีมในลีกสูงสุดอังกฤษ นี่อาจจะเป็นทัวร์นาเมนต์ที่พวกเขาไม่ชอบเลย เนื่องจากทีมต้องเสียกำลังหลักที่ต้องไปรับใช้ชาติตั้งแต่ช่วงปลายเดือนนี้ ต่อเนื่องไปจนถึงต้นปี 2026
ส่วนทีมไหนจะเสียผู้เล่นไปกี่คน และได้รับผลกระทบอย่างไรกันบ้าง? ติดตามไปพร้อมกัน
ซันเดอร์แลนด์ทรุด
ปฏิเสธไม่ได้ว่าหนึ่งในทีมที่ทำผลงานได้น่าเซอร์ไพรส์ที่สุดในพรีเมียร์ลีก 2025/26 คือ ซันเดอร์แลนด์ น้องใหม่ที่กำลังบินสูงอยู่ในขณะนี้ หลังเก็บได้ 26 คะแนน พร้อมรั้งอันดับ 7 ของตาราง
ทว่า พวกเขาอาจจะต้องก่ายหน้าผากในช่วงหลังจากนี้ เมื่อ แมวดำ คือทีมที่ต้องเสียนักเตะไปให้ แอฟคอน มากที่สุดถึง 6 ราย
แถมหลายคน ล้วนเป็นผู้เล่นหลักของทีม ไม่ว่าจะเป็น เชมส์ดีน ทัลบี ปีกชาวโมร็อคโก ที่ยิงไปแล้ว 2 ประตูในซีซั่นนี้ เรนัลโด มัลดาวา (โมซัมบิก) แนวรับตัวเก่ง ไปจนถึง โนอาห์ ซาดิกี (ดีอาร์ คองโก) ที่โดดเด่นในแดนกลาง
ส่วนที่หนักไม่แพ้กันก็คือ ฟูแลม แม้จะเสียผู้เล่นไปแค่ 3 ราย แต่ล้วนเป็นตัวสำคัญ ทั้ง คัลวิน บาสซีย์, อเล็กซ์ อิโวบี และ ซามูเอล ชุควูเซ ที่ไปเล่นให้ทีมชาติไนจีเรีย
เช่นกันกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ดูจะเสียหายอย่างหนักกับการหายไปของ ไบรอัน เอ็มเบอร์โม เพราะปีกชาวปีกชาวแคเมอรูนได้กลายเป็นนักเตะที่ขาดไม่ได้ของแมนยูไนเต็ดไปแล้ว
ทั้งนี้นอกจาก เอ็มเบอร์โม แล้ว ปีศาจแดง ยังต้องเสีย อาหมัด ดิยัลโล ที่ได้ลงเล่นสม่ำเสมอในช่วงหลัง และ นุสแซร์ มัซรอวี ที่เป็นอะไหล่ชั้นดี ในแผนหลังสามของ รูเบน อโมริม

แต่ที่ปวดหัวมากที่สุด อาจจะเป็น เบิร์นลีย์ ที่กำลังดิ้นรนหนีตกชั้นแล้วยังมาต้องเสียผู้เล่นไปถึง 3 รายในแอฟริกัน คัพ ออฟ เนชั่น 2025 คือ อักเซล ตวนเซเบ้ (ดีอาร์ คองโก), ไลล์ ฟอสเตอร์ (แอฟริกาใต้), ฮันนิบาล เมจบรี (ตูนิเซีย)
ขณะที่ เอฟเวอร์ตัน แม้จะมีผู้เล่นแค่ 2 คนที่ไปรับใช้ชาติ ได้แก่ อิดริสซา เกย์ และ อิลิมัน เอ็นดิยาย แต่ทั้งคู่ก็เป็นกำลังหลัก ซึ่งไม่ต่างจาก เวสต์แฮม ที่กำลังหนีตกชั้น ที่ต้องเสียแบ็คขวา-ซ้ายอย่าง อารอน วาน บิสซากา และ เอล ฮัดจิ มาลิค ดิยุฟ ในแอฟคอนครั้งนี้
