โจทย์ใหญ่ อาร์เนอ ชล็อต : 4 เหตุผลที่ลิเวอร์พูลกำลังฟอร์มตก

James Taweepong

โจทย์ใหญ่ อาร์เนอ ชล็อต : 4 เหตุผลที่ลิเวอร์พูลกำลังฟอร์มตก image

Getty Images

แม้จะเริ่มฤดูกาลด้วยฟอร์มร้อนแรงจากการชนะ 7 นัดรวดในทุกรายการ ส่งผลให้นำเป็นจ่าฝูงของศึก พรีเมียร์ลีก ด้วยการคว้าไป 15 แต้มเต็ม แต่จากนั้นอีก 3 นัดให้หลัง กลับกลายเป็นว่าทัพหงส์แดงนั้นแพ้รวดให้กับคู่แข่งไปทั้งหมด ทำให้ตอนนี้ถูก อาร์เซนอล แซงหน้านำเป็นจ่าฝูงเป็นที่เรียบร้อย โดยเหตุผลที่ทำให้ ลิเวอร์พูล ฟอร์มตกคืออะไร อาร์เนอ ชล็อต กุนซือชาวเนเธอร์แลนด์กำลังพบเจอกับปัญหาอะไรบ้าง? ติดตามไปกับทาง The Sporting News Thailand ได้ที่นี่

กราเฟนแบร์ก ถูกจับทางได้

เกมแรกที่ ลิเวอร์พูล นั้นต้องพบเจอกับความพ่ายแพ้คือนัดที่ออกไปเยือน คริสตัล พาเลซ โดยวันนั้นลูกทีมของ อาร์เนอ ชล็อต แพ้ไปด้วยสกอร์ 1-2 โดยหนึ่งในเหตุผลหลักคือการที่ ไรอัน กราเฟนแบร์ก กองกลางวัย 23 ปีนั้นถูกปิดตายจากฝั่งตรงข้าม  ซึ่งเกมนี้ คริสตัล พาเลซ ใช้กองหน้า 3 คนของพวกเขาอย่าง อิสไมลา ซาร์, เยเรมี ปิโน และ ฌอง-ฟิลิปป์ มาเตต้า เข้ากดดันแนวหลังของ ลิเวอร์พูล ทำให้ อลิสซอน เบ็คเกอร์, อิบราฮิมา โกนาเต้ และ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ไม่สามารถจ่ายบอลผ่านกลางเข้าไปให้ ไรอัน กราเฟนแบร์ก ได้ แถมตัว ไรอัน กราเฟนแบร์ก ก็ยังถูกประกบโดย อดัม วอร์ตัน อีกด้วย

ตัดมาที่เกม ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก กับ กาลาตาซาราย แม้คู่แข่งจะมาด้วยแท็คติกที่แตกต่างกัน แต่ยักษ์ใหญ่จากตุรกีทีมนี้ก็ยังคงวางแผนมาเล่นงาน ไรอัน กราเฟนแบร์ก เช่นกัน โดยเกมแพลนของ กาลาตาซาราย คือการให้ อิลคาย กุนโดกัน วิ่งเข้าไปปิดเส้นทางการจ่ายบอลของระหว่าง อลิสซอน เบ็คเกอร์ และ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ส่วนทาง วิคเตอร์ โอซิมเฮน ก็รับหน้าที่ยืนประกบกับ อิบราฮิมา โกนาเต้ ทำให้เส้นทางลำเลียงบอลตรงกลางถูกปิดเพื่อไม่ให้บอลนั้นมาถึง ไรอัน กราเฟนแบร์ก แต่ถ้าหากยังหลุดรอดมาได้ ลูคัส ตอร์เรย์รา ก็ยังรับหน้าที่ประกบ ไรอัน กราเฟนแบร์ก อยู่อีกต่อ

และเกมล่าสุดกับ เชลซี แน่นอนว่าพวกเขาก็ยังมาเล่นเหมือนกับ 2 ทีมก่อนหน้าคือปิดตาย ไรอัน กราเฟนแบร์ก เช่นกัน โดยทัพสิงห์บลูเหลือใช้ มาโล กุสโต และ เอ็นโซ เฟร์นันเดซ ประกบ ไรอัน กราเฟนแบร์ก เป็นหลัก ซึ่งนอกจากนั้นก็ยังปิดสิ้นทางบอลไปสู่ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ อีกด้วย และเมื่อ ไรอัน กราเฟนแบร์ก กำลังจะลำเลียงบอลออกทางขวาไปให้กับทั้ง โดมินิก โซบอสซ์ไล และ คอเนอร์ แบรดลีย์ ทั้ง อเลฮานโดร การ์นาโช และ มาร์ค คูคูเรญา ก็จะคอยเข้ามาช่วยงานตรงนี้