ส่วนทีมที่มีนักเตะไปเล่น แอฟคอน แค่ 1 รายได้แก่ ไบร์ทตัน, คริสตัล พาเลซ และ ลิเวอร์พูล ก็เหนื่อยไม่แพ้กัน เพราะล้วนเป็นผู้เล่นคีย์แมนของทีม ก็คือ คาร์ลอส บาเลบา (แคเมอรูน), อิไมลา ซาร์ (เซเนกัล) และ โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ (อียิปต์) ตามลำดับ

Getty Images
ทั้งนี้ ใช่ว่าจะมีแต่ทีมที่เสียผลประโยชน์จากศึกชิงแชมป์แอฟริกา เมื่อมีถึง 5 สโมสร ที่ไม่มีนักเตะเข้าร่วมแอฟคอนที่ โมร็อคโก ได้แก่ อาร์เซนอล, แอสตัน วิลลา, บอร์นสมัธ, เชลซี, ลีดส์ และ นิวคาสเซิล
จำนวนนักเตะไปรับใช้ชาติใน แอฟริกัน คัพ ออฟ เนชั่น 2025
ซันเดอร์แลนด์ = 6
ฟูแล่ม, แมนฯ ยูไนเต็ด, เบิร์นลี่ย์ = 3
เบรนท์ฟอร์ด, เอฟเวอร์ตัน, แมนเชสเตอร์ ซิตี้, น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์, สเปอร์ส, เวสต์แฮม, วูล์ฟส์ = 2
ไบรท์ตัน, คริสตัล พาเลซ, ลิเวอร์พูล = 1
อาร์เซนอล, แอสตัน วิลล่า, บอร์นมัธ, เชลซี, ลีดส์, นิวคาสเซิล = 0
อันที่จริง บอร์นสมัธ เกือบจะเป็นทีมที่ต้องเสียกำลังหลักอย่าง อองตวน เซเมนโย ที่ยิง 6 ประตูในซีซั่นนี้ แต่โชคดีที่ กานา ของเขาชิงตกรอบคัดเลือกไปก่อน
แมนฯ ยู เหนื่อย
นอกจากจำนวนผู้เล่นที่เสียไปแล้ว สิ่งที่น่าพูดถึงคือผลกระทบต่อประสิทธิภาพของทีม โดยเฉพาะการทำประตู ซึ่งเป็นตัวตัดสินแพ้ชนะของเกม
ด้วยเหตุนี้ เราจึงได้สมมุติสถานการณ์ว่าหากไม่มีประตูจากผู้เล่นชาวแอฟริกา ผลการแข่งขันจะเป็นอย่างไร โดยคำนวนจากประตูที่มีผลต่อคะแนนในแต่ละนัด
เช่น ผลการแข่งขันจริงชนะ 3-2 ได้ 3 คะแนน แต่หากไม่มีประตูของผู้เล่น A จะทำให้เกิดผลเสมอ 2-2 และเหลือแค่คะแนนเดียว (หายไป -2) หรือผลจริง 1-1 ได้ 1 คะแนน ทว่าหากไม่มีประตูจากผู้เล่น B จะทำให้เหลือ 0 คะแนน (หายไป -1) เป็นต้น
อย่างไรก็ดี หากยิงในเกมที่สกอร์ขาด เช่น 3-0 หรือ 4-0 จะไม่ถือว่าเปลี่ยนผลการแข่งขัน (0)
ทั้งนี้ ด้วยสูตรดังกล่าวจะพบว่าทีมที่น่าจะเหนื่อยมากที่สุดคือ แมนฯ ยูไนเต็ด เพราะประตูของ เอ็มเบอร์โม มีผลให้ปีศาจแดงเก็บแต้มเพิ่มได้ถึง 7 คะแนน
ไม่ว่าจะเป็นเกม เบิร์นลีย์ ที่ชนะไปด้วยสกอร์ 3-2, เกมกับ ลิเวอร์พูล ที่คว้าชัยไปด้วยสกอร์ 2-1 หรือนัดพบกับ ไบรท์ตัน ที่แม้จะเอาชนะ 4-2 แต่เกมนี้ ปีกชาวแคเมอรูน ซัดไปถึง 2 ลูก
และเมื่อร่วมกับ ประตูของ อาหมัด ที่ยิงได้ในเกมเสมอกับ น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ จะทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้แต้มจากแข้งแอฟริกันมากที่สุดในพรีเมียร์ลีกถึง 8 แต้ม

Getty Images
ส่วนรองลงมาคือ เอฟเวอร์ตัน และ ซันเดอร์แลนด์ ที่แข้งจากแอฟริกา ช่วยให้พวกเขาเก็บได้ 5 คะแนนเท่ากัน โดยเฉพาะ เอนดิยาย ของท็อฟฟีสีน้ำเงิน ที่ช่วยเปลี่ยนผลการแข่งขันจากเสมอเป็นชนะถึง 2 เกม
คล้ายกับ เบรนท์ฟอร์ด ที่ 2 จาก 3 ประตูของ ดานโก้ อ็อตตารา มีส่วนช่วยให้ทีมเก็บ 3 คะแนน ไม่ว่าจะเป็นประตูชัยเกมเฉือน แอสตัน วิลลา 1-0 หรือ ประตูเปิดกล่องในเกมคว้าชัยเหนือ ลิเวอร์พูล 3-2
แต่ที่น่าสนใจที่สุดคือ ลิเวอร์พูล เพราะแม้ว่า โม ซาลาห์ จะยิงไปถึง 4 ประตู แต่มีแค่ประตูเดียว ที่เปลี่ยนผลการแข่งขัน นั่นคือเกมเฉือนเบิร์นลีย์ 1-0 เมื่อช่วงต้นฤดูกาล
จำนวนแต้มที่หายไป หากไม่นับประตูจากนักเตะแอฟริกา
แมนฯ ยูไนเต็ด = -8
เอฟเวอร์ตัน = -5
ซันเดอร์แลนด์ = -5
เบรนท์ฟอร์ด = -4
พาเลซ = -3
ลิเวอร์พูล = -2
เบิร์นลีย์ = -2
ฟูแลม = -2
และเมื่อนำแต้มข้างต้นไปคำนวนใหม่ในตารางพรีเมียร์ลีก จะพบว่ายกเว้นท็อป 3 คือ อาร์เซนอล, แมนฯ ซิตี้ และ แอสตัน วิลลา จะเกิดการเปลี่ยนแปลงด้านอันดับพอสมควร
ไม่ว่าจะเป็น พาเลซ ที่ตกจากอันดับ 5 ไปอยู่อันดับ 7 สวนทางกับ ลิเวอร์พูล ที่ขึ้นจากที่ 6 มาอยู่อันดับ 5 หรือ ไบรท์ตัน ที่ขึ้นจากที่ 10 มาอยู่ที่ 6
แต่ทีมที่ได้รับผลกระทบหนักสุดก็ยังเป็น แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ร่วงจากอันดับ 8 ไปอยู่ที่ 12 ต่างจาก ซันเดอร์แลนด์ (7>9) และ เอฟเวอร์ตัน (9>11) ที่ตกลงแค่ 2 อันดับเท่านั้น
ทั้งนี้ แม้ว่าสิ่งเหล่านี้อาจไม่ใช่ตัวชี้วัดว่าการขาดนักเตะแอฟริกัน จะส่งผลอย่างไรอย่างแม่นยำ เพราะยังมีปัจจัยอื่นๆ อีกมากมาย แต่มันก็ช่วยฉายให้เห็นภาพว่าแต่ละทีมพึ่งพานักเตะจากทวีปนี้มากน้อยแค่ไหน
ส่วนพวกเขาจะเอาตัวรอดกันอย่างไร ในอีกเกือบ 1 เดือนที่เหลือต่อจากนี้ ก็คงต้องรอดูกันต่อไป
บทความที่เกี่ยวข้อง
พักบ้าง! ซาลาห์ตอบนักข่าวหลังถูกถามมีอะไรจะพูดอีกไหม "จะเอาสองสัปดาห์ติดเลยเหรอ?"
จำกันได้ไหม! ฟีร์มีโน ถึงกับเหวอ เจอกลุ่มคนหน้าเหมือนเพื่อนเก่าที่ลิเวอร์พูลเดินบุกมาหา
มิตรภาพไม่จางหาย! พาลเมอร์ เจอเพื่อนร่วมทีมเก่าที่เล่นนอกลีก ก่อนพูดคุยอย่างเป็นกันเอง