โดยที่กล่าวมาทั้งหมดเมื่อบอลมาไม่ถึง ไรอัน กราเฟนแบร์ก ก็ทำให้บอลไปไม่ถึง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ หรือแนวรุกคนอื่น ๆ และต่อให้มาถึง เขาเองก็จะไม่สามารถจ่ายบอลให้แนวรุกได้เล่นง่าย ๆ นั่นเอง

ไรอัน กราเฟนแบร์ก ในสีเสื้อของ ลิเวอร์พูล

Getty Images

ซาลาห์ ฟอร์มไม่เหมือนเดิม

ต่อจากหัวข้อที่ ไรอัน กราเฟนแบร์ก กำลังถูกจับทางได้ ตัวของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เอง ฟอร์มก็ดูจะดร็อปลงไปพอสมควร ซึ่งจริง ๆ ก็ดูจะไม่เหมือนเดิมตั้งแต่ช่วงฤดูกาลก่อนแล้ว แถมฤดูกาลนี้ยังถูกบีบให้เล่นยากอีก ดังนั้นเมื่อแนวรุกอันดับ 1 ของทีมถูกบีบให้เล่นยาก บวกกับฟอร์มของตัวเองที่ไม่ได้อยู่ในช่วงที่ดีที่สุด ก็เป็นอีกปัจจัยที่ช่วงหลัง ลิเวอร์พูล จะฟอร์มไม่ดีเหมือนอย่างก่อนหน้า ซึ่งแตกต่างจากปีก่อน ๆ เพราะแม้จะเสียประตู แต่ทัพหงส์แดงก็ยังมี โมฮาเหม็ด ซาลาห์ คอยบันดาลประตูให้อยู่บ่อย ๆ

โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ในสีเสื้อของ ลิเวอร์พูล

Getty Images

ตัวเลือกตำแหน่งปีกที่หายไป

หากไปดูในเกมที่บุกเยือน เชลซี กุนซือของทีมเจ้าบ้านอย่าง เอ็นโซ มาเรสก้า นั้นส่งทั้ง เจมี กิตเทนส์ และ เอสเตเวา ลงมาแทน เปโดร เนโต้ และ อเลฮานโดร กานาร์โช กลับกันทางฝั่งของ ลิเวอร์พูล นั้นมีตัวเลือกตำแหน่งปีกไม่มากเท่า แถมปีกตัวจริงก็ยังไม่อยู่ในฟอร์มที่ดีอีกด้วย แต่เกมดังกล่าว อาร์เนอ ชล็อต เองก็ยังคงจะไม่เลือกส่ง เฟเดริโก้ เคียซา ลงเล่นแทนปีกสักคนระหว่าง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ โคดี้ กัคโป ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลหลักที่ทำให้ ลิเวอร์พูล ฟอร์มตกลงในช่วงหลัง โดยผู้เล่นตำแหน่งปีกที่เหล่า เดอะค็อป น่าจะนึกถึงที่สุดในตอนนี้คงไม่พ้นชายที่ชื่อว่า หลุยส์ ดิอาซ

หลุยส์ ดิอาซ ในสีเสื้อของ ลิเวอร์พูล

Getty Images

การเปลี่ยนตัวที่ผิดพลาด

ต่อจากปัญหาเรื่องของผู้เล่นตำแหน่งปีกที่ อาร์เนอ ชล็อต ในช่วงหลัง ๆ นั้นเลือกที่จะไม่ส่ง เฟเดริโก้ เคียซา ลงเป็นสำรอง ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้าปีกชาวอิตาลีรายนี้ช่วยเซฟแต้มให้ ลิเวอร์พูล มาแล้ว โดยเกมกับ เชลซี กุนซือชาวเนเธอร์แลนด์กลับเลือกส่ง อูโก้ เอกิติเก้ ลงเล่นแทน อเล็กซานเดอร์ อิซัค ด้วยเหตุผลเรื่องความฟิตของกองหน้าชาวสวีเดน แต่เขาเองกลับไม่เปลี่ยนแนวรุกอย่าง เฟเดริโก้ เคียซา ลงเล่น ทั้ง ๆ ที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ โคดี้ กัคโป นั้นเล่นได้ไม่ดีนักในเกมนี้ แม้ว่าทาง โคดี้ กัคโป จะทำประตูให้กับทีมก็ตาม

และอีกอย่างคือการที่ อาร์เนอ ชล็อต ยังคงเชื่อมั่น ไรอัน กราเฟนแบร์ก ด้วยการขยับกองกลางรายนี้ลงไปเล่นกองหลังแทน อิบราฮิมา โกนาเต้ ในช่วงครึ่งหลัง แทนที่จะเอา โจ โกเมซ ลงมาเพื่อปิดเกม ทำให้สุดท้ายก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่โดน เชลซี ทำประตูใส่ในช่วงท้ายเกม

เฟเดริโก้ เคียซา ในสีเสื้อของ ลิเวอร์พูล

Getty Images

บทความที่เกี่ยวข้อง

James Taweepong

นักเขียน The Sporting News Thailand ผู้รักในฟุตบอลพรีเมียร์ลีก